ตำรวจ สน.อุดมสุข ไล่ล่าแก๊งค้ายาบ้าระทึกกลางกรุง ยิงกันสนั่นเมือง โดยเข้าล่อซื้อยาบ้าจากแก๊งชาวลาว ใช้รถยนต์ปิดหน้าหลังถึง 3 คัน แต่คนร้ายฮึดสู้ ขับรถชนพังพินาศ แหวกวงล้อมเร่งเครื่องหลบหนี ต้องยิงยางล้อรถสกัดจนแตกทั้ง 4 ข้าง แต่ไม่สิ้นฤทธิ์ หัวหน้าแก๊งชักปืนลั่นไกยิงใส่จนตำรวจเจ็บสาหัส 1 นาย และสามารถแหวกวงล้อมหลบหนีไปได้หวุดหวิด ส่วนคนร้ายอีก 2 คนถูกจับกุมตัวได้ในที่เกิดเหตุ ตำรวจเผยเป็นแก๊งค้ายาบ้าชาวลาวที่กำลังเร่งระดมระบายยานรกเข้าไทยหาเงินไปเคลื่อนไหวทางการเมือง
วันนี้ (17 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.ต.นริศ ปรารถนาพร สว.สป. สน.อุดมสุข พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวนปราบปราม (สป.) ให้สายเข้าล่อซื้อยาบ้าจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดชาวลาว โดยนัดให้นำยาบ้าไปส่งที่บริเวณปากซอยอ่อนนุช 55 แขวงและเขตประเวศ กทม. เมื่อถึงเวลานัดหมาย กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดชาวลาวประกอบด้วย นายยาว ชาว สปป.ลาว นายไมตรี หรืออ้วน เสนากุล อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191 หมู่ 3 ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร และนายสมเกียรติ หรือหนุ่ย อ่อนศรี อายุ 32 ปี อยุ่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 3 ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร ขับรถปิกอัพโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ 4 ประตู สีน้ำเงิน ทะเบียน กต-9748 อุดรธานี เข้ามายังจุดนัดหมาย โดยมีนายสมเกียรติเป็นคนขับ นายยาวนั่งที่เบาะหน้าด้านซ้ายคู่คนขับ ส่วนนายไมตรีนั่งที่เบาะด้านหลัง
เมื่อกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดขับรถคันดังกล่าวเข้ามาจอดตรงที่จุดนัดหมาย กำลังตำรวจของ พ.ต.ต.นริศ ได้ใช้รถ 3 คัน ประกอบด้วย รถโตโยต้าวีโก้ แบบแค็บ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ตห-6180 กทม. ขับเข้าไปปิดท้ายรถคนร้าย กำลังอีกส่วนใช้รถปิกอัพฟอร์ด แรนเจอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ณง-5620 กทม. ขับไปขวางด้านหน้ารถคนร้าย ปิดเส้นทางการหลบหนี และกำลังที่เหลือใช้รถเก๋งฮอนด้าซีอาร์-วี สีดำ ทะเบียน กน-1885 ชลบุรี ขับประกบที่ด้านขวาของรถคนร้าย
ขณะนั้น นายสมเกียรติซึ่งรับหน้าที่เป็นคนขับรถกลุ่มคนร้ายเห็นท่าไม่ดี และเกิดไหวตัวขึ้น ก่อนที่ตำรวจชุดจับกุมจะเข้าชาร์จ นายสมเกียรติได้ถอยรถพุ่งไปชนรถปิกอัพโตโยต้าของตำรวจที่เข้าปิดท้ายอย่างแรงจนรถได้รับความเสียหายยับเยิน จากนั้นคนร้ายเข้าเกียร์เดินหน้า พุ่งเข้าชนรถปิกอัพฟอร์ดของตำรวจที่ปิดทางขวางด้านหน้าอย่างเต็มแรงเช่นเดียวกัน โดยคนร้ายถอยหลังและพุ่งเข้าชนในลักษณะดังกล่าวถึง 3-4 ครั้ง พร้อมกับเบียดกระแทกรถซีอาร์-วีของตำรวจที่ประกบอยู่ด้านขวาอย่างแรง จนเกิดเป็นช่องทางแหวกหลบหนีออกไปได้
หลังจากที่ตำรวจตั้งลำได้พยายามเร่งเครื่องรถขับติดตามรถคนร้ายไป พร้อมกับใช้ปืนยิงยางรถคนร้ายทั้ง 4 ล้อ กระทั่งยางรถของคนร้ายทั้ง 4 ล้อแตกหมด คนร้ายจึงหยุดรถลงบริเวณปากซอยอ่อนนุช 55/1 ห่างจากจุดที่ตำรวจล่อซื้อยาบ้าไปประมาณถึง 800 เมตร ทว่าคนร้ายยังไม่ยอมจำนนง่ายๆ โดยนายยาวหัวหน้าแก๊งที่นั่งอยู่เบาะด้านหน้าซ้าย เปิดประตูออกมา พร้อมกับชักอาวุธปืนเล็งเข้าใส่กลุ่มตำรวจชุดจับกุมและลั่นไกใส่ชนิดไม่ยั้ง เป็นการเปิดทางหลบหนี กระทั่งสามารถหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด โดยคมกระสุนปืนของนายยาวเจาะเข้าบริเวณท้องน้อยของ จ.ส.ต.สหรัฐ จันทราทิพย์ ผบ.หมู่งาน สป.สน.อุดมสุข ได้รับบาดเจ็บสาหัส ในขณะที่นายสมเกียรติ และนายไมตรี ถูกตำรวจเข้าชาร์จและจับกุมตัวไว้ได้โดยละม่อม ส่วน จ.ส.ต.สหรัฐ ถูกนำส่งโรงพยาบาลสิรินธร แพทย์ต้องนำเข้าห้องผ่าตัดช่วยชีวิตในทันที ขณะเดียวกัน ตำรวจตรวจค้นภายในรถพบยาบ้าของกลางที่ล่อซื้อจำนวน 6,400 เม็ด เงินสด 50,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน และควบคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำที่ สน.อุดมสุข
ต่อมา เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.อาณัต เกล็ดมณี และพ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ รอง ผบก.น.4 รวมทั้ง พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ ผกก.สน.อุดมสุข ทราบเรื่อง เดินทางไปยังโรงพัก ร่วมสอบปากตำผู้ต้องหา พร้อมกับนำตัวผู้ต้องมาแถลงข่าว
พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา โดยเฉพาะนายไมตรีให้การรับสารภาพว่า เดิมมีอาชีพก่อสร้าง แต่ภายหลังป่วยเป็นโรคไตบวม เริ่มทำงานไม่ได้ โดยได้รู้จักกับนายยาว ชาวสปป.ลาว ตั้งแต่เมื่อครั้งทำงานก่อสร้างด้วยกัน จากนั้นนายยาวได้มาว่าจ้างให้ช่วยส่งยาบ้าให้ แต่เพราะความที่ขับรถยังไม่แข็ง จึงได้ว่าจ้างนายสมมเกียรติที่มีอาชีพขับรถรับจ้างทั่วไปอยู่ก่อนแล้วมาขับรถให้ โดยจะให้ค่าเสี่ยงเป็นเงินครั้งละประมาณ 20,000 บาท ขณะที่ตนเองจะได้ค่าจ้างจากนายยาวไม่เกินครั้งละ 100,000 บาท ซึ่งทำมาแล้ว 2-3 ครั้ง และก่อนเกิดเหตุ ได้ขับรถไปรับนายยาวที่ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เพื่อนำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้าตามที่นัดหมาย กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว
พล.ต.ท.สุชาติกล่าวอีกว่า แก๊งค้ายาบ้าชาวลาวแก๊งนี้กำลังทยอยนำยาบ้าเข้ามาในไทยจำนวนมาก สาเหตุอันเนื่องมาจากแก๊งนี้กำลังเร่งระดมทุนเพื่อหาเงินไปเคลื่อนไหวและทำกิจกรรมทางการเมืองต่างๆ ในประเทศของเขา จึงเร่งระบายยาบ้าเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งวานนี้ (16 ก.พ.) ตำรวจ สน.พระโขนง ก็สามารถจับกุมแก๊งยาบ้าชาวลาวได้ โดยตำรวจจะได้สอบสวนขยายผลต่อไปว่ามีความเชื่อมโยงกับแก๊งนายยาวหรือไม่ต่อไป
เบื้องต้น ตำรวจตั้งข้อหารวม 5 กระทง 1.ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งกระทำการตามหน้าที่ 3.พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ 4.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในการครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ5.พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัว 2 ผู้ต้องหาไว้สอบสวนขยายผลต่อไป
ผู้สื่อข้าวรายงานด้วยว่า สำหรับรถยนต์ของตำรวจทั้ง 3 คันที่ได้รับความเสียหายจากการเข้าล่อซื้อยาบ้าครั้งนี้ล้วนเป็นรถยนต์ส่วนตัวของตำรวจชุดจับกุม 2 คัน และเป็นรถของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนปราบปราม 1 คัน