ลืออีกประชุม ครม.พรุ่งนี้ย้าย “ทวี สอดส่อง” พ้นดีเอสไอแน่ ให้ “ชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ” ทำหน้าที่แทน พร้อมเด้งเลขาธิการ ป.ป.ส.เข้ากรุผู้ตรวจสลับกับ “ภิญโญ ทองชัย”
วันนี้ (23 ก.พ.) รายงานข่าวจากกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (24 ก.พ.) ที่จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนกระทรวงยุติธรรมจะเสนอรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ของกระทรวง เป็นวาระจรเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยเสนอให้ครม.พิจารณามีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม และให้นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ทำหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ โดยนายชาญเชาวน์เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนิติศาสตร์ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มาเป็นอธิบดีดีเอสไอแทน นอกจากนี้ยังเสนอย้ายตำแหน่งอื่นเช่น น.ส.กัญญานุช สอทิพย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้ในสมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชน น.ส.กัญญานุชถูกย้ายจากอธิบดีกรมบังคับคดีเข้ามาเป็นผู้ตรวจราชการ
รายงานข่าวเปิดเผยอีกว่า ในส่วนของ พล.ต.ท.กฤษณะ ผลอนันต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เสนอให้ย้ายมาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง เพื่อสลับให้นายภิญโญ ทองชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวง ไปเป็นเลขาธิการ ป.ป.ส.แทน
สำหรับ พ.ต.อ.ทวี ในขณะที่ดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ ทำหน้าที่รับผิดชอบคดีสำคัญหลายคดี โดยเฉพาะคดีไซฟ่อนเงิน 250 ล้านบาท ในช่วงการรณรงค์หารเสียงการเลือกตั้งวันที่ 6 ก.พ.2548 จากบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) โดยนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ยอมรับว่าเป็นเงินที่จ่ายให้ค่าทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่เงินจำนวนดังกล่าวกลับถูกทยอยผ่องถ่ายออกไปจากบริษัท แมซไซอะ แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด
อย่างไรก็ตามยังมีกระแสข่าวลือถึงสาเหตุการตัดสินใจย้าย พ.ต.อ.ทวี อีกกระแสหนึ่งด้วยว่าเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ประจำเดือนกุมภาพันธ์ครั้งที่ผ่านมา บอร์ด กพค. ไม่รับโอนคดีเพลิงไหม้ซานติก้าผับ และความผิดเกี่ยวเนื่องเป็นคดีพิเศษ โดยมีคะแนนสนับสนุนให้โอนคดีเพียง 7 เสียง จากกรรมการทั้งสิ้น 22 เสียง ทำให้ดีเอสไอไม่สามารถดำเนินคดีเกี่ยวกับการละเว้นไม่จัดเก็บภาษีจากซานติก้าผับ รวมทั้งส่งผลให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการทั้งในส่วนการจัดเก็บภาษี การอนุมัติแบบก่อสร้าง และการตรวจสอบสถานบันเทิงของตำรวจในท้องที่ได้
วันนี้ (23 ก.พ.) รายงานข่าวจากกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (24 ก.พ.) ที่จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนกระทรวงยุติธรรมจะเสนอรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ของกระทรวง เป็นวาระจรเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยเสนอให้ครม.พิจารณามีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม และให้นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ทำหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ โดยนายชาญเชาวน์เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนิติศาสตร์ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มาเป็นอธิบดีดีเอสไอแทน นอกจากนี้ยังเสนอย้ายตำแหน่งอื่นเช่น น.ส.กัญญานุช สอทิพย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้ในสมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชน น.ส.กัญญานุชถูกย้ายจากอธิบดีกรมบังคับคดีเข้ามาเป็นผู้ตรวจราชการ
รายงานข่าวเปิดเผยอีกว่า ในส่วนของ พล.ต.ท.กฤษณะ ผลอนันต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เสนอให้ย้ายมาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง เพื่อสลับให้นายภิญโญ ทองชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวง ไปเป็นเลขาธิการ ป.ป.ส.แทน
สำหรับ พ.ต.อ.ทวี ในขณะที่ดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ ทำหน้าที่รับผิดชอบคดีสำคัญหลายคดี โดยเฉพาะคดีไซฟ่อนเงิน 250 ล้านบาท ในช่วงการรณรงค์หารเสียงการเลือกตั้งวันที่ 6 ก.พ.2548 จากบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) โดยนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ยอมรับว่าเป็นเงินที่จ่ายให้ค่าทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่เงินจำนวนดังกล่าวกลับถูกทยอยผ่องถ่ายออกไปจากบริษัท แมซไซอะ แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด
อย่างไรก็ตามยังมีกระแสข่าวลือถึงสาเหตุการตัดสินใจย้าย พ.ต.อ.ทวี อีกกระแสหนึ่งด้วยว่าเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ประจำเดือนกุมภาพันธ์ครั้งที่ผ่านมา บอร์ด กพค. ไม่รับโอนคดีเพลิงไหม้ซานติก้าผับ และความผิดเกี่ยวเนื่องเป็นคดีพิเศษ โดยมีคะแนนสนับสนุนให้โอนคดีเพียง 7 เสียง จากกรรมการทั้งสิ้น 22 เสียง ทำให้ดีเอสไอไม่สามารถดำเนินคดีเกี่ยวกับการละเว้นไม่จัดเก็บภาษีจากซานติก้าผับ รวมทั้งส่งผลให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการทั้งในส่วนการจัดเก็บภาษี การอนุมัติแบบก่อสร้าง และการตรวจสอบสถานบันเทิงของตำรวจในท้องที่ได้
