“ชูวิทย์” ส่งทนายขอเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาฎีกา คดีหมิ่น จนท.ราชทัณฑ์ กรณีข้าวผัด 5,000 บาท เหตุเจ้าตัวติดภารกิจต้องไปเยี่ยมญาติที่เมืองจีน ศาลนัดอีกครั้ง 23 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
วันนี้ (20 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 610 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่ นายธีระชัย เจษฎารักษ์ อดีตเจ้าหน้าที่บริหารงานอบรมและฝึกวิชาชีพ 7 กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตผู้ต้องหาในคดีรื้อบาร์เบียร์สุขุมวิทสแควร์ เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
อย่างไรก็ดี ในวันนี้ (20 ก.พ.) นายชูวิทย์ไม่ได้เดินทางมาศาล แต่ได้มอบหมายให้ทนายความนำสำเนาการจองตั๋วเครื่องบินที่จองไว้ล่วงหน้า ก่อนจะได้รับหมายนัดฟังคำพิพากษาฎีกา โดยนายชูวิทย์ติดภารกิจพาครอบครัวเดินทางไปไหว้บรรพบุรุษที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน ในเช้าวันที่ 20 ก.พ. ซึ่งตรงกับวันนัดฟังคำพิพากษา ศาลเห็นว่ากรณีมีเหตุจำเป็นจึงให้เลื่อนการฟังคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 23 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้สืบเนื่องจากที่นายชูวิทย์เข้าร้องเรียนต่อนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ยุติธรรม ในขณะนั้นว่าต้องจ่ายเงิน 5,000 ให้แก่นายธีระชัยเพื่อแลกกับการได้กินข้าวผัดขณะถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขังศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีรื้อบาร์เบียร์ เมื่อต้องวานให้ น.ส.สุรัชฎา แววศรี ภรรยานั่งซ้อนจักรยานยนต์รับจ้างไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม จำนวน 5,000 บาท มามอบให้แก่นายธีระชัย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ค.46
ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาว่าจำเลยมีคนขี่รถจักรยานยนต์ และเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ น.ส.สุรัชฎา ไปกดเงิน มาเบิกความสนับสนุน ทำให้พยานหลักฐานจำเลยมีน้ำหนักมั่นคงมากกว่าโจทก์ ข้อเท็จจริงรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จึงพิพากษายกฟ้อง โจทก์ยื่นฎีกา