เสี่ยปั๊มน้ำมันในอำนาจเจริญ ร้องกองปราบฯ ถูกยิงเจียนตาย แต่ท้องที่ทำคดีอืดเพราะคนร้ายเป็นตำรวจ และผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ขอให้โอนคดีมาที่กองปราบฯ ทำแทน
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 08.00 น. นายอุเทียง เกษียร อายุ 52 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันเที่ยงแท้บริการ และเจ้าของกิจการขายอะไหล่รถทุกชนิด อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 3 ต.นาหว้า อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.เพื่อร้องทุกข์กรณีที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ก.ค.2551 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขมราฐ กลับทำคดีล่าช้าและเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะคดีที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลและคนร้ายที่ลงมือเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขอให้ตำรวจกองปราบปรามรับโอนคดีมาทำแทน
นายอุเทียง กล่าวว่า วันเกิดเหตุเป็นเวลา 10.00 น.ขณะที่กำลังทำงานอยู่ภายในบริเวณปั๊มน้ำมันเที่ยงแท้บริการ ต.หนองผือ อ.เขมราฐ จ.อุบลราช ธานี มีคนร้ายเป็นชาย 2 ราย ขับรถกระบะมาจอด ก่อนที่คนนั่งมาข้างคนขับเดินเข้ามาประชิดพร้อมชักอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดจ่อยิงใส่ตน 6 นัด แต่โดน 4 นัด เข้ากรามขวา 1 นัด โหนกแก้มขวา 1 นัด หน้าอก 1 นัด ซอกคอ 1 นัด เมื่อหมดกระสุนคนร้ายซึ่งทำหน้าที่ขับรถเข้ามาพูดว่า “ทำไมมึงตายยากนัก” ก่อนยิงซ้ำอีก กระสุนถูกซี่โครงซ้าย 1 นัด แขนซ้าย 1 นัด และเหนือเข่าซ้ายอีก 1 นัด ขณะที่โดนยิงยังพอมีสติจึงใช้จอบสู้กับคนร้าย และสามารถจดจำใบหน้าคนร้ายได้ 1 ราย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยงานหนึ่งในพื้นที่ ต่อมาได้วิ่งหนีเข้าไปในห้องทำงาน ก่อนที่ญาติจะเข้าช่วยเหลือ คนร้ายเห็นท่าไม่ดีจึงพากันขึ้นรถกระบะขับหลบหนีไป จากนั้นญาติได้ช่วยเหลือนำตัวส่ง รพ.ปทุมราชวงศา แต่อาการหนักจึงนำส่งต่อ รพ.อุบลรักษ์ธนบุรี
นายอุเทียง กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุทางตำรวจ สภ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุพร้อมกับลงบันทึกประจำวันรับคำร้องทุกข์สืบสวนดำเนินคดี แต่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ใช้เวลาล่วงเลยมานานหลายเดือน คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า ยังไม่มีการออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งตนเชื่อว่าคดีนี้ผู้มีอิทธิพลซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนคนที่ลงมือก่อเหตุก็เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยสาเหตุตนเชื่อว่ามาจากการทำธุรกิจปั๊มน้ำมัน และเรื่องที่ดินที่สร้างปั๊มน้ำมันของตนซึ่งไปขัดผลประโยชน์กับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
“ผ่านมาหลายเดือนแต่คดีไม่มีความคืบหน้า เพราะเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล และมือปืนที่มายิงผมก็เป็นตำรวจ ที่ผ่านมาผมอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ หวาดกลัวตลอดเวลา เพราะเกรงครอบครัวจะถูกทำร้าย ไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ นอกจากนี้ พยานที่เห็นเหตุการณ์ไม่กล้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เพราะโดนข่มขู่และถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บ ผมจึงมาขอความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบให้ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย” นายอุเทียง กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องไว้ และมอบหมายให้ พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.อธิป ฉิมอร่าม พงส. (สบ 3) บก.ป. หาข้อมูลโดยประสานกับกับตำรวจท้องที่เกิดเหตุ ส่วนทางคดีที่ผู้เสียหายได้ขอให้ทางกองปราบปรามเข้ามาทำคดีนั้นจะได้ส่งเรื่องถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขออนุมัติในการสอบสวนคดีต่อไป
