xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจต้องเด็ดขาดขจัดเดนสังคม เหี้ยมผิดวิสัยมนุษย์!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ดีอุกฉกรรจ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เพิ่งถูกนำมาตีแผ่ เพื่อให้ตำรวจดำเนินการ จับกุมคนร้ายแก๊งนี้ได้ เป็นคดีที่นายเสฏฐวุฒิ แก่นสาร ถูกคนร้ายรุมตีด้วยไม้หน้าสาม ขณะลงไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม บริเวณสนามกีฬาคลองจั่น ใกล้แฟลตคลองจั่น ถนนนวมินทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. โดยคนร้ายใช้ไม้หน้าสามหวดเข้าที่เป้าตาของนายเสฎฐวุฒิหลายครั้ง เพื่อประสงค์ไม่ให้จำหน้าคนร้ายได้ จากนั้นใช้มีดจี้คอหอย บังคับให้บอกรหัสเอทีเอ็ม แล้วปล้นเอาเงินสด 8,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 4 บาท สร้อยข้อมือทองคำหนัก 4 บาท พระเลี่ยมทอง แหวนเพชร 2 วง โทรศัพท์มือถือ และกล้องดิจิตอลไป

แม้จะรุมทำร้ายและได้ทรัพย์สินไปแล้วก็ตาม แต่คนร้ายยังไม่หนำใจ กระชากตัวนายเสฏฐวุฒิขึ้นรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ทะเบียน ชอ 4529 กทม. ซึ่งเป็นรถของนายเสฏฐวุฒิเอง และพยายามจะขับออกไปจากที่เกิดเหตุ แต่ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถ นายเสฏฐวุฒิ ตัดสินใจ เปิดประตูกระโดดลงมา เนื่องจากภายในรถ กลุ่มคนร้ายกำลังถกเถียงกันว่า ให้ฆ่านายเสฏฐวุฒิทิ้งเสีย ซึ่งนายเสฏฐวุฒิ ก็พยายามร้องขอชีวิต แต่ไม่เป็นผล ทำให้ต้องตัดสินใจกระโดดรถลงมา โดยคาดหวังว่า กะจะให้รถแท็กซี่ที่กำลังผ่านมาเฉี่ยวชน จะได้เกิดเป็นเรื่องให้คนมาช่วย โชคยังดีที่โชเฟอร์แท็กซี่สามารถหยุดรถได้ทัน และลงมาช่วย พานำส่งโรงพยาบาล แต่ก็นั้นก็ตาม แก๊งคนร้ายยังขับรถย้อนกลับมา และใช้มีดดาบชี้หน้าข่มขู่ว่า "มึงเจอกูแน่"

ภายหลังนายเสฏฐวุฒิ เข้ารักษาตัวแล้ว ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.ลาดพร้าว โดย พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ จันทรพัชร สว.สส. รับหน้าเสื่อในการติดตามไล่ล่าคนร้ายแก๊งนี้ จากนั้นถัดมาอีก 2 วัน มีหญิงสาวรายหนึ่ง โทรศัพท์เข้ามาหานายเสฏฐวุฒิ แจ้งความประสงค์ว่า ตัวเธอรู้จักกลุ่มคนร้ายเป็นอย่างดี และกลุ่มคนร้ายแก๊งนี้ ก็เคยทำมิดีมิร้ายกับเธอมาก่อน อีกทั้งที่เธอทราบว่า เหยื่อของแก๊งคนร้ายรายนี้ คือนายเสฏฐวุฒิ เนื่องจาก เธอเห็นสร้อยคอทองคำที่คนร้ายนำมา เปื้อนเลือด เมื่อคนร้ายกำลังเมายาได้ที่ เธอจึงแอบมาค้นในรถคนร้ายและพบนามบัตรนายเสฏฐวุฒิ จึงมั่นใจว่า นายเสฏฐวุฒิ น่าจะเป็นเหยื่อรายล่าสุดของแก๊งคนร้ายรายนี้

