เห็นมติของคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมาแล้วหนาว แต่เป็นการหนาวแทน "พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์" ผบก.อุดรธานี ในข้อหา ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปล่อยให้กลุ่มประชาชนจำนวนมากพร้อมอาวุธหลายชนิด บุกเข้าทำร้ายประชาชนที่จัดชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ณ บริเวณสวนสาธารณะหนองประจักษ์ จังหวัดอุดรธานี โดยมติป.ป.ช.เห็นว่า พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ มีมูลเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละทิ้ง หรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการ และกระทำหรือละเว้นการกระทำใดๆ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง โดยให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษทางวินัย และให้ส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุด ให้ฟ้องร้องกดำเนินคดีด้วย
พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ มิได้เป็นนายตำรวจรายแรก ที่ถุกป.ปช.ชี้มูลความผิด เกี่ยวกับการปล่อยให้อันธพาลเข้าไปรุมทำร้ายประชาชน ก่อนหน้านี้ "พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา" หรือโอ๋ สืบ 6 อดีตผกก.สส.บก.น.6 หรือภายใต้ชื่อและสกุลใหม่ "พ.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์" ซึ่งแปลว่า "เปี่ยมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สิน ทรงไว้ซึ่งความรู้อันเจิดจรัส(รุ่งเรือง)" ก็ถูกป.ป.ช.สอยมาแล้ว จนต้องออกจากราชการ ในกรณีเดียวกันกับพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ณ เวลานี้ นอกจากนี้ ยังมี"พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์" อดีตผบก.น.6 ที่ถูกป.ป.ช.สอยเช่นเดียวกันกับกรณี"โอ๋ สืบ 6" เพียงแต่พล.ต.ต.มานิตย์ ดูจะมีภาษีดีกว่า"โอ๋ สืบ6"ที่จะหวนกลับเข้ามารับราชการตามเดิมได้
ไม่รู้ว่า หากย้อนกลับไปในอดีตได้ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ จะกระทำการในลักษณะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยให้คนไทยทำร้ายและเข่นฆ่ากันเอง โดยที่ตัวเองทำเป็นไม่รู้ร้อน ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์หรือไม่ แต่โดยสามัญสำนึกของการเป็นผู้นำหน่วยระดับจังหวัด เป็นถึงผู้บังคับการ ที่มีอำนาจการสั่งการอยู่ในมืออย่างมหาศาล กลับไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้คนไทย ต้องเข้าห่ำหั่นกันเอง
ในมติของป.ป.ช.ระบุว่า "นายสุพจน์ เลาวัณย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้ประชุมส่วนราชการต่างๆ ภายใต้การกำกับดูแลของจังหวัดอุดรธานี เพื่อสรุปความพร้อมในการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ กลุ่มประชาชนคนรักชาติ และกลุ่มชมรมคนรักอุดร ซึ่งจะมีขึ้นในวันดังกล่าว โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ในฐานะผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เป็นผู้ควบคุมบังคับบัญชาการปฏิบัติการทั้งหมด และสั่งการให้ทุกหน่วยที่ร่วมปฏิบัติการอยู่ภายใต้การควบคุมบังคับบัญชาของ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ โดยให้ นายยุทธนา วิริยะกิตติ ปลัดจังหวัดอุดรธานี และนายอำเภอเมืองอุดรธานี เป็นผู้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดกำลังสมาชิก อส.สมาชิก อปพร.สนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้กำชับนโยบายเด็ดขาด คือ ป้องกันมิให้กลุ่มผู้ชุมนุมแต่ละกลุ่มทำร้ายกัน โดยก่อนหน้านั้น พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้บังคับบัญชา และได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ภัทราวุธ เอื้อมศศิธร และ พ.ต.อ.บุญลือ กอบางยาง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้า ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของการชุมนุมดังกล่าว..... พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ให้เป็นผู้ควบคุมบังคับบัญชาการปฏิบัติการทั้งหมด ไม่ได้ใส่ใจที่จะติดตามดูแล ควบคุมการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่มชมรมคนรักอุดร เป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์ทำร้ายประชาชนจนได้รับอันตรายแก่กายและบาดเจ็บสาหัส รวมทั้งทรัพย์สินได้รับความเสียหาย"
หากมองย้อนกลับไปดูประวัติพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์นั้น รับราชการเติบโตมาในพื้นที่บช.ภ.3 และ บช.ภ.4 มาโดยตลอด จึงไม่แปลกที่พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ อาจจะรู้จักมักคุ้นกับบรรดานักการเมือง ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ก่อนย้ายมาเป็นผู้การเมืองอุดรฯ ซึ่งถือเป็นเมืองเกรดเอ ของตำรวจ นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนเสื้อแดงอุดรฯ เคยพุดบนเวทีงานเลี้ยงในสมัยที่พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ยังเป็นผู้การมุกดาหาร ว่า จะย้ายพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์มาเป็นผู้การอุดรให้ได้ แล้วก็เป็นจริงดังคำกล่าวของนายขวัญชัย ซึ่งหลังจากมาเป็นผู้การอุดรแล้ว ก็ยังปรากฏภาพพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ สวมเครื่องแบบเต็มยศ ถ่ายรูปคู่ นายขวัญชัย ไพรพนา ในวันคล้ายวันเกิดของนายขวัญชัยบนเวทีงานเลี้ยงด้วย
ไม่อาจหยั่งจิตใจของพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ในเวลานี้ได้ว่าคิดอย่างไรกับมติของป.ป.ช.ที่ออกมา แต่เจ้าตัวน่าจะรู้แล้วว่า อนาคตจะเป็นเช่นไร เพราะกรณีของพ.ต.อ.ฤทธิรงค์ และพล.ต.ต.มานิตย์ ก็มีให้เห็นเป็นประจักษ์อยู่แล้ว หากตำรวจ ไม่พิทักษ์ปกป้องความผาสุขให้กับประชสาชน แล้วจะสวมเครื่องแบบ"ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์"ไว้ทำไม!
พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ จบการศึกษา ม.ศ.5 จากโรงเรียนอำนวยศิลป์ กทม. จบปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโทศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น เข้าอบรมหลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจพิเศษ ผู้มีคุณวุฒิปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิต รัฐศาสตร์บัณฑิต รุ่นที่ 7 (นบ.รบ.รุ่น 7) หลักสูตรผู้กำกับการ รุ่นที่ 28 หลักสูตรบริหารงานตำรวจชั้นสูง รุ่นที่ 21
หลังจบนบ.รบ.รุ่น 7 เมื่อ 1 ก.ย.2520 เข้าดำรงตำแหน่ง รอง สว.สภ.อ.จักราช จ.นครราชสีมา,1 มิ.ย.2521 ดำรงตำแหน่ง รอง สว.สภ.กิ่ง อ.เสิงสาง จว.นครราชสีมา, 22 พ.ย.2522 ดำรงตำแหน่ง รอง สวส.สภ.อ.สูงเนิน จว.นครราชสีมา,16 ต.ค.2527 ดำรงตำแหน่ง สว.ผ.สถิติวิจัยและวางแผน กก. สช.บก.บช.ภ.2 , 16 ม.ค.2528 ดำรงตำแหน่ง สวส.สภ.อ.คอนสาร จว.ชัยภูมิ, 22 มี.ค.2529 ดำรงตำแหน่ง สวส.สภ.อ.เมืองชัยภูมิ จว.ชัยภูมิ,16 ธ.ค.2532 ดำรงตำแหน่ง สวส.สภ.อ.เมืองขอนแก่น จว.ขอนแก่น,1 ต.ค.2534 ดำรงตำแหน่ง สวญ.สภ.อ.พระยืน จว.ขอนแก่น,25 ม.ค.2537 ดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.หน.สภ.อ.พระยืน จว.ขอนแก่น,1 ก.พ.2538 ดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.หน.สภ.อ.จตุรัส จว.ชัยภูมิ,
25 ต.ค.2539 ดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.อ.บ้านไผ่ จว.ขอนแก่น,16 ม.ค.2543 ดำรงตำแหน่ง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น,25 มิ.ย.2544 ดำรงตำแหน่ง รอง ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม,18 ธ.ค.2546 ดำรงตำแหน่ง รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร,1 ต.ค.2548 ดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร และ 31 พ.ค.2551 ดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี
เกียรติประวัติระหว่างรับราชการ ได้รับประกาศเกียรติคุณเป็นพนักงานสอบสวนดีเด่น ระดับสารวัตร ของกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 6,โล่ และประกาศเกียรติคุณพนักงานสอบสวนดีเด่น ระดับสารวัตรของกรมตำรวจประจำปี 2534,ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทวิติยาภรณ์มงกุฎไทย ปี 2541,ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทวิติยาภรณ์ช้างเผือก ปี 2544,ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสรอยาภรณ์ ประถมาภรณ์มงกุฏไทย ปี 2548,มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้นายตำรวจชั้นสัญญาบัตร รับราชการสนองพระเดชพระคุณในหน้าที่นายตำรวจราชสำนัก ปี 2549,ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร และได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดมุกดาหาร ปี 2549,ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ ด้านการปราบปรามยาเสพติดดีเด่น ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันการปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรมจาก พลเอก สุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2550 ณ ทำเนียบรัฐบาล
พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ มิได้เป็นนายตำรวจรายแรก ที่ถุกป.ปช.ชี้มูลความผิด เกี่ยวกับการปล่อยให้อันธพาลเข้าไปรุมทำร้ายประชาชน ก่อนหน้านี้ "พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา" หรือโอ๋ สืบ 6 อดีตผกก.สส.บก.น.6 หรือภายใต้ชื่อและสกุลใหม่ "พ.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์" ซึ่งแปลว่า "เปี่ยมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สิน ทรงไว้ซึ่งความรู้อันเจิดจรัส(รุ่งเรือง)" ก็ถูกป.ป.ช.สอยมาแล้ว จนต้องออกจากราชการ ในกรณีเดียวกันกับพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ณ เวลานี้ นอกจากนี้ ยังมี"พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์" อดีตผบก.น.6 ที่ถูกป.ป.ช.สอยเช่นเดียวกันกับกรณี"โอ๋ สืบ 6" เพียงแต่พล.ต.ต.มานิตย์ ดูจะมีภาษีดีกว่า"โอ๋ สืบ6"ที่จะหวนกลับเข้ามารับราชการตามเดิมได้
ไม่รู้ว่า หากย้อนกลับไปในอดีตได้ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ จะกระทำการในลักษณะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยให้คนไทยทำร้ายและเข่นฆ่ากันเอง โดยที่ตัวเองทำเป็นไม่รู้ร้อน ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์หรือไม่ แต่โดยสามัญสำนึกของการเป็นผู้นำหน่วยระดับจังหวัด เป็นถึงผู้บังคับการ ที่มีอำนาจการสั่งการอยู่ในมืออย่างมหาศาล กลับไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้คนไทย ต้องเข้าห่ำหั่นกันเอง
ในมติของป.ป.ช.ระบุว่า "นายสุพจน์ เลาวัณย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้ประชุมส่วนราชการต่างๆ ภายใต้การกำกับดูแลของจังหวัดอุดรธานี เพื่อสรุปความพร้อมในการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ กลุ่มประชาชนคนรักชาติ และกลุ่มชมรมคนรักอุดร ซึ่งจะมีขึ้นในวันดังกล่าว โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ในฐานะผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เป็นผู้ควบคุมบังคับบัญชาการปฏิบัติการทั้งหมด และสั่งการให้ทุกหน่วยที่ร่วมปฏิบัติการอยู่ภายใต้การควบคุมบังคับบัญชาของ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ โดยให้ นายยุทธนา วิริยะกิตติ ปลัดจังหวัดอุดรธานี และนายอำเภอเมืองอุดรธานี เป็นผู้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดกำลังสมาชิก อส.สมาชิก อปพร.สนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้กำชับนโยบายเด็ดขาด คือ ป้องกันมิให้กลุ่มผู้ชุมนุมแต่ละกลุ่มทำร้ายกัน โดยก่อนหน้านั้น พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้บังคับบัญชา และได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ภัทราวุธ เอื้อมศศิธร และ พ.ต.อ.บุญลือ กอบางยาง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้า ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของการชุมนุมดังกล่าว..... พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ให้เป็นผู้ควบคุมบังคับบัญชาการปฏิบัติการทั้งหมด ไม่ได้ใส่ใจที่จะติดตามดูแล ควบคุมการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่มชมรมคนรักอุดร เป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์ทำร้ายประชาชนจนได้รับอันตรายแก่กายและบาดเจ็บสาหัส รวมทั้งทรัพย์สินได้รับความเสียหาย"
หากมองย้อนกลับไปดูประวัติพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์นั้น รับราชการเติบโตมาในพื้นที่บช.ภ.3 และ บช.ภ.4 มาโดยตลอด จึงไม่แปลกที่พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ อาจจะรู้จักมักคุ้นกับบรรดานักการเมือง ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ก่อนย้ายมาเป็นผู้การเมืองอุดรฯ ซึ่งถือเป็นเมืองเกรดเอ ของตำรวจ นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนเสื้อแดงอุดรฯ เคยพุดบนเวทีงานเลี้ยงในสมัยที่พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ยังเป็นผู้การมุกดาหาร ว่า จะย้ายพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์มาเป็นผู้การอุดรให้ได้ แล้วก็เป็นจริงดังคำกล่าวของนายขวัญชัย ซึ่งหลังจากมาเป็นผู้การอุดรแล้ว ก็ยังปรากฏภาพพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ สวมเครื่องแบบเต็มยศ ถ่ายรูปคู่ นายขวัญชัย ไพรพนา ในวันคล้ายวันเกิดของนายขวัญชัยบนเวทีงานเลี้ยงด้วย
ไม่อาจหยั่งจิตใจของพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ในเวลานี้ได้ว่าคิดอย่างไรกับมติของป.ป.ช.ที่ออกมา แต่เจ้าตัวน่าจะรู้แล้วว่า อนาคตจะเป็นเช่นไร เพราะกรณีของพ.ต.อ.ฤทธิรงค์ และพล.ต.ต.มานิตย์ ก็มีให้เห็นเป็นประจักษ์อยู่แล้ว หากตำรวจ ไม่พิทักษ์ปกป้องความผาสุขให้กับประชสาชน แล้วจะสวมเครื่องแบบ"ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์"ไว้ทำไม!
พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ จบการศึกษา ม.ศ.5 จากโรงเรียนอำนวยศิลป์ กทม. จบปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโทศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น เข้าอบรมหลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจพิเศษ ผู้มีคุณวุฒิปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิต รัฐศาสตร์บัณฑิต รุ่นที่ 7 (นบ.รบ.รุ่น 7) หลักสูตรผู้กำกับการ รุ่นที่ 28 หลักสูตรบริหารงานตำรวจชั้นสูง รุ่นที่ 21
หลังจบนบ.รบ.รุ่น 7 เมื่อ 1 ก.ย.2520 เข้าดำรงตำแหน่ง รอง สว.สภ.อ.จักราช จ.นครราชสีมา,1 มิ.ย.2521 ดำรงตำแหน่ง รอง สว.สภ.กิ่ง อ.เสิงสาง จว.นครราชสีมา, 22 พ.ย.2522 ดำรงตำแหน่ง รอง สวส.สภ.อ.สูงเนิน จว.นครราชสีมา,16 ต.ค.2527 ดำรงตำแหน่ง สว.ผ.สถิติวิจัยและวางแผน กก. สช.บก.บช.ภ.2 , 16 ม.ค.2528 ดำรงตำแหน่ง สวส.สภ.อ.คอนสาร จว.ชัยภูมิ, 22 มี.ค.2529 ดำรงตำแหน่ง สวส.สภ.อ.เมืองชัยภูมิ จว.ชัยภูมิ,16 ธ.ค.2532 ดำรงตำแหน่ง สวส.สภ.อ.เมืองขอนแก่น จว.ขอนแก่น,1 ต.ค.2534 ดำรงตำแหน่ง สวญ.สภ.อ.พระยืน จว.ขอนแก่น,25 ม.ค.2537 ดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.หน.สภ.อ.พระยืน จว.ขอนแก่น,1 ก.พ.2538 ดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.หน.สภ.อ.จตุรัส จว.ชัยภูมิ,
25 ต.ค.2539 ดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.อ.บ้านไผ่ จว.ขอนแก่น,16 ม.ค.2543 ดำรงตำแหน่ง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น,25 มิ.ย.2544 ดำรงตำแหน่ง รอง ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม,18 ธ.ค.2546 ดำรงตำแหน่ง รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร,1 ต.ค.2548 ดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร และ 31 พ.ค.2551 ดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี
เกียรติประวัติระหว่างรับราชการ ได้รับประกาศเกียรติคุณเป็นพนักงานสอบสวนดีเด่น ระดับสารวัตร ของกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 6,โล่ และประกาศเกียรติคุณพนักงานสอบสวนดีเด่น ระดับสารวัตรของกรมตำรวจประจำปี 2534,ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทวิติยาภรณ์มงกุฎไทย ปี 2541,ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทวิติยาภรณ์ช้างเผือก ปี 2544,ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสรอยาภรณ์ ประถมาภรณ์มงกุฏไทย ปี 2548,มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้นายตำรวจชั้นสัญญาบัตร รับราชการสนองพระเดชพระคุณในหน้าที่นายตำรวจราชสำนัก ปี 2549,ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร และได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดมุกดาหาร ปี 2549,ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ ด้านการปราบปรามยาเสพติดดีเด่น ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันการปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรมจาก พลเอก สุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2550 ณ ทำเนียบรัฐบาล