พ่อของดีเจคลื่น สวพ.91 เข้าให้การต่อตำรวจ ภายหลังวางกระเป๋าถือไว้ในรถเข็น ขณะเข้าไปซื้อของในห้างโลตัส แต่ประมาทเผลอแป๊บเดียว แหวนเพชร 18 วง และเครื่องประดับอื่นๆ อีกมูลค่ากว่า 4 แสนบาท ในกระเป๋าอันตรธานเรียบ
วันนี้ (18 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.นายพิษณุ อัตถวิโรจน์ อายุ 70 ปี อดีต ผอ.สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 9 กรมพัฒนาที่ดิน อยู่บ้านเลขที่ 70/185 หมู่ 5 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม และ นางนวลฉวี อัตถวิโรจน์ อายุ 70 ปี ภรรยา เป็นพ่อแม่ของนายนราธิป อัตถวิโรจน์ ดีเจคลื่น สวพ.91 เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.พงศักดิ์ การรัตน์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ลาดพร้าว เพื่อแจ้งตำหนิรูปพรรณของทรัพย์สินที่ถูกคนร้ายขโมยไประหว่างเดินซื้อของอยู่ภายในห้างโลตัส สาขาบางกะปิ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ เมื่อวานนี้ (17 พ.ย.)
นายพิษณุ กล่าวว่า วานนี้ (17 พ.ย.) เวลาประมาณ 14.30 น.ได้เดินทางไปกับภรรยา เพื่อไปซื้อของภายในห้างโลตัสสาขาดังกล่าว โดยถือกระเป๋าถือแบบผู้ชายสีดำซึ่งภายในมีทรัพย์สินจำนวนมากติดตัวไปด้วย เมื่อไปถึงได้นำกระเป๋าวางไว้ในรถเข็นแล้วเข้าไปที่แผนกซูเปอร์มาร์เกต ก่อนที่จะแยกออกไปดูสินค้าด้านหนึ่งโดยที่จอดรถเข็นไว้ที่เดิม ส่วนภรรยาได้เดินแยกไปอีกทาง เมื่อเดินกลับมาที่รถเข็นก็พบว่ากระเป๋าหายไปแล้ว สอบถามคนใกล้เคียงก็ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์แต่อย่างใด จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับเรื่องเอกสารในกระเป๋า ส่วนทรัพย์สินนั้นยังไม่ได้แจ้งหายเนื่องจากจำตำหนิรูปพรรณไม่ได้ ก่อนจะโทรศัพท์บอกให้ลูกชายทราบเรื่อง
นายพิษณุ กล่าวต่อว่า หลังจากเดินทางกลับบ้าน ลูกชายได้โทรศัพท์มาบอกว่าเจอเอกสารส่วนตัวของตนแล้ว โดยถูกทิ้งไว้ภายในกระถางต้นไม้บริเวณปากซอยนวมินทร์ 59 จึงไปรับเอกสารดังกล่าวคืน ในวันนี้จึงได้มาแจ้งตำหนิรูปพรรณของทรัพย์สินที่ไม่ได้ความหายไว้เมื่อวาน ส่วนทรัพย์สินที่หายไปนั้น ประกอบด้วยแหวนเพชร 18 วง เพชร พลอย ทองคำ ปากการาคาแพง พระเลี่ยมทอง สร้อยคอทองคำ พระเครื่อง รวมมูลค่าเกือบ 4 แสนบาท
นายพิษณุ กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่พกทรัพย์สินมาด้วยก็เพราะไม่อยากเก็บทรัพย์สินไว้ที่บ้าน เนื่องจากหากมีคนร้ายเข้ามาขโมยทรัพย์สินในบ้านก็จะยังเหลือทรัพย์สินที่กระเป๋าอยู่ โดยรู้สึกเสียดายมากเพราะทรัพย์สินที่หายไปมีราคาและมีค่าทางจิตใจอยู่พอสมควร ถ้าหากได้คือก็จะดีใจมาก
ด้าน พ.ต.ท.จิตเทพ อินทร์เล็ก รอง ผกก.สส.สน.ลาดพร้าว กล่าวว่า หลังจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความก็จะรับเรื่องไว้ดำเนินการ โดยจะนำเอกสารที่คนร้ายทิ้งไว้ไปให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจหาลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย และให้ฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าว ตรวจสอบตามโรงรับจำนำต่างๆ ว่ามีใครนำทรัพย์สินที่มีตำหนิรูปพรรณคล้ายคลึงกับของผู้เสียหายมาจำนำหรือขายบ้างหรือไม่ พร้อมทั้งจะส่งตำหนิรูปพรรณทรัพย์ไปที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร เพื่อให้ตำรวจท้องที่อื่นๆ ช่วยติดตามสืบหาตามโรงรับจำนำด้วย
