หัวหน้าทีมจับกุมยาเสพติด นำลูกน้องเปิดหน้าออกทีวี ยอมรับทำงานผิดพลาด และพร้อมจะรับผิดชอบทั้งหมด ขณะที่ทีมจับกุมรับผิด แต่ไม่สำนึก ระบุขอให้ผู้เสียหายเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
จากกรณี น.ส.ณัฐชานันท์ สุขสันต์สมเจริญ อายุ 30 ปี ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาเพื่อสุขภาพ ถูกชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติด 10 นาย จู่โจมตรวจค้นรถ พร้อมทำร้ายร่างกายและทุบรถได้รับความเสียหาย ขณะจอดรถรอรับพี่ชายที่หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลบางนา เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าวันนี้ (2 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.ท.สุทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.ชลบุรี ได้นำลูกน้องอีก 3 นาย ซึ่งเป็นชุดจับกุมในวันเกิดเหตุ ได้ออกมาชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านทางรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่จริง หลังสืบทราบจากสายลับว่าจะมีการส่งยาเสพติดบริเวณหน้าห้างเซ็นทรัล บางนา และสายลับยังแจ้งว่ารถผู้ต้องหาที่นำมาเป็นรถสีฟ้า จนกระทั่งรถคันดังกล่าวขับมาในจุดเกิดเหตุจึงนำกำลังเข้าตรวจค้น แต่ไม่พบยาเสพติดแต่อย่างใด ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่ง ประกอบใกลักับจุดเกิดเหตุก็พบยาไอซ์ จำนวน 10 ถุง ตกอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุจริง
พ.ต.ท.สุทัศน์ กล่าวว่า กรณีที่ผู้เสียหายถูกทำร้ายร่างกายเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น อาจเกิดจากการกระแทกไปมา ยอมรับว่าการกระทำดังกล่าวรุนแรงและสร้างความตกใจให้แก่ผู้เสียหาย และยินยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด
พ.ต.ท.สุทัศน์ กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมาทีมชุดจับกุมทำงานจับยาเสพติดไม่เคยพลาด แต่ครั้งนี้ถือเป็นความผิดพลาดครั้งแรก และสิ่งที่เกิดขึ้นจะนำไปเป็นบทเรียนในการทำงานให้รัดกุมมากขึ้น เช่น การปฏิบัติงานอาจจะต้องติดบัตร หรือแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในครั้ง ตนก็จะเอาลูกน้องและชุดจับกุมทั้งหมดไปขอโทษผู้เสียหาย และจะยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ทางด้านเมื่อผู้ดำเนินรายการได้สอบถามนายตำรวจอีก 3 คนที่มาร่วมออกรายการด้วย โดยแต่ละคนได้ยอมรับว่าทำงานผิดพลาด แต่ยังไม่วายที่จะสำนึกผิดในการกระทำของทีมจับกุม พร้อมกับกล่าวว่าเหตุการณที่เกิดขึ้นดูเหมือนตำรวจทำเลวร้ายเกินไป ดังนั้น พวกตนอยากให้ผู้เสียหายเข้าใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากความเข้าใจผิด และรู้สึกน้อยใจที่ทำงานผิดพลาด แต่ก็พร้อมจะชดใช้
ด้าน พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผู้กำกับการ สน.บางนา เปิดเผยถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีว่า น.ส.ณัฐชานันท์ สุขสันต์สมเจริญ และ น.ส.พิชญดา ธำรงค์พรสวัสดิ์ อายุ 29 ปี ผู้จัดการแผนกบริษัทในเครือโภคภัณฑ์กำลังเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยคำให้การส่วนใหญ่เหมือนกับข่าวที่ลงไปก่อนหน้านี้ ส่วนคู่กรณีซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนในสังกัดหน่วยปราบปรามยาเสพติดของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ขณะนี้ยังไม่ได้เรียกมาสอบปากคำ ซึ่งต้องรอสอบปากคำผู้เสียหายให้แล้วเสร็จก่อน
รองผู้การฯชลบุรี พร้อมขอขมา “เซลส์สาว” อ้างเข้าใจผิด
ตำรวจรับทำเกินเหตุตบหน้า-ทุบรถเซลส์สาว พร้อมชดใช้ค่าเสียหาย
