xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์ใบโพธิ์ แจ้งจับ “แก๊งแฮกข้อมูลเอทีเอ็ม” ฉกกดเงินสูญเกือบ 3 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตัวแทนธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งความให้กองปราบปรามดำเนินคดีแก๊งโจรกรรมข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม พบเงินในบัญชีลูกค้าถูกลักลอบกดออกไป 41 ราย เสียหาย 2 ล้าน 5 แสนบาท ระบุ คนร้ายน่าเชื่อว่าเป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากเคยจับชาวมาเลย์-สิงคโปร์ ก่อเหตุลักษณะเดียวกัน แนะหมั่นสังเกตตู้เอทีเอ็ม มีอุปกรณ์ดัดแปลง เวลากดให้ใช้มือปิดรหัส ตร.บอกช่วงเวลา 6 เดือน จังหวัดภาคเหนือ ปริมณฑล และ กทม.ถูกฉกเงินมากสุด

วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.30 น.นายภิญโญ โกมลกิตติพงศ์ เจ้าหน้าที่ควบคุมและป้องกันการทุจริต ธนาคารไทยพาณิชย์ รับมอบอำนาจจากธนาคารไทยพาณิชย์ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผบก.ป.เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับแก๊งโจรกรรมข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารตรวจสอบ พบว่า เงินในบัญชีเงินฝากของลูกค้าถูกลักลอบกดออกไปเป็นจำนวน 41 ราย รวมเป็นเงินกว่า 2.5 ล้านบาท

นายภิญโญ กล่าวว่า กลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุครั้งนี้ เชื่อว่า น่าจะเป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากที่ผ่านมา เคยมีการจับกุมแก๊งชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่โจรกรรมข้อมูลบัตรอิเลกทรอนิกส์ลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว และธนาคารต่างๆ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนหลายล้านบาท โดยที่ผ่านมาแต่ละธนาคารก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลความเสียหายของผู้ใช้บัตรเป็นระยะและออกมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหา อย่างไรก็ดี ตนอยากฝากถึงผู้ใช้บัตรอิเลกทรอนิกส์ต่างๆ ว่า ต้องหมั่นสังเกตตู้เอทีเอ็มที่จะกดเงิน ว่า มีการดัดแปลงอุปกรณ์ต่างๆ หรือไม่ รวมทั้งใช้มือปิดเวลากดรหัสบัตรทุกครั้ง หรือหากไม่มั่นใจก็ควรเปลี่ยนรหัสก่อน

น.ส.ขวัญเรือง บุญจันทร์ อายุ 23 ปี พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาท่าหลวง จ.ลพบุรี หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา พี่ที่รู้จักกันได้โอนเงินเข้าบัญชีตน จำนวน 25,000 บาท แต่เมื่อไปกดเงินดู พบว่า ในบัญชีเหลือเงินอยู่เพียง 5,000 บาทเท่านั้น โดยตนกดเงินครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา จากตู้เอทีเอ็มหน้าธนาคารที่ทำงานอยู่

“หลังตั้งสติได้จึงรีบโทรศัพท์สอบถามไปยังศูนย์คอลล์เซ็นเตอร์ของธนาคารก็ได้รับคำตอบว่า บัตรเอทีเอ็มของตนมีการกดเงินออกไปเมื่อเวลา 02.00 น.ของวันที่มีการโอนเงินเข้ามาที่ตู้หน้าร้านสะดวกซื้อหน้ามหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งตนยืนยันว่า ไม่ได้กดเงินจากตู้ดังกล่าวแต่อย่างใด” น.ส.ขวัญเรือง กล่าว

ส่วน น.ส.ศิรินภา ไวจำปา อายุ 27 ปี ผู้เสียหายอีกราย ระบุว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม เวลาประมาณ 11.00 น.ตนได้นำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหน้าตลาดย่านบางกรวย ซึ่งเงินในบัญชีมีเหลืออยู่ประมาณ 32,000 บาท กระทั่งในช่วงเย็นวันเดียวกัน ขณะที่ตนจะนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินอีกครั้ง ปรากฏว่า ยอดเงินกลับเหลืออยู่เพียง 1,000 กว่าบาทเท่านั้น เมื่อตรวจสอบไปที่ธนาคาร พบว่า เงินจำนวนที่สูญหายไปนั้น มีการกดเงินออกไปหลังจากที่ตนได้กดเงินออกมาล่าสุดเพียง 2 ชั่วโมง

ด้าน ร.ต.อ.สิทธิศักดิ์ หล๋อโตน พนักงานสอบสวน บก.ป.กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียหายที่ถูกโจรกรรมข้อมูลบัตรเอทีเอ็มและกดเงินออกไปจากพื้นที่ต่างๆ รวม 7 จังหวัด ได้แก่ จ.แพร่ ลำปาง เชียงราย เชียงใหม่ ปทุมธานี นนทบุรี และ กทม.ระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม - 2 ธันวาคม 2551 ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้เร่งสอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐานก่อนดำเนินการสืบสวนจับกุมแก๊งดังกล่าวมาดำเนินคดีต่อไป
นายภิญโญ โกมลกิตติพงศ์ เจ้าหน้าที่ควบคุมและป้องกันการทุจริต ธนาคารไทยพาณิชย์ รับมอบอำนาจจากธนาคารไทยพาณิชย์ เดินทางแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับแก๊งโจรกรรมข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม
เจ้าหน้าที่ธนาคาร เชื่อว่า กลุ่มคนร้ายก่อเหตุครั้งนี้น่าจะเป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากที่ผ่านมาเคยจับกุมแก๊งชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่โจรกรรมข้อมูลบัตรอีเล็กทรอนิกส์ลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว

กำลังโหลดความคิดเห็น