หลังติดต่อสื่อสารกันจนเป็นที่เข้าใจ นายเสฏฐวุฒิได้ประสานไปยังพ.ต.ท.ทรงศักดิ์ ดำเนินการวางแผนจับกุมแก๊งคนร้ายรายนี้ได้ในที่สุดรวม 3 คน ประกอบด้วย นายณรงค์ ภู่ประดิษฐ์ อายุ 38 ปี อยู่ที่ 390 หม่ 3 ต.มหาโพธิ์ อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ นายพรม สีสนิท อายุ 28 ปี อยู่ที่ 3 หมู่ 1 ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน และนายสรศักดิ์ หรือศอ ขัดศิริ อายุ 24 ปี อยู่ที่ 1 หมู่ 1 ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน แม้จะยังหลบหนีไปได้อีกคนก็ตาม

พฤติกรรมของคนร้ายแก๊งนี้ ถือว่า อุจฉกรรจ์ เป็นภัยสังคมที่น่ากลัวของเมืองหลวง แต่เบื้องต้น ต้องขอชมเชยการทำงานของ พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ จันทรพัชร สว.สส. ร.ต.อ.จีระเดช จันทร์อ่อน รอง สว. พร้อมทีมสืบสวนสน.ลาดพร้าว ภายใต้การกำกับดูแลของพ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว ที่เอาใจใส่ ติดตามคดีอย่างใกล้ชิด โดยมีหญิงสาวคนดังกล่าวเป็นผู้ชี้เบาะแสให้ จนในที่สุด ก็สามารถตามจับกุมคนร้ายแก๊งนี้ได้ ว่ากันว่า หนึ่งในคนร้ายต้องตามไปจับถึงอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ติดบ่อนปอยเปตของเขมรโน่น

ส่วนสถานที่เกิดเหตุนั้น ทราบมาว่า บริเวณดังกล่าว มีส่วนประกอบเป็นที่ค่อนข้างเปลี่ยว อีกทั้งเป็นที่ทราบกันดีว่า ย่านบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งที่ชาวเกย์ในระดับหนึ่ง มักชอบไปเพื่อจุดประสงค์บางอย่างอีกด้วย และในวันเกิดเหตุ ให้บังเอิญ นายเสฏฐวุฒิ ไปกดเงินเข้า คนร้ายที่แฝงตัวอยู่ จึงออกมาปฏิบัติการอย่างโหดเหี้ยม

การกระทำของคนร้ายต่อนายเสฏฐวุฒินั้น ถือว่า โหดปนเหี้ยม กระทำการโดยไม่เกรงกลัวอาญาแผ่นดิน ทั้งแก๊งคนร้าย และนายเสฏฐวุฒิ ก็มิได้เคยรู้จัก หรือมีความเคืองแค้นกันมาก่อน ซึ่งเบื้องต้นนั้น ตำรวจตั้งข้อหา ปล้นทรัพย์หรือรับของโจร และร่วมกันชิงทรัพย์หรือรับของโจร รวม 3 คดี ทว่า ข้อหาพยายามฆ่านั้น ยังไม่ได้ตั้ง ทั้งที่นายเสฏฐวุฒิยืนยันและให้การอย่างหนักแน่นว่า คนร้ายประสงค์ที่จะฆ่าปิดปาก!

อย่างไรก็ตาม ทราบว่า ยังมีเหยื่ออีกไม่น้อยกว่า 3 ราย ที่ถูกคนร้ายแก๊งนี้ รุมทำร้ายร่างกายและปล้นทรัพย์ ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจ ที่จะดำเนินการให้กระจ่างกับสังคม และสิ่งที่จะลืมไม่ได้คือ บริเวณสถานที่เกิดเหตุนั้น นอกจากจะต้องมั่นไปตรวจตราแล้ว ยังต้องกำจัดขั้นเด็ดขาดกับบรรดากากเดนสังคมที่อาศัยสถานที่นั้นเป็นแหล่งหากินให้หมดไปโดยพลันด้วย

กระโจนรถหนีโจรเหี้ยม ดักตีเหยื่อกดเอทีเอ็มลากขึ้นรถหวังฆ่าปิดปาก!
3 วายร้ายที่ตำรวจจับกุมได้
นายเสฏฐวุฒิ แก่นสาร เหยื่อคนร้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น