xs
xsm
sm
md
lg

อุทธรณ์ยืนคุกตลอดชีวิตมือปืนฆ่าที่ปรึกษา “ประชัย”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุกตลอดชีวิต มือปืนยิงเจ้าของรีสอร์ตดัง จ.นครราชสีมา ที่ปรึกษาของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เสียชีวิต ระบุพยานหลักฐานชัดเจนข้อต่อสู้จำเลยฟังไม่ขึ้น

วันนี้ (27 ม.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 904 ศาลอุทธรณ์นัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวิเชียร โพธิ์ถนอม พ.ต.ท.พลัฏฐ์ เพียรพิทักษ์ พนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา (ในขณะนั้น) นายอภิวัฒน์ หงษ์แปลง และนายปรีชา เจริญสุข เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันใช้จ้างวานให้ฆ่าผู้อื่น , ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในความครอบครอง พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 เม.ย.2549 เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้น ขนาด.38 ยิงนายทนง เหล่าวานิช เจ้าของรีสอร์ตดัง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ปรึกษานายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตประธานในเครือบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมิกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ และอดีตประธานที่ปรึกษา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 5 นัด เสียชีวิตที่หน้าบ้าน ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผบช.ก.และพล.ต.ต.อัศวิน ขวัญเมือง รอง ผบช.ก.สั่งการให้ทีมชุดสืบสวนมี พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.3 บก.ป.พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ ผกก.1 บก.ป.สงพื้นที่หาหลักฐานจนสามารถจับกุมตัว นายวิเชียร โพธิ์ถนอม อายุ 29 ปี ชาวกาญจนบุรี หลังหลบหนีไปกบดานที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 1 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฐานมีอาวุธปืน จำคุก 4 เดือน และฐานพกพาอาวุธปืน จำคุก 4 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2-4 ให้ยกฟ้อง ต่อมาจำเลยที่ 1ได้ยื่นอุทธรณ์ ขณะที่อัยการโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์จำเลยที่ 2-4

พิเคราะห์แล้วมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ โจทก์มี ด.ช.เหินฟ้า เหล่าวานิช บุตรชายของนายทะนง เบิกความเป็นพยานว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน ห่างจากผู้ตายประมาณ 10 เมตร มีคนขี่จักรยานยนต์มาหาผู้ตาย โดยคนขี่สสมหมวกกันน็อก ขณะที่คนซ้อนท้ายไม่สวมหมวกกันน็อก จากนั้น คนนั่งซ้อนท้ายได้ลงมาคุยกับผู้ตาย จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4- 5 นัด ซึ่งเห็นหน้าคนร้ายที่ยิงบิดาได้อย่างชัดเจน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม นำภาพถ่ายคนร้ายมาให้ดู ด.ช.เหินฟ้า ยืนยันว่า ภาพถ่ายของจำเลยที่ 1 เป็นคนที่ยิงบิดา และเมื่อเจ้าหน้าที่จับกุมจำเลยที่ 1 ได้ และยังได้ชี้ตัวยืนยันว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนยิงเช่นกัน ประกอบการคำเบิกความของพนักงานสอบสวน ที่สอดคล้องกันว่า หลังจับกุมได้ จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนยิงนายทนง ถึงแก่ความตาย โดยมี นายถวิล วงษ์แก้ว เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์

เห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์สอดคล้องกัน มีประจักษ์พยานเห็นเหตุการณ์อย่างชัดเจน และสามารถชี้ตัวยืนยันจำเลยที่ 1 ได้ ที่จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ว่า พนักงานสอบสวนให้พยานดูภาพก่อนมีการชี้ตัวนั้น เห็นว่า พยานเห็นเหตุการณ์อย่างชัดเจนก่อนแล้ว จึงไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์ ที่จำเลยอ้างว่าถูกข่มขู่ให้รับสารภาพนั้นเป็นการกล่าวอ้างลอยๆ ไม่มีหลักฐานสนับสนุน เชื่อว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิง นายทนง ถึงแก่ความตาย ที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน
นายวิเชียร โพธิ์ถนอม อายุ 29 ปี ผู้ต้องหา
นายวิเชียร โพธิ์ถนอม มือปืนมีสีหน้าเคร่งเครียดหลังศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุกตลอดชีวิต
กำลังโหลดความคิดเห็น