xs
xsm
sm
md
lg

พบพิรุธคดีซานติก้าผับตบหน้า"จงรัก"จับแพะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “พีระพันธุ์” เปิดหลักฐานเด็ดวิดีโอฉีกหน้า"จงรัก"ย้ำนักร้องนำวงเบิร์น เป็นแพะ เตรียมเสนอไหม้ซานติก้าเป็นคดีพิเศษ พร้อมขยายผลคดีค้ายาเสพติด-ฟอกเงิน แสบ“ซานติก้า”ไม่เสียภาษีตลอดบริการ 5 ปี"จงรัก"ฉุดจัดโวสื่อไปถามตำรวจท้องที่ ลั่นไม่ตอบคำถาม “อภิสิทธิ์” รับลูก “พีระพันธุ์” ดึงซากซานติก้าเป็นคดีพิเศษ ปัดฉีกหน้าตำรวจ หลังพบข้อมูลไม่ตรงกัน


วานนี้(2 ก.พ.)เวลา 14.30 น.ที่กระทรวงยุติธรรม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวผลการตรวจสอบของคณะทำงานกระทรวงยุติธรรม กรณีเพลิงไหม้ซานติก้า ผับโดยมีการนำภาพที่บันทึกจากกล้องวงจรปิดวิดีโอภายในซานติก้าผับ ที่ถูกเพลิงไหม้ และตกอยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมภาพการทดลองยิงพลุไฟเอฟเฟกต์ใส่ฝ้าเพดาน ของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มาใช้ประกอบในการแถลงข่าว

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบความผิดในหลายประเด็น ดังนั้น กระทรวงยุติธรรมจะเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.)เพื่อรับโอนคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษในวันที่ 11 ก.พ.นี้ โดยจะนำเสนอรายงานผลการตรวจสอบต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 3 ก.พ.นี้ โดยภาพหลักฐานที่ไม่เคยปรากฏที่ใดมาก่อน ซึ่งทีมงานของกระทรวงยุติธรรมพบจากการตรวจสอบ 3 วัน หลังเกิดเหตุ เป็นภาพจากกล้องวิดีโอที่ถูกไฟไหม้ โดยเนื้อหาภายในภาพแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการสอบสวน และคำให้การของพยานต่อพนักงานสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งระบุว่า นักร้องนำวงเบิร์น เป็นผู้จุดไฟแช็กที่หน้ากลอง จนเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ แต่ภาพจากกล้องวิดีโอของซานติก้าผับ บ่งชี้ว่า มีลูกไฟเกิดขึ้นหลังจุดเอฟเฟกต์นาน 2.57 นาที โดยเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนนักร้อง และนักร้องคนที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเดินหลบไปข้างเวที อีกทั้งไม่มีภาพนักร้องเป็นผู้จุดพลุตามที่พยานให้การ

นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า ข้อมูลจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า พลุเอฟเฟกต์จุดด้วยชนวนไฟฟ้า ไม่ได้ใช้ไฟแช็ก จึงมีการจุดพลุทดสอบ เพื่อเปรียบเทียบระยะเวลาของการเกิดเพลิงไหม้จนกระทั่งลุกลามหนัก ซึ่งผลการทดสอบไม่ตรงกับเหตุการณ์จริง เพราะในสถานการณ์จำลองต้องใช้เวลานานกว่าไฟจะลุกลาม ขณะที่ภาพจากวิดีโอเห็นได้ชัดว่า ใช้เวลาเพียง 2 นาทีเศษ ไฟก็ลุกลามจนทำให้หนีไม่ทัน จึงสันนิษฐานว่า อุปกรณ์บนฝ้าเพดานอาจมีวัสดุอื่นที่ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว และมีลูกไฟและโครงสร้างฝ้าเพดานถล่มลงมา ดังนั้น จึงอยากให้พยานบุคคลทบทวนเหตุการณ์เพลิงไหม้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มีประเด็นน่าสังเกตว่า คดีนี้เดิมมีพยานติดต่อขอให้ข้อมูลจำนวนมาก แต่ภายหลังกลับไม่สามารถติดตามพยานได้ บางรายก็หายตัวไป

