xs
xsm
sm
md
lg

“วิทยา” รมว.สธ.คนใหม่ไม่ฟันธงทำ CL สานต่องาน “เฉลิม” ห้ามขายเหล้าช่วงเทศกาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“วิทยา” รมว.สาธารณสุขคนใหม่ ชูนโยบายป้องกันก่อนรักษา รับปากสานต่อห้ามขายเหล้าเทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ลดอุบัติเหตุ ผลักดัน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายทางการแพทย์ เพิ่มค่าตอบแทนแก้ปัญหาขาดแคลนแพทย์-พยาบาล พร้อมเน้นเข้าถึงยาราคาแพง แต่อ่อมแอ้มไม่ฟันธงทำซีแอล ด้าน “หมอวิชัย” ระบุ วิทยา ไม่ใช่คนนอกวงการ เพราะมีเมียเป็นพยาบาล พร้อมเป็นกำลังให้ทำงาน ขณะที่แพทย์ชนบทฝากรื้อคดีทุจริตคอมพ์ฉาว-รถพยาบาลกู้ชีพฉุกเฉิน สอบสวนใหม่ อ้างไม่โปร่งใส
นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุขคนใหม่
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจในการเข้ามาดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข เนื่องจากเป็นกระทรวงที่มีระบบการทำงานที่ดีอยู่แล้ว ส่วนนโยบายด้านสาธารณสุขอยู่ระหว่างการจัดทำนโยบายโดยปรึกษาหารือกับทางพรรคก่อน เพื่อที่จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยจะเน้นการกระตุ้นให้เกิดการป้องกันโรคมากกว่าการรักษาพยาบาล ซึ่งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่มีอยู่กว่า 8 แสนคน เป็นองค์กรที่มีความเข็มแข็งเป็นกำลังสำคัญในการป้องกันโรคเชิงรุก การสร้างขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาล พร้อมทั้งส่งเสริมการเข้าถึงการบริการสุขภาพของประชาชน

นายวิทยา กล่าวต่อว่า ส่วนนโยบายรัฐบาลเดิมที่มีประโยชน์ต่อประชาชนก็จะสานต่อ โดยเฉพาะการกำหนดห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และวันสำคัญทางศาสนา จะต้องดำเนินการต่ออย่างแน่นอน ส่วนในช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้อาจจะไม่ทัน อย่างไรก็ตาม จะเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าจะสามารถทำได้ทันเวลาหรือไม่ เนื่องจากเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ตนอยากให้การเดินทางกลับบ้านหรือท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ และเทศกาลต่างๆ เป็นไปอย่างปลอดภัย และมีความสุข ไม่ใช่กลับมากลายสภาพเป็นคนป่วย พิการ

นายวิทยา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ปัญหาใหญ่ของกระทรวงสาธารณสุข ในเรื่องของการขาดแคลนบุคลากรด้านสาธารณสุขและคดีฟ้องร้องระหว่างแพทย์กับคนไข้ ก็จะต้องเร่งหามาตรการในการแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด โดยจะพยายามผลักดัน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากบริการทางการแพทย์ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำหนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาออกมาบังคับใช้ให้เร็วที่สุด ส่วนการขาดแคลนแพทย์และพยาบาลนั้น จะต้องเพิ่มบุคลากรในระบบให้เพียงพอ ให้ค่าตอบแทนแพทย์ พยาบาลเพิ่มมากขึ้นอย่างเหมาะสมในสภาวการณ์ที่เป็นจริงในขณะนี้

“ส่วนนโยบายเรื่องการบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรโดยรัฐ (ซีแอล) เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แต่หลักการคือ ประชาชนต้องสามารถเข้าถึงยาแพงได้ โดยราคายาต้องสมเหตุสมผลไม่แพงมากจนเกินไป ทุกอย่างเป็นไปตามแนวทางนี้” นายวิทยา กล่าว

ด้านนพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า นายวิทยา ถือเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ ที่มีประสบการณ์ในการทำงานการเมืองมาพอสมควร เมื่อศึกษาประวัติตั้งแต่เป็นนักศึกษาแล้วทำงานด้านการเมือง เห็นว่าไม่มีจุดด่างพร้อย เชื่อว่า พรรคประชาธิปัตย์คัดสรรบุคคลมาอย่างดีแล้ว นอกจากนี้ นายวิทยา ถือว่าไม่ใช่คนนอกวงการสาธารณสุข เพราะมีภรรยาเป็นพยาบาลระดับอาวุโสด้วย

