ตำรวจเผยรู้ชื่อโจรเหี้ยมร่วมปล้นเหยื่อกดเอทีเอ็มแถวสนามกีฬาคลองจั่นแล้ว อายุเพียง 14 ปี บ้านอยู่หนอกจอก คาดยังกบดานอยู่ในละแวก ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งที่ถูกรวบตัว 3 คน หิ้วฝากขังศาลอาญาไปแล้ว ขณะที่ผู้เสียหายรายอื่นทยอยชี้ตัวยันเป็นรายเดียวกัน ระบุที่เกิดเหตุเป็นสวนสาธารณะเปลี่ยวจะมีกลุ่มชายรักชายคอยจับแขกขับรถหรู บางคนเป็นระดับอาจารย์ โจรจึงอาศัยแฝงหากินในพื้นที่ด้วย
วันนี้ (16 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามตัวคนร้ายที่เหลืออีกหนึ่งคนที่ร่วมกันปล้นทรัพย์ นายเสฎฐวุฒิ แก่นสาร อายุ 48 ปี เจ้าของกิจการกล้องวงจรปิดว่า ขณะนี้ทราบชื่อผู้ต้องหาแล้วแต่อายุเพียง 14 ปี ยังเป็นเยาวชนจึงต้องขอสงวนชื่อ ส่วนภูมิลำเนาอยู่ย่านหนองจอก แต่ยังไม่พบตัว คาดว่ายังอยู่ในละแวกนี้ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน คือ นายณรงค์ หรือหนุ่ม ภู่ประดิษฐ์ อายุ 38 ปี นายพรม สีสนิท อายุ 28 ปี และนายสรศักดิ์ หรือศอ ขัดศิริ อายุ 24 ปี นั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญาในข้อหาปล้นทรัพย์ หรือรับของโจร, ร่วมกันชิงทรัพย์หรือรับของโจร ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.)
พ.ต.อ.บุญส่ง กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายที่เคยแจ้งความไว้ 2 รายมาดูตัวผู้ต้องหาแล้วยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุลักษณะเดียวกันเมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาซึ่งผู้เสียหายก็จะไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มเหมือนกัน ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุสนามกีฬาคลองจั่นติดกับสวนสาธารณะเวลากลางคืนจะเปลี่ยว และแสงสว่างค่อนข้างน้อยก็จะมีกลุ่มชายวัยรุ่นหรือชายรักชายไปจับกลุ่มกัน บางครั้งก็จะมีรถเก๋งยี่ห้อหรู มาจอดพูดคุยหรือพากันไปเที่ยว บางคนเป็นถึงระดับอาจารย์ก็มี ซึ่งผู้ต้องหากลุ่มนี้ก็อยู่แถวนั้นเพื่อหาลูกค้าเมื่อเห็นเหยื่อมีทรัพย์สินหรือเครื่องประดับที่มีค่าก็จะเรียกเพื่อมาทำทีพูดคุยและรุมทำร้ายเอาทรัพย์สินไป ผู้เสียหายบางรายไม่กล้าเข้าแจ้งความเพราะกลัวอับอาย บางรายมาแจ้งก็ไม่ค่อยให้รายละเอียด ขณะนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่สายตรวจให้กวดขันมากขึ้น หากพบอะไรน่าสงสัยให้ขอดูบัตรประชาชนหรือทำประวัติ หากเป็นรถที่มาจอดก็ให้จดหมายเลขทะเบียนไว้และประสานกับทางการเคหะแห่งชาติ และสำนักงานเขตบางกะปิ ให้ช่วยดูแลเรื่องแสงสว่างแล้ว
ตำรวจต้องเด็ดขาดขจัดเดนสังคม เหี้ยมผิดวิสัยมนุษย์!
กระโจนรถหนีโจรเหี้ยม ดักตีเหยื่อกดเอทีเอ็มลากขึ้นรถหวังฆ่าปิดปาก!
วันนี้ (16 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามตัวคนร้ายที่เหลืออีกหนึ่งคนที่ร่วมกันปล้นทรัพย์ นายเสฎฐวุฒิ แก่นสาร อายุ 48 ปี เจ้าของกิจการกล้องวงจรปิดว่า ขณะนี้ทราบชื่อผู้ต้องหาแล้วแต่อายุเพียง 14 ปี ยังเป็นเยาวชนจึงต้องขอสงวนชื่อ ส่วนภูมิลำเนาอยู่ย่านหนองจอก แต่ยังไม่พบตัว คาดว่ายังอยู่ในละแวกนี้ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน คือ นายณรงค์ หรือหนุ่ม ภู่ประดิษฐ์ อายุ 38 ปี นายพรม สีสนิท อายุ 28 ปี และนายสรศักดิ์ หรือศอ ขัดศิริ อายุ 24 ปี นั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญาในข้อหาปล้นทรัพย์ หรือรับของโจร, ร่วมกันชิงทรัพย์หรือรับของโจร ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.)
พ.ต.อ.บุญส่ง กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายที่เคยแจ้งความไว้ 2 รายมาดูตัวผู้ต้องหาแล้วยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุลักษณะเดียวกันเมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาซึ่งผู้เสียหายก็จะไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มเหมือนกัน ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุสนามกีฬาคลองจั่นติดกับสวนสาธารณะเวลากลางคืนจะเปลี่ยว และแสงสว่างค่อนข้างน้อยก็จะมีกลุ่มชายวัยรุ่นหรือชายรักชายไปจับกลุ่มกัน บางครั้งก็จะมีรถเก๋งยี่ห้อหรู มาจอดพูดคุยหรือพากันไปเที่ยว บางคนเป็นถึงระดับอาจารย์ก็มี ซึ่งผู้ต้องหากลุ่มนี้ก็อยู่แถวนั้นเพื่อหาลูกค้าเมื่อเห็นเหยื่อมีทรัพย์สินหรือเครื่องประดับที่มีค่าก็จะเรียกเพื่อมาทำทีพูดคุยและรุมทำร้ายเอาทรัพย์สินไป ผู้เสียหายบางรายไม่กล้าเข้าแจ้งความเพราะกลัวอับอาย บางรายมาแจ้งก็ไม่ค่อยให้รายละเอียด ขณะนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่สายตรวจให้กวดขันมากขึ้น หากพบอะไรน่าสงสัยให้ขอดูบัตรประชาชนหรือทำประวัติ หากเป็นรถที่มาจอดก็ให้จดหมายเลขทะเบียนไว้และประสานกับทางการเคหะแห่งชาติ และสำนักงานเขตบางกะปิ ให้ช่วยดูแลเรื่องแสงสว่างแล้ว
ตำรวจต้องเด็ดขาดขจัดเดนสังคม เหี้ยมผิดวิสัยมนุษย์!
กระโจนรถหนีโจรเหี้ยม ดักตีเหยื่อกดเอทีเอ็มลากขึ้นรถหวังฆ่าปิดปาก!