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 08.00 น. นายอุเทียง เกษียร อายุ 52 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันเที่ยงแท้บริการ และเจ้าของกิจการขายอะไหล่รถทุกชนิด อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 3 ต.นาหว้า อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.เพื่อร้องทุกข์กรณีที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ก.ค.2551 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขมราฐ กลับทำคดีล่าช้าและเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะคดีที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลและคนร้ายที่ลงมือเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขอให้ตำรวจกองปราบปรามรับโอนคดีมาทำแทน
นายอุเทียง กล่าวว่า วันเกิดเหตุเป็นเวลา 10.00 น.ขณะที่กำลังทำงานอยู่ภายในบริเวณปั๊มน้ำมันเที่ยงแท้บริการ ต.หนองผือ อ.เขมราฐ จ.อุบลราช ธานี มีคนร้ายเป็นชาย 2 ราย ขับรถกระบะมาจอด ก่อนที่คนนั่งมาข้างคนขับเดินเข้ามาประชิดพร้อมชักอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดจ่อยิงใส่ตน 6 นัด แต่โดน 4 นัด เข้ากรามขวา 1 นัด โหนกแก้มขวา 1 นัด หน้าอก 1 นัด ซอกคอ 1 นัด เมื่อหมดกระสุนคนร้ายซึ่งทำหน้าที่ขับรถเข้ามาพูดว่า “ทำไมมึงตายยากนัก” ก่อนยิงซ้ำอีก กระสุนถูกซี่โครงซ้าย 1 นัด แขนซ้าย 1 นัด และเหนือเข่าซ้ายอีก 1 นัด ขณะที่โดนยิงยังพอมีสติจึงใช้จอบสู้กับคนร้าย และสามารถจดจำใบหน้าคนร้ายได้ 1 ราย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยงานหนึ่งในพื้นที่ ต่อมาได้วิ่งหนีเข้าไปในห้องทำงาน ก่อนที่ญาติจะเข้าช่วยเหลือ คนร้ายเห็นท่าไม่ดีจึงพากันขึ้นรถกระบะขับหลบหนีไป จากนั้นญาติได้ช่วยเหลือนำตัวส่ง รพ.ปทุมราชวงศา แต่อาการหนักจึงนำส่งต่อ รพ.อุบลรักษ์ธนบุรี
นายอุเทียง กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุทางตำรวจ สภ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุพร้อมกับลงบันทึกประจำวันรับคำร้องทุกข์สืบสวนดำเนินคดี แต่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ใช้เวลาล่วงเลยมานานหลายเดือน คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า ยังไม่มีการออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งตนเชื่อว่าคดีนี้ผู้มีอิทธิพลซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนคนที่ลงมือก่อเหตุก็เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยสาเหตุตนเชื่อว่ามาจากการทำธุรกิจปั๊มน้ำมัน และเรื่องที่ดินที่สร้างปั๊มน้ำมันของตนซึ่งไปขัดผลประโยชน์กับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
“ผ่านมาหลายเดือนแต่คดีไม่มีความคืบหน้า เพราะเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล และมือปืนที่มายิงผมก็เป็นตำรวจ ที่ผ่านมาผมอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ หวาดกลัวตลอดเวลา เพราะเกรงครอบครัวจะถูกทำร้าย ไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ นอกจากนี้ พยานที่เห็นเหตุการณ์ไม่กล้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เพราะโดนข่มขู่และถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บ ผมจึงมาขอความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบให้ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย” นายอุเทียง กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องไว้ และมอบหมายให้ พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.อธิป ฉิมอร่าม พงส. (สบ 3) บก.ป. หาข้อมูลโดยประสานกับกับตำรวจท้องที่เกิดเหตุ ส่วนทางคดีที่ผู้เสียหายได้ขอให้ทางกองปราบปรามเข้ามาทำคดีนั้นจะได้ส่งเรื่องถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขออนุมัติในการสอบสวนคดีต่อไป