“คงต้องแสดงความยินดีและให้กำลังใจรัฐมนตรีคนใหม่ เชื่อว่า ขณะนี้คนไทยต้องการให้เกิดความปรองดองชาติและเร่งแก้ปัญหาของประเทศ เพราะช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ประเทศไทยเสียโอกาสในการแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศมาอย่างยาวนาน ส่วนงานด้านสาธารณสุขถือว่าไม่มีเรื่องเร่งด่วน แต่จะทำอย่างไรให้ระบบการบริหารงานมีความเป็นธรรมและช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง” นพ.วิชัย กล่าว

นพ.วิชัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ระบบโครงสร้างของกระทรวงสาธารณสุขโดยรวม ถือว่ามีความเป็นระบบ เข้ารูปเข้ารอยดีอยู่แล้ว รัฐมนตรีสาธารณสุขคนใหม่เพียงแต่บริหารจัดการให้งานต่างๆ เดินหน้าต่อไปด้วยดี ดังนั้น พรรคการเมืองอาจไม่จำเป็นต้องคิดนโยบายบายด้านสาธารณสุขขึ้นมาใหม่ เพียงแต่นำนโยบายที่หน่วยงานต่างๆ ด้านสาธารณสุขได้พัฒนาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสำนักวิจัยระบบสาธารณสุข(สวรส.) สำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) หรือสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ สามารถเลือกนโยบายที่มีความสำคัญตามลำดับก่อนหนังมาผลักดันสนับสนุนให้ประสบความสำเร็จได้

นพ.วิชัย กล่าวด้วยว่า ส่วนนโยบายการบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรโดยรัฐ (ซีแอล) นั้น ตนไม่ห่วงว่า พรรคการเมืองจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงนโยบาย เพราะที่ผ่านมาการทำซีแอลเป็นไปอย่างสมเหตุสมผล แม้แต่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต รมว.สาธารณสุข ในรัฐบาลชุดที่แล้ว ยังสานต่อนโยบาย ดังนั้น เชื่อว่า รัฐบาลที่มีจุดยืนเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน จะไม่ขัดขวางการทำซีแอล ชขณะเดียวกันซีแอลก็ไม่ใช่มาตรการแรกที่จะต้องนำม่ใช้ในการแก้ไขปัญหา แต่จะเป็นมาตรการสุดท้ายที่จะมาใช้หากมีความจำเป็น

ด้านนพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทยชนบท กล่าวว่า ตนไม่ค่อยรู้จักนายวิทยา แต่ขอยินดีต้อนรับรัฐมนตรีใหม่ และอยากฝากให้รัฐมนตรีใหม่สร้างความสมานฉันท์ในกระทรวง ไม่อยากให้มีการเล่นการเมืองมากกว่าการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวม ที่สำคัญฝากให้ช่วยดูแลกรณีทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างคอมพิวเตอร์ 900 ล้าน และรถพยายามกู้ชีพฉุกเฉิน ที่ยังคงมีความคลุมเครือน่าสงสัย ปัญหาทั้ง 2 เรื่องยังไม่จบ ยังคาใจกันอยู่ เพราะไม่มีความชัดเจน ไม่โปร่งใส ควรสืบสวนให้เกิดความกระจ่างด้วย

“มีโอกาสได้สัมผัสกับทีมงานของพรรคประชาธิปัตย์ หากมีการนำข้อมูลที่แพทยชนบทเสนอไปปรับใช้ให้สอดคล้องก็เป็นเรื่องที่ดี มีประโยชน์ ซึ่งผมคาดหวังพอสมควร นอกจากนี้ ไม่ควรเลิกละทิ้งนโยบายดีๆ อย่างแนวคิดของ ร.ต.อ.เฉลิม ในการงดขายเหล้าบุหรี่ ไม่ควรมองว่าเป็นนโยบายของคนอื่น ถ้าห้ามขายเหล้าทันในช่วงปีใหม่ก็เริ่มเลย หรือไม่ก๋ช่วงเทศกาลสงกรานต์” นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว

สำหรับประวัติของ นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส.นครศรีธรรมราช หลายสมัย เกิดเมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2498 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์บัณฑิต จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะเรียนปี 4 นายวิทยาเป็นหนึ่งในนิสิตที่เข้าร่วมการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่ขาในเหตุการณ์ 6 ตุลา พ.ศ.2519 ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนาน 2 เดือน และต้องพักฟื้นที่บ้านอีก 7-8 เดือนจึงสามารถเดินได้เป็นปกติ และกลับเข้าเรียนต่อจนสำเร็จการศึกษาในที่สุด นายวิทยา ประกอบอาชีพเป็นทนายความ ก่อนเข้าสู่วงการเมือง และเมื่อเข้าสู่วงการเมืองแล้วยังเป็นหนึ่งในทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์
กำลังโหลดความคิดเห็น