ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตร.ภาค 3 รวบชาวลาวค้ายาบ้าพร้อมของกลางกว่า 3,000 เม็ด พร้อมขยายผลจับกุมเครือข่ายแรงงานต่างด้าวชาวพม่า-ลาวหลบหนีเข้าเมืองผิด กม.ได้อีกรวมกว่า 30 คน ขณะทำงานก่อสร้างในโครงการบ้านเอื้ออาทรโคราช นอกจากนี้ชุดสืบสวน ตร.ภาค 3 ยังจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ได้อีกกว่า 1,000 รายการ
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.ชลอศักดิ์ อาษา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รองผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พ.ต.ต.ภูมิ ทองโพธิ์ สารวัตรสืบสวนสอบสอบ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดชาว สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ได้ผู้ต้องหา 1 ราย คือ ท้าวบุญเกิด พรมมะสี ชาวลาว อายุ 38 ปี อยู่บ้านนาคันลี เมืองสองคอน สปป.ลาว พร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 3,048 เม็ด, โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง , เงินล่าซื้ออีกจำนวน 60,000 บาท
ทั้งนี้จากการสอบปากคำท้าวบุญเกิด ให้การรับสารภาพ ว่า รับยาบ้ามาจากเพื่อนที่ สปป.ลาว และมากระจายให้กับเครือข่ายคนลาวที่ลักลอบหลบหนีเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย มาทำงานเป็นคนงานก่อสร้างโครงการบ้านเอื้ออาทร อ.เมือง จ. นครราชสีมา เจ้าหน้าที่จึงทำการขยายผล สามารถจับชาวลาวได้อีก 10 คน พร้อมยาบ้ากว่า 800 เม็ด เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย , เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
นอกจากนี้ ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ยังได้ขยายผลจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าของท้าวบุญเกิดได้ ในไซด์งานก่อสร้างบ้านเอื้ออาทร อ. เมือง จ. นครราชสีมา เพิ่มอีกจำนวน 22 คน แบ่งเป็นแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาจำนน 12 คน หลบหนีเข้ามาทางด้าน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว และ ชาวลาวจำนวน 10 คน หลบหนีเข้ามาทางด้าน อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี โดยมีนายหน้าชาวไทยพาเข้ามาทำงานในไซด์งานดังกล่าวเป็นเวลานานแล้ว
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายทั้งหมดไว้ดำเนินคดี ที่ สภ.โพธิ์กลาว อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมตั้งขอหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ ทำการผลักดันกลับประเทศต่อไป
พล.ต.ต.ชลอศักดิ์ อาษา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวว่า นอกจากนี้ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ยังได้ทำการจับกุมผู้จำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ได้ผู้ต้องหาจำนวน 7 ราย ประกอบด้วย นางอำไพ คำพิทักษ์ อายุ 48 ปี เจ้าของร้านหนิงโมบาย , นายวิฑูรย์ ปลั่งกลาง อายุ 37 ปี เจ้าของร้านดีดีเทเลโฟน
นายปรัชญา ปีทอง อายุ 30 ปี เจ้าของร้าน อีไอที อีโมบาย, นายธนวัตร พรมคำน้อย อายุ 29 ปี เจ้าของร้านโอมโมบาย, น.ส.ศิริลักษณ์ พลเจริญ อายุ 18 ปี เจ้าของร้านนิวเทอร์โบ ทั้งหมดอยู่ในตลาดเซฟวันทางเข้าการเคหะแห่งชาติ สาขานครราชสีมา ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ,นายเศรษฐบดินทร์ อุดมพัทธ์ อายุ 20 ปี เจ้าของร้าน พี.เอ.โฟน คลังพลาซ่า และ นายเสพสรร เมืองสันเทียะ อายุ 29 ปี เจ้าของร้านไม่มีชื่อในตลาดไนท์บาร์ซ่า
พร้อมของกลางสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์จำนวนกว่า 1,000 รายการ เจ้าหน้าที่แจ้งดำเนินคดีในข้อหา “เสนอจำหน่ายซึ่งสินค้าปลอม และหรือเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร และหรือเอารูปรอยประดิษฐ์ในทางการค้าของผู้อื่นมาใช้”