**ในผับมีการซื้อขายยาเสพติด**

นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบห้องพักเจ้าหน้าที่และห้องพักนักดนตรีด้วยเครื่อง GCMS ซึ่งเป็นเครื่องตรวจหาสารเสพติด พบผงเฮโรอีน และโคเคน ปนเปื้อนอยู่บนสายรัดเงิน โซฟา ตู้เอกสาร และลิ้นชักต่างๆ จึงเชื่อว่า ซานติก้าผับ มีการซื้อขายยาเสพติด โดยมอบหมายให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สอบสวนขยายผลต่อไป นอกจากนี้ ยังสั่งการให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สอบสวนประเด็นฟอกเงิน เนื่องจากผลการตรวจสอบทางบัญชี พบการโอนเงินเข้ามาในซานติก้า ผับ จำนวน 20 ล้านบาท โดยอ้างว่า บริษัทจำหน่ายสุราแห่งหนึ่งมอบให้ แต่เมื่อสอบถามไปยังบริษัทจำหน่ายสุราได้ปฏิเสธว่าไม่เคยมอบเงินสดให้ จะมีก็เพียงโปรโมชันอื่นๆ

“อีกประเด็นที่น่าสงสัย คือ ภายหลังการเข้ามาถือหุ้นในบริษัท ไวท์ แอนด์ บราเธอร์ จำกัด ของบุคคลคนหนึ่ง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2549 ตำรวจก็ไม่เคยเข้าจับกุมซานติก้า ผับ อีกเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยมีการจับกุมฐานเปิดสถานบริการโดยไม่รับอนุญาต และจำหน่ายสุราในเวลาห้ามจำหน่าย เกือบจะวันเว้นวัน รวมถึง 47 ครั้ง ส่วน นายสุริยา ฤทธิ์ระบือ ผู้จัดการบริษัท ไวท์ แอนด์ บราเธอร์ จำกัด การตรวจสอบพบว่ามีประวัติเสพยาเสพติด ประกอบอาชีพขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง และทำหน้าที่เป็นเด็กรับรถในลานจอดรถยนต์” รมว.ยุติธรรม กล่าว

**ซานติก้าไม่เคยเสียภาษี**

นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบรายการเสียภาษี พบว่า ซานติก้าผับ ไม่เคยเสียภาษีสรรพสามิต ตลอดระยะเวลาที่เปิดให้บริการนาน 5 ปี นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการปลอมลายเซ็นของสถาปนิกผู้ออกแบบ และวิศวกรผู้คุมงานก่อสร้าง จึงเชื่อว่า อาจเป็นขบวนการปลอมแปลงใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร เพราะมีการใช้ชื่อวิศวกรคนดังกล่าวไปยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคารอีก 33 แห่ง จึงต้องประสานให้กรุงเทพมหานครตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร

พญ.คุณพรทิพย์ กล่าวว่า ทีมงานนิติศาสตร์ได้ตั้งสมมติฐานของเพลิงไหม้ไว้ 2 ประเด็น คือ เกิดจากพลุเอฟเฟกต์ หรือมีวัสดุบางอย่างอยู่บนฝ้าเพดาน เมื่อมีพลุไฟยิงขึ้นไปจึงเกิดเพลิงลุกไหม้อยู่บนฝ้า เมื่อเพลิงลุกลามจึงตกลงมาและถล่มใส่คนที่อยู่ด้านล่าง อย่างไรก็ตาม ตนมีหลักฐานอีก 1 จุด คือ มีเพลิงลุกไหม้ที่โซนวีไอพี แต่จะต้องใช้เวลาตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน

**"จงรัก"ยั๊วะปัดตอบสื่อ**

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดย พล.ต.อ.จงรัก ระบุว่าตนเองอยู่ต่างจังหวัดยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้ไปสอบถามตำรวจพื้นที่ที่เกิดเหตุ อย่าข้ามขั้นมาถามรองผบ.ตร.ให้ไปถามทาง พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผบก.น.5 ผู้รับผิดชอบในท้องที่

ผู้สื่อข่าวถามว่าทาง รมว.ยุติธรรม ระบุว่านักร้องวงเบิร์นเป็นแพะ พล.ต.อ.จงรัก กล่าวตอบว่า คุณพูดเองนะ พูดรุนแรงไปหรือเปล่า ผมจะไม่ตอบคำถามอะไรทั้งนั้นเพราะยังไม่รู้รายละเอียด ผมจะไม่ตอบคำถามใดๆทั้งสิ้น และผมก็ทราบว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้ตอบคำถามนี้ไปแล้ว ให้ไปตรวจสอบดู จากนั้นก็ไม่ยอมตอบคำถามใดๆอีกตัดสายโทรศัพท์ไป

ขณะเดียวกัน เมื่อผู้สื่อข่าว ได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.สุทิน พ่วงทรัพย์ ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.อ.สุทิน อ้างว่า เรื่องดังกล่าว ต้องสอบถามไปยัง พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผบก.น.5 หัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าว แต่ทว่าไม่สามารถติดต่อ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ได้เช่นกัน

