xs
xsm
sm
md
lg

เซลส์สาวเครียดขอเลื่อนชี้จุดเกิดเหตุ - “จงรัก” โผล่แจมสอบทีมโหด!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

2 เซลส์สาวเครียดจัดขอเลื่อนนัดตำรวจชี้จุดเกิดเหตุ อ้างไม่พร้อม ส่วน ผบก.จ.ชลบุรี รับพร้อมยอมรับผิดไม่ว่าผลสอบออกมาอย่างไร วอนผู้เสียหายเห็นใจทีมโหดที่ตั้งใจทำงาน สั่งตั้ง “ธีรพล” เป็นหัวหน้าสอบกำหนด 7 วัน สรุปเหตุที่เกิด ด้าน “จงรัก” ไม่พลาดโผล่สอบด้วย

วันนี้ (3 มี.ค.) พล.ต.ต.บัณฑิต คุณจักร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยถึงความคืบหน้า จากกรณี น.ส.ณัฐชานันท์ สุขสันต์สมเจริญ อายุ 30 ปี ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาบริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด และ น.ส.พิชญดา ธำรงค์พรสวัสดิ์ อายุ 29 ปี ผู้จัดการบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางนา ว่าถูกตำรวจกลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.ชลบุรี กว่า 10 นายจู่โจมเข้าตรวจค้นรถ พร้อมทั้งทำร้ายร่างกาย และทุบรถจนได้รับความเสียหาย ยืนยันว่าไม่ว่าผลสอบจะออกมาอย่างไร ในฐานะผู้บังคับบัญชาก็พร้อมยอมรับผิด และพร้อมชดใช้ความเสียหาย อยากขอร้องผู้เสียหายเห็นใจชุดทำงานที่มีความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ และเมื่อสักครูที่ผ่านมา พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เพื่อมอบนโยบายด้านการปราบปรามยาเสพติด และคดีอุกฉกรรจ์ทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ว่า จะมีการเรียกชุดสืบสวนไปสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคดีนี้ได้แต่งตั้ง พ.ต.อ.ธีรพล จินดาหลวง รองผบก.ภ.จว.ชลบุรี เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวน กำหนดระยะเวลา 7 วันในการสรุปผลการปฏิบัติหน้าที่ของชุดสืบสวน เพื่อหาสาเหตุของความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

ด้าน พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผกก.สน.บางนา กล่าวว่า น.ส.ณัฐชานันท์ สุขสันต์สมเจริญ และน.ส.พิชญาดา ธำรงค์พรสวัสดิ์ ผู้เสียหายที่ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบขู่กรรโชกและทำร้ายร่างกายเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นกลุ่มค้ายาเสพติด ได้แจ้งขอเลื่อนการชี้จุดเกิดเหตุ เนื่องจากยังไม่พร้อมและมีความเครียดมาก ซึ่งหลังจากนี้จะให้ทางผู้เสียหายนัดแนะกับทางพนักงานสอบสวนเองว่าต้องการไปชี้เมื่อใด

พ.ต.อ.คมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้หากผู้เสียหายที่ต้องการสิ่งใดเพิ่มเติม ก็จะให้แจ้งไปทางพนักงานสอบสวนได้ โดยหลังจากเสร็จสิ้นการสอบปากคำ ทำสำนวนคดี และสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุกับพยานแวดล้อมเสร็จแล้วพบว่ามีใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตการณ์ครั้งนี้ก็จะเรียกตัวผู้นั้นมาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งก็น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในเหตุการณ์ในคืนวันเกิดเหตุ

พ.ต.อ.คมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า รู้สึกเห็นใจที่ผู้เสียหายและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงาน จากการพูดคุยกับชุดจับกุมยาเสพติดดังกล่าวทราบว่ามีการส่งยาเสพติดจากกลุ่มผู้ค้ารายใหญ่บริเวณดังกล่าวจริง แต่ขณะเกิดเหตุสายข่าวรายงานให้จับผู้ค้าผิดตัวจึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นนี้ขึ้น ซึ่งรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์นี้จริงๆ พร้อมเตรียมนัดให้ตำรวจชุดจับกุมดังกล่าวเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนเร็วๆ นี้

พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. (ปป. 3) เปิดเผยภายหลังเดินทางไปประชุมข้าราชการตำรวจในสังกัด บช.ภ.2 ว่า คดีกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.ชลบุรี กระทำการเกินกว่าเหตุเป็นเรื่องที่ต้องสอบสวนตามกระบวนการยุติธรรม และคงจะต้องถือเป็นบทเรียนสำคัญว่า ในการจับกุมผู้ต้องหาอย่าไปตั้งเป้าถึง 100 เปอร์เซ็นต์ว่า ผู้ถูกจับกุมเป็นผู้กระทำความผิดที่แท้จริง ควรเผื่อเอาไว้สัก 20 เปอร์เซ็นต์อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ตัวอย่างเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ทุกสิ่งทุกอย่างอาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่เราคิด แต่มีเหตุผันแปรอยู่เสมอ แม้สายลับจะบอกเป็นรถเก๋งสีฟ้า ก็ต้องเผื่อใจเอาไว้บ้างว่า รถเก๋งสีฟ้ามีจำนวนเป็นร้อยเป็นพันคัน อาจจะไม่ใช่ก็ได้

พล.ต.อ.จงรักกล่าวต่อว่า การเข้าจับกุมควรต้องมีการแสดงตัวให้รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว คงไม่มีใครขัดขืนและยินยอมที่จะเปิดประตูรถให้ตรวจค้น แต่คดีนี้ไม่บอกให้ทราบว่า เป็นใคร ผู้เสียหายก็ต้องตกใจกลัวกันทั้งนั้น ยิ่งเป็นผู้หญิงแล้วมีชายฉกรรจ์เป็น 10 คน มาล้อมรถในเวลากลางคืน ยิ่งตกใจไปกันใหญ่ จึงเป็นบทเรียนสำคัญที่ผู้บังคับบัญชาต้องไปอบรมวิธีการเข้าจับกุมให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทราบว่าต่อไปนี้ในการเข้าตรวจค้นจับกุมจะต้องทำอย่างไรบ้าง

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นจับกุมเป็นเรื่องที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน ขณะนั้นอาจไม่ใช่คนร้ายก็ได้ การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนจากการถูกตรวจค้นจับกุมก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะยังต้องถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ จนกว่าจะมีการสอบสวนพยานหลักฐานให้ชัดเจนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดจึงจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติรู้สึกเสียใจต่อสุภาพสตรีทั้ง 2 ท่าน แม้จะทราบว่าตำรวจที่เข้าตรวจค้นจับกุมมีความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็ต้องกลับไปทบทวนการทำงานเสียใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นมาอีก

“เซลส์สาว” ฮึดสู้! แจ้งจับสีกากีเถื่อน-จ่อเรียกชุดจับกุมมารับทราบข้อกล่าวหา
ทีมโหด! ออกทีวีขอโทษ “เซลส์สาว” ไม่สำนึกวอนเหยื่อให้เข้าใจตำรวจ
รองผู้การฯชลบุรี พร้อมขอขมา “เซลส์สาว” อ้างเข้าใจผิด
ตำรวจรับทำเกินเหตุตบหน้า-ทุบรถเซลส์สาว พร้อมชดใช้ค่าเสียหาย
โวยตำรวจสุดเถื่อน! ตบหน้าเซลส์สาว-ทุบรถพังยับ เหตุเข้าใจผิดคิดว่าแก๊งยาบ้า
.ส.ณัฐชานันท์ สุขสันต์สมเจริญ อายุ 30 ปี ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาบริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด ผู้เสียหายชี้ให้ดูกระจกรถที่ทุบ
ชี้ให้ดูแผลบริเวณใบหน้า ที่อ้างว่าถูกตำรวจชุดจับกุมตบ
กำลังโหลดความคิดเห็น