เลื่อนสืบพยานโจทก์คดี “สามเกลอ นปช.” ดักฟังโทรศัพท์ เหตุติดสมัยประชุมสภา ศาลนัดอีกครั้ง 30 ก.ค.นี้ “เพ็ญ” ฟุ้ง ม็อบเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยไม่เกี่ยว “ทักษิณ” ด้าน “ณัฐวุฒิ” ขู่พร้อมชุมนุมยืดเยื้อหากรัฐไม่สนอง 4 ข้อเรียกร้อง
วันนี้ (5 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตรองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลยที่ 1-3 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันดักรับไว้ใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผยข้อความข่าวสาร หรือข้อมูลอื่นใดที่มีการสื่อสารทางโทรคมนาคมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และร่วมกันดักรับฟังใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผยข้อความที่มีการติดต่อทางโทรศัพท์ หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใดโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย กรณีร่วมกันนำถ้อยคำสนทนาที่มีการติดต่อทางโทรศัพท์ระหว่าง พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) กับนายวิรัช ชินวินิจกุล อดีตเลขานุการศาลฎีกา และนายไพโรจน์ นวานุช ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา ไปเผยแพร่บนเวทีปราศรัยของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ที่ท้องสนามหลวง เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 22 มิ.ย.50
โดยในวันนี้ จำเลยที่ 1 และ 2 เดินทางมาศาลพร้อมกลุ่มคนเสื้อแดง 50 คน ขณะที่จำเลยที่ 3 มอบหมายให้ทนายความแถลงต่อศาลขอเลื่อนนัดสืบพยานออกไปก่อนเนื่องจากจำเลยที่ 3 เป็น ส.ส.และอยู่ในระหว่างสมัยประชุมรัฐสภา ศาลสอบถามอัยการโจทก์ไม่คัดค้านจึงมีคำสั่งเลื่อนนัดสืบพยานโจทก์ออกไปจนกว่าจะปิดสมัยประชุมสภาฯ ในวันที่ 30 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น.
ภายหลัง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ในการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงครั้งต่อไป น่าจะมีการรวมตัวกันภายในเดือน ก.พ.นี้ โดยอาจเป็นในวันอังคารที่ 17 หรือ 24 ก.พ.ซึ่งตรงกับการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยจะรวมตัวกันที่ท้องสนามหลวง ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ดำเนินการตามข้อเรียกร้องทั้ง 4 ข้อของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยหากรัฐบาลยังเพิกเฉยครั้งนี้อาจมีการชุมนุมยืดเยื้อ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่มีการบุกเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล หรือบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ เหมือนกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างแน่นอน
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่ม สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 30 คน จะเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศกัมพูชานั้น นายจักรภภพ กล่าวว่า หลายคนพยายามโยงการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงเข้ากับการต่อสู้เพื่อความชอบธรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะคนเสื้อแดงต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่ได้ต่อสู้เพื่อใครคนเดียวตามที่หลายคนพยายามกล่าวหา
วันนี้ (5 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตรองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลยที่ 1-3 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันดักรับไว้ใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผยข้อความข่าวสาร หรือข้อมูลอื่นใดที่มีการสื่อสารทางโทรคมนาคมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และร่วมกันดักรับฟังใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผยข้อความที่มีการติดต่อทางโทรศัพท์ หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใดโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย กรณีร่วมกันนำถ้อยคำสนทนาที่มีการติดต่อทางโทรศัพท์ระหว่าง พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) กับนายวิรัช ชินวินิจกุล อดีตเลขานุการศาลฎีกา และนายไพโรจน์ นวานุช ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา ไปเผยแพร่บนเวทีปราศรัยของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ที่ท้องสนามหลวง เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 22 มิ.ย.50
โดยในวันนี้ จำเลยที่ 1 และ 2 เดินทางมาศาลพร้อมกลุ่มคนเสื้อแดง 50 คน ขณะที่จำเลยที่ 3 มอบหมายให้ทนายความแถลงต่อศาลขอเลื่อนนัดสืบพยานออกไปก่อนเนื่องจากจำเลยที่ 3 เป็น ส.ส.และอยู่ในระหว่างสมัยประชุมรัฐสภา ศาลสอบถามอัยการโจทก์ไม่คัดค้านจึงมีคำสั่งเลื่อนนัดสืบพยานโจทก์ออกไปจนกว่าจะปิดสมัยประชุมสภาฯ ในวันที่ 30 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น.
ภายหลัง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ในการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงครั้งต่อไป น่าจะมีการรวมตัวกันภายในเดือน ก.พ.นี้ โดยอาจเป็นในวันอังคารที่ 17 หรือ 24 ก.พ.ซึ่งตรงกับการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยจะรวมตัวกันที่ท้องสนามหลวง ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ดำเนินการตามข้อเรียกร้องทั้ง 4 ข้อของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยหากรัฐบาลยังเพิกเฉยครั้งนี้อาจมีการชุมนุมยืดเยื้อ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่มีการบุกเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล หรือบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ เหมือนกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างแน่นอน
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่ม สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 30 คน จะเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศกัมพูชานั้น นายจักรภภพ กล่าวว่า หลายคนพยายามโยงการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงเข้ากับการต่อสู้เพื่อความชอบธรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะคนเสื้อแดงต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่ได้ต่อสู้เพื่อใครคนเดียวตามที่หลายคนพยายามกล่าวหา