โวยตำรวจสุดเถื่อน! ตบหน้าเซลส์สาว-ทุบรถพังยับ เหตุเข้าใจผิดคิดว่าแก๊งยาบ้า
จากกรณี น.ส.ณัฐชานันท์ สุขสันต์สมเจริญ อายุ 30 ปี ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาเพื่อสุขภาพ ถูกชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติด 10 นาย จู่โจมตรวจค้นรถ พร้อมทำร้ายร่างกายและทุบรถได้รับความเสียหาย ขณะจอดรถรอรับพี่ชายที่หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลบางนา เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าวันนี้ (2 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.ท.สุทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.ชลบุรี ได้นำลูกน้องอีก 3 นาย ซึ่งเป็นชุดจับกุมในวันเกิดเหตุ ได้ออกมาชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านทางรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่จริง หลังสืบทราบจากสายลับว่าจะมีการส่งยาเสพติดบริเวณหน้าห้างเซ็นทรัล บางนา และสายลับยังแจ้งว่ารถผู้ต้องหาที่นำมาเป็นรถสีฟ้า จนกระทั่งรถคันดังกล่าวขับมาในจุดเกิดเหตุจึงนำกำลังเข้าตรวจค้น แต่ไม่พบยาเสพติดแต่อย่างใด ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่ง ประกอบใกลักับจุดเกิดเหตุก็พบยาไอซ์ จำนวน 10 ถุง ตกอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุจริง
พ.ต.ท.สุทัศน์ กล่าวว่า กรณีที่ผู้เสียหายถูกทำร้ายร่างกายเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น อาจเกิดจากการกระแทกไปมา ยอมรับว่าการกระทำดังกล่าวรุนแรงและสร้างความตกใจให้แก่ผู้เสียหาย และยินยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด
พ.ต.ท.สุทัศน์ กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมาทีมชุดจับกุมทำงานจับยาเสพติดไม่เคยพลาด แต่ครั้งนี้ถือเป็นความผิดพลาดครั้งแรก และสิ่งที่เกิดขึ้นจะนำไปเป็นบทเรียนในการทำงานให้รัดกุมมากขึ้น เช่น การปฏิบัติงานอาจจะต้องติดบัตร หรือแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในครั้ง ตนก็จะเอาลูกน้องและชุดจับกุมทั้งหมดไปขอโทษผู้เสียหาย และจะยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ทางด้านเมื่อผู้ดำเนินรายการได้สอบถามนายตำรวจอีก 3 คนที่มาร่วมออกรายการด้วย โดยแต่ละคนได้ยอมรับว่าทำงานผิดพลาด แต่ยังไม่วายที่จะสำนึกผิดในการกระทำของทีมจับกุม พร้อมกับกล่าวว่าเหตุการณที่เกิดขึ้นดูเหมือนตำรวจทำเลวร้ายเกินไป ดังนั้น พวกตนอยากให้ผู้เสียหายเข้าใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากความเข้าใจผิด และรู้สึกน้อยใจที่ทำงานผิดพลาด แต่ก็พร้อมจะชดใช้
ด้าน พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผู้กำกับการ สน.บางนา เปิดเผยถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีว่า น.ส.ณัฐชานันท์ สุขสันต์สมเจริญ และ น.ส.พิชญดา ธำรงค์พรสวัสดิ์ อายุ 29 ปี ผู้จัดการแผนกบริษัทในเครือโภคภัณฑ์กำลังเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยคำให้การส่วนใหญ่เหมือนกับข่าวที่ลงไปก่อนหน้านี้ ส่วนคู่กรณีซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนในสังกัดหน่วยปราบปรามยาเสพติดของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ขณะนี้ยังไม่ได้เรียกมาสอบปากคำ ซึ่งต้องรอสอบปากคำผู้เสียหายให้แล้วเสร็จก่อน
รองผู้การฯชลบุรี พร้อมขอขมา “เซลส์สาว” อ้างเข้าใจผิด
ตำรวจรับทำเกินเหตุตบหน้า-ทุบรถเซลส์สาว พร้อมชดใช้ค่าเสียหาย
โวยตำรวจสุดเถื่อน! ตบหน้าเซลส์สาว-ทุบรถพังยับ เหตุเข้าใจผิดคิดว่าแก๊งยาบ้า
