“ลีน่า จัง” พาภรรยาเจ้าหน้าที่กระทรวงวิทย์ ร้องกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีต่อโรงพยาบาลย่านปากเกร็ด ที่ทำการรักษาจนสามีเป็นเจ้าชายนิทรา พร้อมเตรียมฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 20 ล้านบาท
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.30 น. นางลีน่า จังจรรจา อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.พานางศิรนรัตน์ เทียมประเสริฐ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120/201 หมู่บ้านเกร็ดแก้วการ์เด้นท์ 2 ถนนติวานนท์ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และ นายพัธรศักดิ์ เทียมประเสริฐ อายุ 27 ปี หรือดีเจเก่งแห่งคลื่น 89.5 สวีตเอฟเอ็ม น้องชายของนางศิรนรัตน์ เข้าพบ ร.ต.ท.ณรงค์ชัย เอกฉันท์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) กลุ่มงานสอบสวน บก.ป.ให้ดำเนินคดีกับ ผอ.รพ.กรุงไทย และแพทย์ผู้ทำการรักษา ว่าที่ ร.ต.นครินทร์ พรายมี อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่นโยบายและแผน 7 ว. สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สามีของนางศิรนรัตน์ จนมีอาการเป็นเจ้าชายนิทราในข้อหาร่วมกันกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส
นางศิรนรัตน์ ให้การว่า สามีเกิดอาการปวดท้องเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา จึงรีบพาไปรักษาที่ รพ.กรุงไทย เนื่องจากเห็นว่าอยู่ใกล้บ้านพัก แต่เมื่อไปถึงกลับไม่พบแพทย์ที่จะเข้ามาดูอาการหรือทำการรักษา กระทั่งสามีตนมีอาการปวดท้องมากขึ้น จึงมีแพทย์โทรศัพท์มาสั่งให้พยาบาลนำยาแก้วปวดมาฉีดให้กับสามีจำนวน 3 เข็มติดต่อกัน ต่อมาสามีมีอาการช็อกหมดสติคาเข็มและหัวใจหยุดเต้น ซึ่งกว่าแพทย์จะมาดูอาการจนต้องปั๊มหัวใจนั้น ปรากฏว่าหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว จากนั้นแพทย์ได้รีบปั๊มหัวใจเป็นเวลานานนับสิบนาที เมื่อปั๊มหัวใจได้สามีไม่มีอาการตอบสนองใดๆ ทั้งสิ้น
นางศิรนรัตน์ ให้การต่อว่า หลังจากนั้นในวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมาได้สอบถามถึงอาการของสามีอย่างใกล้ชิดเพราะเป็นห่วงที่สามียังไม่รู้สึกตัว จึงขอรับตัวสามีเพื่อส่งไปรักษาที่ รพ.พระมงกุฏเกล้า แทน แต่ทาง รพ.กรุงไทย แจ้งมาว่าต้องนำเงินค่ารักษาจำนวน 75,000 บาท มาชำระเสียก่อนจึงจะย้ายผู้ป่วยออกไปได้ กระทั่งในช่วงบ่ายวันรุ่งขึ้นจึงนำเงินมาชำระและรับสามีไปรักษาที่ รพ.พระมงกุฏเกล้า ซึ่งแพทย์ได้ตรวจอาการอย่างละเอียดพบว่า สามีมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด และสมองขาดออกซิเจนจนเป็นเจ้าชายนิทรา
“ภายหลังที่ทราบอาการสามีจาก รพ.พระมงกุฎ ดิฉันจึงรีบสอบถามกลับไปที่ รพ.กรุงไทย ซึ่งได้รับคำตอบว่าทำการรักษาให้อย่างดีที่สุดแล้ว พร้อมกับปฏิเสธความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อดิฉันบอกว่าจะไปร้องขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชน ทาง ผอ.รพ.กรุงไทย กลับบอกว่าเชิญเลยตามสบาย แถมยังสำทับมาว่ารู้ไหมว่า รพ.นี้มี ส.ส.และ ส.ว.เป็นเจ้าของ” นางศิรนรัตน์ กล่าว
ด้าน นางลีน่า กล่าวว่า เบื้องต้นจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจาก รพ.กรุงไทย เป็นเงิน 20 ล้านบาท เนื่องจากผู้เสียหายมีภาระครอบครัว มีบุตรชาย 2 คน ที่ยังเล็กต้องดูแล และในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ จะพานางศิรนรัตน์ เข้าร้องทุกข์ที่กระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง เพื่อไม่ให้แพทย์โรงพยาบาลอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง


วันนี้ (12 ก.พ.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.30 น. นางลีน่า จังจรรจา อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.พานางศิรนรัตน์ เทียมประเสริฐ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120/201 หมู่บ้านเกร็ดแก้วการ์เด้นท์ 2 ถนนติวานนท์ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และ นายพัธรศักดิ์ เทียมประเสริฐ อายุ 27 ปี หรือดีเจเก่งแห่งคลื่น 89.5 สวีตเอฟเอ็ม น้องชายของนางศิรนรัตน์ เข้าพบ ร.ต.ท.ณรงค์ชัย เอกฉันท์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) กลุ่มงานสอบสวน บก.ป.ให้ดำเนินคดีกับ ผอ.รพ.กรุงไทย และแพทย์ผู้ทำการรักษา ว่าที่ ร.ต.นครินทร์ พรายมี อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่นโยบายและแผน 7 ว. สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สามีของนางศิรนรัตน์ จนมีอาการเป็นเจ้าชายนิทราในข้อหาร่วมกันกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส
นางศิรนรัตน์ ให้การว่า สามีเกิดอาการปวดท้องเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา จึงรีบพาไปรักษาที่ รพ.กรุงไทย เนื่องจากเห็นว่าอยู่ใกล้บ้านพัก แต่เมื่อไปถึงกลับไม่พบแพทย์ที่จะเข้ามาดูอาการหรือทำการรักษา กระทั่งสามีตนมีอาการปวดท้องมากขึ้น จึงมีแพทย์โทรศัพท์มาสั่งให้พยาบาลนำยาแก้วปวดมาฉีดให้กับสามีจำนวน 3 เข็มติดต่อกัน ต่อมาสามีมีอาการช็อกหมดสติคาเข็มและหัวใจหยุดเต้น ซึ่งกว่าแพทย์จะมาดูอาการจนต้องปั๊มหัวใจนั้น ปรากฏว่าหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว จากนั้นแพทย์ได้รีบปั๊มหัวใจเป็นเวลานานนับสิบนาที เมื่อปั๊มหัวใจได้สามีไม่มีอาการตอบสนองใดๆ ทั้งสิ้น
นางศิรนรัตน์ ให้การต่อว่า หลังจากนั้นในวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมาได้สอบถามถึงอาการของสามีอย่างใกล้ชิดเพราะเป็นห่วงที่สามียังไม่รู้สึกตัว จึงขอรับตัวสามีเพื่อส่งไปรักษาที่ รพ.พระมงกุฏเกล้า แทน แต่ทาง รพ.กรุงไทย แจ้งมาว่าต้องนำเงินค่ารักษาจำนวน 75,000 บาท มาชำระเสียก่อนจึงจะย้ายผู้ป่วยออกไปได้ กระทั่งในช่วงบ่ายวันรุ่งขึ้นจึงนำเงินมาชำระและรับสามีไปรักษาที่ รพ.พระมงกุฏเกล้า ซึ่งแพทย์ได้ตรวจอาการอย่างละเอียดพบว่า สามีมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด และสมองขาดออกซิเจนจนเป็นเจ้าชายนิทรา
“ภายหลังที่ทราบอาการสามีจาก รพ.พระมงกุฎ ดิฉันจึงรีบสอบถามกลับไปที่ รพ.กรุงไทย ซึ่งได้รับคำตอบว่าทำการรักษาให้อย่างดีที่สุดแล้ว พร้อมกับปฏิเสธความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อดิฉันบอกว่าจะไปร้องขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชน ทาง ผอ.รพ.กรุงไทย กลับบอกว่าเชิญเลยตามสบาย แถมยังสำทับมาว่ารู้ไหมว่า รพ.นี้มี ส.ส.และ ส.ว.เป็นเจ้าของ” นางศิรนรัตน์ กล่าว
ด้าน นางลีน่า กล่าวว่า เบื้องต้นจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจาก รพ.กรุงไทย เป็นเงิน 20 ล้านบาท เนื่องจากผู้เสียหายมีภาระครอบครัว มีบุตรชาย 2 คน ที่ยังเล็กต้องดูแล และในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ จะพานางศิรนรัตน์ เข้าร้องทุกข์ที่กระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง เพื่อไม่ให้แพทย์โรงพยาบาลอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง