โยนกันไป โยนกันมา กรณี"เผือกร้อน-ซานติก้า" ผับมรณะ ภายหลังจากที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ออกมาสรุปผลการสอบสวน พร้อมทั้งนำหลักฐานเด็ด เป็นวิดีโอวงจรปิดที่เห็นชัดเจนว่า นายสราวุธ อะริยะ นักร้องนำวงเบิร์น ไม่ได้เป็นผู้จุดพลุ หรือไฟแชค ตามสำนวนการสอบสวนของคณะพนักงานสอบสวน หรือตำรวจที่มีพล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร. ลงมาแสดงเองตั้งแต่แรก
หลังผลสอบกระทรวงยุติธรรมออกมา ซึ่งต่างจากสำนวนของตำรวจราวหน้ามือกับหลังเท้า บรรดาผู้สื่อข่าวพยายามที่สอบถามไปยังตำรวจ ไล่กันตั้งแต่ พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ เจ้าของพื้นที่ก็อ้างว่า ไม่เกี่ยวข้อง เพราะผู้ที่ดูแลสำนวนการสอบสวน คือ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผบก.น.5 เมื่อสอบถามไปยังพ.ต.อ.ขจรศักดิ์นั้น สามารถติดต่อได้ แต่ไม่รับสาย เสมือนหนึ่งรู้อยู่แล้วว่า เป็นคำถามอะไร
เมื่อไปถามพล.ต.อ.จงรัก ก็ให้เห็นถึงอารมณ์ ของผู้ดำรงตำแหน่งระดับรองผบ.ตร.ว่า " ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดย พล.ต.อ.จงรัก ระบุว่า ตนเองอยู่ต่างจังหวัด ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้ไปสอบถามตำรวจพื้นที่ที่เกิดเหตุ อย่าข้ามขั้นมาถามรอง ผบ.ตร.ให้ไปถามทาง พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 ผู้รับผิดชอบในท้องที่ หรือจะให้ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์โทร.หาก็ได้ ผู้สื่อข่าวอ้างอิงคำพูดของ รมว.ยุติธรรม ที่ระบุว่า นักร้องวงเบิร์นเป็น "แพะ" พล.ต.อ.จงรัก กล่าวตอบว่า “คุณพูดเองนะ พูดรุนแรงไปหรือเปล่า ผมจะไม่ตอบคำถามอะไรทั้งนั้น เพราะยังไม่รู้รายละเอียด” เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามซักถามว่า ยังยืนยันหรือไม่นักร้องวงเบิร์นเป็นผู้ต้องหาที่แท้จริง พล.ต.อ.จงรัก กล่าวอย่างมีอารมณ์อีกว่า “ผมจะไม่ตอบคำถามใดๆ ทั้งสิ้น และผมก็ทราบว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้ตอบคำถามนี้ไปแล้ว ให้ไปตรวจสอบดู” จากนั้นก็ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ อีกตัดสายโทรศัพท์ไป"
ในวันนี้ ผู้สื่อข่าวถามพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. ก็ได้รับคำตอบว่า ให้ไปถามพล.ต.อ.จงรัก ในฐานะประธานคณะทำงาน ส่วนบช.น.เป็นเพียง ส่วนหนึ่งในการรวบรวมหลักฐานการสอบสวน ขณะที่พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ยืนยันอีกครั้งว่า เรื่องทั้งหมดพล.ต.อ.จงรักชี้แจงไปแล้ว จะไม่ขอชี้แจงอะไรอีก
ไม่เป็นไร ตำรวจจะตอบหรือไม่ตอบ สังคมจะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่า หน่วยงานไหนพูดความจริง?
ย้อนกลับไปดูการพิสูจน์หลักฐาน ภายหลังการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในผับมรณะ โดยเมื่อวันที่ 3 ม.ค. เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผู้บัญชาการสำนักงานวิทยาการตำรวจ (ผบช.สนว.ตร.) พล.ต.ท.สมเดช ขาวขำ ผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีและการสื่อสาร (ผบช.สทส.) พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.อ.นิธิ บิณฑุวงศ์ ผกก.กลุ่มงานตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและการส่งกลับ สนว.ตร. และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด
อันกองพิสูจน์หลักฐาน สถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น เราเชื่อมั่นเสมอว่า บุคลากรภายในหน่วยงาน มีความเก่ง ชำนาญ และแม่นยำ ไม่แพ้หน่วยงานอื่น ทว่า เป็นที่รู้กันว่า เมื่อ"นาย" ต้องการที่จะให้ผลงานออกมาเป็นสีขาว ดำ หรือเทา คนในหน่วยงานต้องสนองตามความต้องการของ"นาย" โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณ เมื่อนายอยากให้เป็นอย่างไร ก็ต้องทำตามนั้น กี่คดีแล้วที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้สร้างความด่างพร้อยให้กับกรมตำรวจและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกี่คดีที่ทำไม สังคมจึงไม่เชื่อ"น้ำยา"ของกองพิสูจน์หลักฐาน
เหตุเพลิงไหม้ "ซานติก้าผับ" มีผู้เสียชีวิตถึง 66 คน ทำไม ผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ"ตำรวจ" จึงไม่คิดที่จะปิดคดีอย่างขาวสะอาด เพื่ออุทิศผลงานให้กับดวงวิญญาณทั้ง 66 ดวงได้ไปสู่สัมปรายภพอย่างสุคติ แต่ตรงกันข้าม กลับพยายามที่จะเหยียบย่ำไปบนซากศพที่พวกเขาต้องเสียชีวิตอย่างทุรน เพื่อที่ตัวเองจะได้เสวย"สุข" จากกองเงินของเจ้าของผับที่จะต้องรับผิดชอบโดยตรง โดยไม่คำนึงถึง 66 ชีวิตกระนั้นหรือ!?!
หลังผลสอบกระทรวงยุติธรรมออกมา ซึ่งต่างจากสำนวนของตำรวจราวหน้ามือกับหลังเท้า บรรดาผู้สื่อข่าวพยายามที่สอบถามไปยังตำรวจ ไล่กันตั้งแต่ พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ เจ้าของพื้นที่ก็อ้างว่า ไม่เกี่ยวข้อง เพราะผู้ที่ดูแลสำนวนการสอบสวน คือ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผบก.น.5 เมื่อสอบถามไปยังพ.ต.อ.ขจรศักดิ์นั้น สามารถติดต่อได้ แต่ไม่รับสาย เสมือนหนึ่งรู้อยู่แล้วว่า เป็นคำถามอะไร
เมื่อไปถามพล.ต.อ.จงรัก ก็ให้เห็นถึงอารมณ์ ของผู้ดำรงตำแหน่งระดับรองผบ.ตร.ว่า " ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดย พล.ต.อ.จงรัก ระบุว่า ตนเองอยู่ต่างจังหวัด ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้ไปสอบถามตำรวจพื้นที่ที่เกิดเหตุ อย่าข้ามขั้นมาถามรอง ผบ.ตร.ให้ไปถามทาง พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 ผู้รับผิดชอบในท้องที่ หรือจะให้ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์โทร.หาก็ได้ ผู้สื่อข่าวอ้างอิงคำพูดของ รมว.ยุติธรรม ที่ระบุว่า นักร้องวงเบิร์นเป็น "แพะ" พล.ต.อ.จงรัก กล่าวตอบว่า “คุณพูดเองนะ พูดรุนแรงไปหรือเปล่า ผมจะไม่ตอบคำถามอะไรทั้งนั้น เพราะยังไม่รู้รายละเอียด” เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามซักถามว่า ยังยืนยันหรือไม่นักร้องวงเบิร์นเป็นผู้ต้องหาที่แท้จริง พล.ต.อ.จงรัก กล่าวอย่างมีอารมณ์อีกว่า “ผมจะไม่ตอบคำถามใดๆ ทั้งสิ้น และผมก็ทราบว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้ตอบคำถามนี้ไปแล้ว ให้ไปตรวจสอบดู” จากนั้นก็ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ อีกตัดสายโทรศัพท์ไป"
ในวันนี้ ผู้สื่อข่าวถามพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. ก็ได้รับคำตอบว่า ให้ไปถามพล.ต.อ.จงรัก ในฐานะประธานคณะทำงาน ส่วนบช.น.เป็นเพียง ส่วนหนึ่งในการรวบรวมหลักฐานการสอบสวน ขณะที่พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ยืนยันอีกครั้งว่า เรื่องทั้งหมดพล.ต.อ.จงรักชี้แจงไปแล้ว จะไม่ขอชี้แจงอะไรอีก
ไม่เป็นไร ตำรวจจะตอบหรือไม่ตอบ สังคมจะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่า หน่วยงานไหนพูดความจริง?
ย้อนกลับไปดูการพิสูจน์หลักฐาน ภายหลังการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในผับมรณะ โดยเมื่อวันที่ 3 ม.ค. เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผู้บัญชาการสำนักงานวิทยาการตำรวจ (ผบช.สนว.ตร.) พล.ต.ท.สมเดช ขาวขำ ผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีและการสื่อสาร (ผบช.สทส.) พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.อ.นิธิ บิณฑุวงศ์ ผกก.กลุ่มงานตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและการส่งกลับ สนว.ตร. และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด
อันกองพิสูจน์หลักฐาน สถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น เราเชื่อมั่นเสมอว่า บุคลากรภายในหน่วยงาน มีความเก่ง ชำนาญ และแม่นยำ ไม่แพ้หน่วยงานอื่น ทว่า เป็นที่รู้กันว่า เมื่อ"นาย" ต้องการที่จะให้ผลงานออกมาเป็นสีขาว ดำ หรือเทา คนในหน่วยงานต้องสนองตามความต้องการของ"นาย" โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณ เมื่อนายอยากให้เป็นอย่างไร ก็ต้องทำตามนั้น กี่คดีแล้วที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้สร้างความด่างพร้อยให้กับกรมตำรวจและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกี่คดีที่ทำไม สังคมจึงไม่เชื่อ"น้ำยา"ของกองพิสูจน์หลักฐาน
เหตุเพลิงไหม้ "ซานติก้าผับ" มีผู้เสียชีวิตถึง 66 คน ทำไม ผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ"ตำรวจ" จึงไม่คิดที่จะปิดคดีอย่างขาวสะอาด เพื่ออุทิศผลงานให้กับดวงวิญญาณทั้ง 66 ดวงได้ไปสู่สัมปรายภพอย่างสุคติ แต่ตรงกันข้าม กลับพยายามที่จะเหยียบย่ำไปบนซากศพที่พวกเขาต้องเสียชีวิตอย่างทุรน เพื่อที่ตัวเองจะได้เสวย"สุข" จากกองเงินของเจ้าของผับที่จะต้องรับผิดชอบโดยตรง โดยไม่คำนึงถึง 66 ชีวิตกระนั้นหรือ!?!