**นักร้องนำดีใจผลสอบ ยธ.**

นายสราวุธ อะริยะ อายุ 28 ปี นักร้องนำวงเบิร์น ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามผลสอบสวนของตำรวจ เปิดเผยหลังทราบผลการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมว่า ตนไม่ได้กระทำตามที่ถูกพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ขณะนั้น มือของตนกำลังถือไมค์ร้องเพลงอยู่ ไม่สามารถใช้ไฟแช็กจุดพลุได้ จะมีการฟ้องกลับพนักงานสอบสวนหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่คิด

สำหรับนายสราวุธ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง เลขที่ ส.157/2552 ลงวันที่ 26 ม.ค.52 ในความผิดข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ และกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท และเป็นเหตุให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหาย และมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ

โดย พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ขณะแถลงข่าว ในวันจับกุมนายสราวุธ ว่าเป็นผู้ต้องหาในคดีคนสุดท้ายซึ่งเป็นคนที่ 6 และเป็นคนสำคัญที่สุด เนื่องจากมีพยานหลักฐานระบุว่า นายสราวุธ เป็นคนใช้ไฟแช็กจุดพลุในวันคืนวันเกิดเหตุ ใช้เวลาประมาณ 30 วินาที จากนั้นพลุก็พุ่งขึ้นไปบนเพดานจนทำให้เกิดไฟลุกไหม้ ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ และขอให้การในชั้นศาล

**นายกฯ รับลูก “พีระพันธุ์”
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการตรวจสอบของคณะทำงานกระทรวงยุติธรรม กรณีเพลิงไหม้ซานติก้าผับ ว่า ตนเคยระบุเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ข้อมูลของทางตำรวจและกระทรวงยุติธรรมไม่ตรงกัน จึงมอบหมายให้ไปดูแลความเรียบร้อยทางด้านข้อมูลให้ตรงกันเข้าใจ ซึ่งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอยากเสนอให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษเพราะว่ามีความซับซ้อนพอสมควร รวมถึงมีหลักฐานที่ชัดเจน ซึ่งตนก็เห็นด้วยเพราะเท่าที่ได้ฟังมา มีข้อมูลหลายส่วนที่เกี่ยวข้องกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำอย่างนี้ตำรวจอาจไม่พอใจเพราะเหมือนโดนฉีกหน้า นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อย่าไปคิดแง่นั้นเรามีหน้าที่เอาความจริงออกมาให้ได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความสูญเสีย พอมีคนได้ข้อมูลมาก็ต้องทำให้เป็นประโยชน์ต้องเดินหน้าต่อ ตนยังไม่ทราบข้อจำกัดหรือปัญหาของตำรวจ แต่เมื่อมีคนมาช่วยทำงานก็อยากให้ทำให้ดีที่สุด เบื้องต้นได้ให้ทางตำรวจและกระทรวงยุติธรรมไปคุยกันว่ามีอะไรที่ไม่ตรงกันอยู่ เพราะอะไร แต่ถ้ามีข้อมูลและนายพีระพันธ์เห็นว่าควรเป็นคดีพิเษ ตนก็เห็นด้วย
เมื่อถามว่า จะกลายเป็นปัญหาการทำงานระหว่างตำรวจหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร ตนเข้าใจว่าคนทำงานต้องมีอุปสรรคบ้าง แต่ตนและรัฐบาลมีหน้าที่ทำให้ถูกต้องชัดเจนและแก้ปัญหาให้ดีที่สุด ต่อข้อถามว่า การที่ตำรวจรีบสรุปคดีจนมีแพะเกิดขึ้นเป็นเพราะทางตำรวจมีผลประโยชน์อะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อย่าไปพาดพิง เมื่อสัปดาห์ก่อนที่จะสรุปคดีนี้ ตนเห็นว่าข้อมูลไม่ตรงกันเลยขอให้ไปดูให้ตรงกัน ตอนนี้ถ้ามีข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจนก็ต้องดำเนินการต่อ
เมื่อถามว่า การที่นายกฯจะปิดคดีนี้ให้เร็วที่สุดได้มีการวางเป้าหมายคดีอย่างไรหากมีการโอนไปกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราเอาทั้งความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จะเอาแบบรวดเร็วปัดผ่านไม่ได้ เรื่องนี้ถ้าเราสามารถทำให้มีความชัดเจนและมีความรับผิดชอบได้ จะเป็นกรณีตัวอย่างป้องกันไม่ให้มีกรณีอื่นๆ เกิดขึ้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น