รวบ “เซียนใหม่ ลาดพร้าว” ร่วมกับเพื่อนหลอกอดีตเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ให้ขอเช่าพระชื่อดังแล้วจ่ายเช็คเด้งเกือบ 5 ล้าน ก่อนเข้าแจ้งความตามจับได้ ส่วนคู่หูยังลอยนวล ด้านผู้เสียหาย ร้อง “เซียนป๋อง” แสดงความบริสุทธิ์ใจ เข้าให้ปากคำ เพราะเป็นหนี้จากการเช่าพระกว่า 8 ล้านบาท
วันนี้ (8 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.กิติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.5 บก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.ท.จอม สิงห์น้อย สว.กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม นายคึกฤทธิ์ กระสิน หรือเซียนใหม่ ลาดพร้าว อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153/307 หมู่บ้านพฤกษา 15 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 2134.2/2551 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2551 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง โดยจับกุมตัวได้ที่ลานจอดรถโรงแรมวิชัยเพลส 77 เลขที่ 55/77 ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
พ.ต.อ.กิติศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาร่วมกับ นายธนนิติ ธนะเจริญ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 173/116 หมู่ที่ 8 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี หลอกเช่าพระรุ่นดังๆ เช่น พระสมเด็จ และหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้ รวม 21 องค์ จาก นายทิ้ง พูลสุขโข อายุ 68 ปี อดีตเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ อยู่บ้านเลขที่ 191/6 หมู่ที่ 1 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี เป็นเงิน 4.9 ล้านบาท แล้วจ่ายเงินค่าเช่าเป็นเช็ค เมื่อผู้เสียหายนำไปขึ้นเงินปรากฏว่าเช็คเด้ง จึงเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวน กก.5 บก.ป.สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอยู่ที่โรงแรมดังกล่าวจึงนำกำลังจับกุมตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวน นายคึกฤทธิ์ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนเปิดแผงเช่าพระอยู่ย่านบางลำพูแต่ประสบภาวะขาดทุนจึงย้ายมาเปิดร้านที่ประตูน้ำ แต่ขาดทุนอีก จากนั้นได้มาเปิดร้านใหม่บริเวณหลัง สน.ลาดพร้าว โดยก่อนหน้านี้ได้เช่าพระจากนายทิ้งมาแล้วหลายองค์ ต่อมาได้แนะนำนายธนนิติซึ่งเป็นลูกค้าประจำของร้านให้รู้จักกับนายทิ้ง หลังจากนั้นก็มาทราบทีหลังว่า นายนายธนนิติจ่ายเช็คเด้งให้ผู้เสียหาย โดยตนก็ถูกนายธนนิติจ่ายเช็คเด้งเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านกว่าบาทด้วย ซึ่งขอยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
ด้าน นายทิ้ง กล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นนายหน้าค้าวัตถุโบราณ และเช่าพระเครื่อง โดยได้รู้จักกับนายคึกฤทธิ์ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่มาเช่าพระกันจริงๆจังเมื่อประมาณ 4-5 ปี ซึ่งตนกับผู้ต้องหา ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว นายคึกฤทธิ์ได้นำนายธนนิติมาให้รู้จักที่บ้าน โดยนายธนนิติแต่งกายภูมิฐานและขับรถหรูไม่ซ้ำคัน แถมยังอ้างว่าเป็นพนักงานอัยการ จึงเชื่อใจตกลงเช่าพระกันเป็นจำนวนเงินหลักแสนบาทแรกๆ เช็คไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อมีการเช่า พระกันในราคาหลักล้าน กลับถูกหลอกจ่ายเช็คเด้งจึงเข้าแจ้งความดังกล่าว กระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี
