xs
xsm
sm
md
lg

กองปราบรวบมือฆ่าเศรษฐินีเมืองภูเก็ต สารภาพรับค่าจ้าง 1.5 แสนบาท

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

แฟ้มภาพ
กองปราบฯ โชว์ผลงานรวบมือปืนฆ่าเศรษฐินีนักธุรกิจชื่อดังเมืองภูเก็ต สารภาพเป็นคนลงมือก่อเหตุ โดยได้รับค่าจ้าง 1.5 แสนบาท ส่วนสาเหตุคาดมาจากขัดผลประโยชน์กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลเกี่ยวกับธุรกิจเช่าที่ดินริมหาดป่าตอง

วานนี้ (20 ธ.ค.) พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ ผกก.6 บก.ป. นำชุดสืบสวนกองปราบปราม ร่วมกับตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต จับกุม นายอรุณ หรือถึก จันทร์มา อายุ 39 ปี มือปืนที่ลั่นไกสังหารนางคมคาย โฆษิตกุล เศรษฐีนีและนักธุรกิจชื่อดัง ผู้ดูแลศูนย์การค้าจินตนาพลาซ่า จ.ภูเก็ต ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 965/2551 ลงวันที่ 18 ธ.ค. ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นและมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจับกุมได้ที่บริเวณถนนริมหาดอ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ทั้งนี้สืบเนื่องจากได้เกิดคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญกลางเมืองภูเก็ตเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะขับเข้าประกบรถยนต์โตโยต้า ราฟโฟ ทะเบียน ข 2222 นครศรีธรรมราช ที่มีนางคมคายและนายอารยะ โฆษิตกุล สามีนั่งอยู่ ก่อนจะชักอาวุธปืนขนาด 9 มม.จ่อยิงคนทั้งสองเป็นเหตุให้นางคมคาย เสียชีวิตคาที่ส่วนนายอารยะได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณหน้าร้านญานิกาไทยยะสปา ถ.วิชิตสงคราม อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ประยนต์ พร้อมชุดสืบสวนกองปราบปรามเข้าสืบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าวซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมานางคมคาย ได้เข้าร้องทุกข์ต่อตำรวจท้องที่เพื่อขอความคุ้มครองชีวิต โดยให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นน้องสาวของนางจินตนา บุรินโกษฐ์ เจ้าของที่ดินหาดป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต จำนวน 4 แปลง โดยในพื้นที่ดังกล่าวได้ให้ผู้ที่สนใจเช่าทำธุรกิจริมชายหาดรวมแล้วมีมูลค่ามหาศาล

ต่อมานางจินตนาได้ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองแตกจนเกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบประสาททำให้ไม่สามารถบริหารธุรกิจต่างๆ ได้ พี่น้องจึงต้องร้องขอต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ตพิจารณามีคำสั่งให้พี่น้องเข้ามาเป็นผู้ดูแลสิทธิทั้งหมดของนางจินตนา ซึ่งศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้นางจินตนาเป็นผู้ไร้ความสามารถและให้นางคมคายและนายวิวัฒน์ ซึ่งเป็นน้องสาวและน้องชายนางจินตนาเข้ามาเป็นผู้อนุบาลดูแลสิทธิของนางจินตนาทั้งหมด เมื่อนางคมคาย และนายวิวัฒน์เข้ามาดูแลธุรกิจ โดยเฉพาะที่บริเวณหาดป่าตองก็พบว่าในช่วงที่พี่สาวยังเป็นปกติอยู่นั้นเคยลงลายมือชื่อในเอกสารการมอบฉันทะเปล่าไว้ให้กับคนกลุ่มหนึ่ง แต่หลังจากที่นางจินตนาป่วยคนกลุ่มดังกล่าวก็นำเอกสารมอบฉันทะที่นางจินตนาเซ็นต์ลอยไว้ไปใช้กอบโกยหาผลประโยชน์จากที่ดินหาดป่าตองโดยมิชอบซึ่งมีทั้งผู้กว้างขวางใน จ.ภูเก็ต นักการเมืองท้องถิ่นหลายระดับ เข้ารุมทึ้งผลประโยชน์ที่ได้จากธุรกิจบนหาดป่าตอง จึงมีการร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ที่นำเอกสารดังกล่าวไปใช้ในข้อหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม หลังจากนั้นก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านค้าริมหาดป่าตองหลายครั้ง

