คดีไฟไหม้ซานติก้าผับหลอกหลอน “จงรัก” หลบหน้าสื่องดจ้อ หนีนักข่าวเลี่ยงตอบคำถาม เผ่นออกประตูหลังปล่อยนักข่าวรอเก้อ ด้านสื่อมวลชนงงเป็นไก่ตาแตก ทั้งที่ รอง ผบ.ตร.ไม่เคยมีพฤติกรรมหลบหน้าสื่อ
วันนี้ (10 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุม กต.ตร.กทม. โดยมี พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. และรอง ผบช.น. ก.ตร.กทม. เข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีวาระในการประชาสัมพันธ์การทำงานของตำรวจในเชิงรุก การจัดสรรงบประมาณในการช่วยเหลือที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ การบูรณาการในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ใช้เวลาในการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมผู้สื่อข่าวได้รอสัมภาษณ์ พล.ต.อ.จงรัก ถึงวาระการประชุม และความคืบหน้าคดีไฟไหม้ซานติก้า โดยขณะที่รอผู้เข้าร่วมประชุมได้ทยอยเดินออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มี พล.ต.อ.จงรักเดินออกมาด้วย ผู้สื่อข่าวจึงคิดว่าน่าจะยังพูดคุยอยู่ในห้องประชุม กระทั่งผู้ดูแลห้องประชุมได้ปิดไฟบริเวณทางเดินและห้องประชุม ก่อนจะเดินมาแจ้งผู้สื่อข่าวว่า พล.ต.อ.จงรัก ได้ออกทางประตูหลังห้องประชุมไปก่อนหน้านี้แล้ว สร้างความแปลกใจแก่ผู้สื่อข่าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมา พล.ต.อ.จงรัก ไม่เคยหลบหน้าสื่อ
อย่างไรก็ตาม สำหรับ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.ก่อนหน้านี้ถือเป็นนายตำรวจที่ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในแทบทุกเรื่อง แต่หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีการสรุปคดีไฟไหม้ซานติก้าผับ โดยผลสรุปแตกต่างจากผลสอบสวนของคณะกรรมการกระทรวงยุติธรรม โดยที่ผลสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมชี้ชัดว่า นายสราวุธ อะริยะ นักร้องนำวงเบิร์นเป็นแพะ หลังจากถูก พล.ต.อ.จงรัก แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง เลขที่ ส.157/2552 ในความผิดข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ และกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท และเป็นเหตุให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหาย และมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนั้น ข้อมูลล่าสุดจากการเปิดเผยของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่ให้สัมภาษณ์พิเศษ ทีมข่าวอาชญากรรม เอเอสทีวี/ผู้จัดการ เกี่ยวกับพยานบุคคลที่ พล.ต.อ.จงรัก อ้างว่าเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ ขณะที่นายสราวุธเป็นผู้ใช้ไฟแช็กจุดพลุ ก่อนไฟไหม้ซานติก้านั้น แต่ความจริงกลับปรากฏว่าในวันที่พยานเข้าให้การต่อคณะทำงานของกระทรวงยุติธรรมที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม เป็นประธาน นั้นพบว่าพยานบุคคลทั้ง 2 ปาก โดยพยานผู้หญิงและผู้ชายทั้ง 2 ปากเป็นแฟนกัน ฝ่ายชายบอกว่าเขาไม่รู้ เขาไม่ได้สรุปเพราะเขาไม่เห็น ส่วนฝ่ายหญิงบอกว่าทำไมสิ่งที่เห็นในวิดีโอไม่เหมือนกับที่ตนเห็น ซึ่งจริงๆ แล้วเขาเห็นเหตุการณ์หลายอย่างซึ่งตอนที่พลุถูกจุดขึ้นในวิดีโอ กับที่เขาเห็นก็ไม่ใช่เหตุเดียวกัน ซึ่งภาพในวิดีโอเห็นชัดเจนว่านักร้องนำที่ถูกกล่าวหาก้มลงไปจริงแต่ไปเอาเท้ากระทืบลูกไฟที่ตกลงมา นอกจากนี้ พยานฝ่ายชายยังบอกว่าที่จริงแล้วฝ่ายหญิงได้สลบหมดสติและไปฟื้นที่โรงพยาบาล
ทั้งนี้ จากคำให้การของพยานปากสำคัญดังกล่าวถือเป็นประเด็นที่ พล.ต.อ.จงรัก ต้องออกมาชี้แจงต่อสังคม