“ตอนนี้ทราบมาว่า พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้ายใหญ่ ของเฮียเกรียง เมืองนนท์ เจ้าของแผงเช่าพระท่าพระจันทร์ มูลค่า 9 แสนบาท ที่ตนเป็นนายหน้าให้นายธนนิติเช่า ตกไปอยู่ในมือของเซียนป๋อง สุพรรณ เซียนพระชื่อดังระดับประเทศ จึงอยากให้เซียนป๋องแสดงความบริสุทธิ์ใจเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ด้วย อย่างไรก็ตาม หลังถูกฉ้อโกงตนเป็นหนี้คนที่นำพระมาให้เช่าหลายรายรวมเป็นเงิน กว่า 8 ล้านบาท ไม่รู้จะนำเงินที่ไหนไปใช้หนี้เขา ซึ่งอยากขอความเห็นใจให้คนที่เช่าพระจากนายธนนิตินำพระมาคืนด้วย” นายทิ้ง กล่าว ด้านพนักงานสอบสวนเตรียมนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (8 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.กิติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.5 บก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.ท.จอม สิงห์น้อย สว.กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม นายคึกฤทธิ์ กระสิน หรือเซียนใหม่ ลาดพร้าว อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153/307 หมู่บ้านพฤกษา 15 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 2134.2/2551 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2551 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง โดยจับกุมตัวได้ที่ลานจอดรถโรงแรมวิชัยเพลส 77 เลขที่ 55/77 ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
พ.ต.อ.กิติศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาร่วมกับ นายธนนิติ ธนะเจริญ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 173/116 หมู่ที่ 8 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี หลอกเช่าพระรุ่นดังๆ เช่น พระสมเด็จ และหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้ รวม 21 องค์ จาก นายทิ้ง พูลสุขโข อายุ 68 ปี อดีตเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ อยู่บ้านเลขที่ 191/6 หมู่ที่ 1 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี เป็นเงิน 4.9 ล้านบาท แล้วจ่ายเงินค่าเช่าเป็นเช็ค เมื่อผู้เสียหายนำไปขึ้นเงินปรากฏว่าเช็คเด้ง จึงเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวน กก.5 บก.ป.สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอยู่ที่โรงแรมดังกล่าวจึงนำกำลังจับกุมตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวน นายคึกฤทธิ์ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนเปิดแผงเช่าพระอยู่ย่านบางลำพูแต่ประสบภาวะขาดทุนจึงย้ายมาเปิดร้านที่ประตูน้ำ แต่ขาดทุนอีก จากนั้นได้มาเปิดร้านใหม่บริเวณหลัง สน.ลาดพร้าว โดยก่อนหน้านี้ได้เช่าพระจากนายทิ้งมาแล้วหลายองค์ ต่อมาได้แนะนำนายธนนิติซึ่งเป็นลูกค้าประจำของร้านให้รู้จักกับนายทิ้ง หลังจากนั้นก็มาทราบทีหลังว่า นายนายธนนิติจ่ายเช็คเด้งให้ผู้เสียหาย โดยตนก็ถูกนายธนนิติจ่ายเช็คเด้งเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านกว่าบาทด้วย ซึ่งขอยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
ด้าน นายทิ้ง กล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นนายหน้าค้าวัตถุโบราณ และเช่าพระเครื่อง โดยได้รู้จักกับนายคึกฤทธิ์ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่มาเช่าพระกันจริงๆจังเมื่อประมาณ 4-5 ปี ซึ่งตนกับผู้ต้องหา ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว นายคึกฤทธิ์ได้นำนายธนนิติมาให้รู้จักที่บ้าน โดยนายธนนิติแต่งกายภูมิฐานและขับรถหรูไม่ซ้ำคัน แถมยังอ้างว่าเป็นพนักงานอัยการ จึงเชื่อใจตกลงเช่าพระกันเป็นจำนวนเงินหลักแสนบาทแรกๆ เช็คไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อมีการเช่า พระกันในราคาหลักล้าน กลับถูกหลอกจ่ายเช็คเด้งจึงเข้าแจ้งความดังกล่าว กระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี
“ตอนนี้ทราบมาว่า พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้ายใหญ่ ของเฮียเกรียง เมืองนนท์ เจ้าของแผงเช่าพระท่าพระจันทร์ มูลค่า 9 แสนบาท ที่ตนเป็นนายหน้าให้นายธนนิติเช่า ตกไปอยู่ในมือของเซียนป๋อง สุพรรณ เซียนพระชื่อดังระดับประเทศ จึงอยากให้เซียนป๋องแสดงความบริสุทธิ์ใจเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ด้วย อย่างไรก็ตาม หลังถูกฉ้อโกงตนเป็นหนี้คนที่นำพระมาให้เช่าหลายรายรวมเป็นเงิน กว่า 8 ล้านบาท ไม่รู้จะนำเงินที่ไหนไปใช้หนี้เขา ซึ่งอยากขอความเห็นใจให้คนที่เช่าพระจากนายธนนิตินำพระมาคืนด้วย” นายทิ้ง กล่าว ด้านพนักงานสอบสวนเตรียมนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ดำเนินคดีต่อไป