นอกจากปัญหาขัดแย้งเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินหาดป่าตองแล้วนางคมคายยังมีเรื่องฟ้องร้องกับพี่น้องด้วยกันเองอีก 2 คดีกรณีที่ต้องการให้เพิกถอนสิทธิของพี่น้องจากการเป็นผู้ร่วมอนุบาลดูแลสิทธิของนางจินตนาเพื่อที่ตัวเองจะได้มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวแต่ชุดสืบสวนกองปราบปรามให้น้ำหนักกับความขัดแย้งระหว่างนางคมคายกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลเกี่ยวกับธุรกิจที่หาดป่าตองจากนั้นชุดสืบสวนกองปราบปรามได้ทำการประสานข้อมูลจากตำรวจท้องที่โดยเฉพาะการสอบปากคำพยานในเหตุการณ์ซึ่งสามารถสเกตช์ภาพคนร้ายที่ก่อเหตุได้ เมื่อได้ข้อมูลเบื้องต้นแล้วชุดสืบสวนกองปราบปรามจึงลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจากซุ้มมือปืนต่างๆ ทางภาคใต้ กระทั่งได้เบาะแสว่านายอรุณหรือถึก เป็นมือปืนที่รับงานดังกล่าวจึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับและจับกุมตัวมาได้ในที่สุด

จากการสอบสวนเบื้องต้นนายอรุณให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือยิงนางคมคาย และนายอารยะ โดยก่อนที่จะรับงานครั้งนี้ตนเป็นหัวหน้าคุมงานก่อสร้างให้กับบริษัท กระบี่โลมา จำกัด ซึ่งรับเหมาก่อสร้างทำศาลาที่พักภายในอุทยานแห่งชาติเกาะไผ่ อ.อ่าวนาง จ.กระบี่ ต่อมาได้มีนาย ส. มาติดต่อให้ไปทำงานให้กับกำนันชื่อดังคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ภาคใต้ โดยจะให้ค่าจ้างเป็นเงิน 1.5 แสนบาท จากนั้นจะมีทีมงานมารับตัวเพื่อเดินทางเข้าพื้นที่ โดยจัดหาอาวุธปืนบาร์เร็ตต้า 9 มม. และคนขับรถจักรยานยนต์ชื่อนายโย ไม่ทราบชื่อสกุลมาให้จากนั้นตนพร้อมกับพวกอีก 2-3 รายได้เดินทางไปดูลาดเลาถึง 3 ครั้งก่อนจะลงมือยิงผู้ตายไปถึง 12 นัด หลังก่อเหตุแล้วได้คืนอาวุธปืนให้กับเจ้าของ ก่อนจะแยกย้ายหลบหนีไปโดยไปขึ้นเรือสปีดโบทที่หาดป่าตองกลับไปยัง จ.กระบี่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจับกุมแล้วชุดสืบสวนกองปราบปรามร่วมกับพนักงานสอบสวน สภ.กระทู้ ได้สอบสวนนายอรุณในรายละเอียดทั้งหมด จากนั้นได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพโดยชี้จุดที่เกิดเหตุตั้งแต่จุดที่มีการติดต่อ รับส่ง ห้องพักที่มีการประชุมตกลงกัน จุดดูลาดเลา ตลอดจนเส้นทางหลบหนี นอกจากนี้ยังได้เชิญนายอารยะ สามีนางคมคาย ซึ่งเป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุโดยถูกยิงได้รับบาดเจ็บมาทำการชี้ตัวยืนยันซึ่งนายอารยะก็สามารถชี้ยืนยันว่านายอรุณเป็นมือปืนที่เกิดเหตุดังกล่าว ส่วนการสอบสวนขยายผลนั้นทางชุดสืบสวนกองปราบปรามร่วมกับ สภ.กระทู้ ได้นำคำให้การของนายอรุณมาตรวจสอบอีกครั้งว่ามีใครเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวบ้างเพื่อรวมหลักฐานและสาวไปถึงผู้จ้างวาน

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการจัดหาทีมมือปืนสังหารนางคมคายครั้งนี้มีการทำเป็นขบวนการโดยมีตัวละครไม่ต่ำกว่า 5 คน ในแต่ละขั้นตอนตั้งแต่การติดต่อหามือปืน การพามือปืนเข้าพื้นที่ จัดหาปืน จัดหาคนขับรถจักรยานยนต์ นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่ามีคนมีสีในพื้นที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องโดยช่วยเหลือในเรื่องที่พักให้กับมือปืนด้วย แต่ทั้งนี้ในแต่ละขั้นตอนนั้นจะมีคัทเอาท์เพื่อไม่ให้สาวไปถึงตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง
กำลังโหลดความคิดเห็น