“สุชาติ” บอกยังไม่เห็นภาพตำรวจแต่งชุด นปช.ถือตีนตบ ทำขึงขังจะเรียกลูกน้องมาพูดกรอกหู ไม่ให้ยุ่งการเมือง ขณะที่ “พงศ์พัฒน์” ตั้งกรรมการสอบว่ามีใครร่วมเถื่อนกับกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่ ให้ระดับหัวหน้าที่คุมกำลัง รปภ.วันแถลงนโยบายรัฐ ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง ถ้าพบมีตำรวจเกี่ยวข้องเชือดวินัย ด้านตัวต้นเหตุยอมรับไปส่งน้ำให้เพื่อนตำรวจที่สภาจริง อ้าง นปช.ส่ง “ตีนตบ-ผ้าพันคอ-เสื้อ” ให้จึงรับมาใส่
วันนี้ (6 ม.ค.) พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล จำนวนหนึ่งใส่เสื้อแดงและถือตีนตบ ในวันที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ชุมนุมปิดล้อมอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2551 ที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้าไปแถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 176 ว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นภาพดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งจะต้องประสานขอภาพดังกล่าวจากสื่อมวลชนมาตรวจสอบอีกที ทั้งนี้ ตนได้กำชับอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่มีการชุมนุมขับไล่รัฐบาลชุดนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ว่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเป็นอันขาด
“ต่อไปจะเรียกผู้ใต้บังคับบัญชามามอบนโยบาย และเน้นย้ำไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มการเมืองต่างๆ ซึ่งจะมีการตรวจสอบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น หากพบว่ามีความผิดจริงจะดำเนินการอย่างแน่นอน” ผบช.น.กล่าว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมกุล ผบก.ตปพ.แต่ได้ติดประชุม มีเพียงนายตำรวจติดตาม บอกว่า จะเปิดดูภาพดังกล่าวจาก เว็บไซต์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ และนำไปให้ พล.ต.ต.ศรีวราห์ ดูต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.กล่าวว่า ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อดำเนินการตรวจสอบ ว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองปราบปราม เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ นปช.หรือไม่ เบื้องต้นให้ผู้กำกับเหตุการณ์คุมกำลังในวันดังกล่าวทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงขึ้นมาแล้ว หากพบว่าผิดจะดำเนินการทางวินัยต่อไป
“รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเห็นภาพแล้วไม่สบายใจ ก่อนหน้านี้ ตนได้สั่งนักสั่งหนาอย่าให้เจ้าหน้าที่เอาตัวเองเข้าไปอยู่กับปัญหา ซึ่งเบื้องต้นทราบมาว่าเจ้าหน้าที่กองปราบคึกคะนอง เพราะม็อบก็เลิกแล้วจึงนำหมวก ผ้าพันคอ และเสื้อของกลุ่ม นปช.มาสวมใส่” ผบก.ป.กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบภาพถ่ายในวันดังกล่าว พบภาพ พ.ต.ท.สมนึก เจริญศรีสุข สว.3 บก.อก.(งานยานพาหนะและขนส่ง ) ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พ.ต.ท.สมนึก ได้ความว่าวันดังกล่าวตนไปที่รัฐสภาจริง เพื่อไปส่งน้ำดื่มจำนวน 3 พันขวดให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างใน ซึ่งขณะที่เดินผ่านหน้ารัฐสภาเข้ามา ทางกลุ่ม นปช.ได้มอบหัวใจให้ จึงรับมาโดยไม่ได้คิดอะไร จากนั้นเมื่อเข้าไปข้างในแล้ว พบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม, ตปพ.และ ตชด.ซึ่งรักษาความปลอดภัยข้างในรัฐสภาอยู่ จากนั้นกลุ่มม็อบ นปช.ได้ส่งมอบเสื้อ ผ้าโพกหัว มาให้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รับมาสวมใส่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่ที่แต่งตัวคล้าย นปช.นั้น มีภูมิลำเนาอยู่ในภาคอีสาน และภาคเหนือ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ประชาชนในภาคดังกล่าวสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ยังทราบว่า ตอนที่กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมขับไล่รัฐบาล ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ ก็แอบเอาใจช่วยกลุ่มพันธมิตรฯด้วย ซึ่งสร้างความแตกแยกในองค์กรตำรวจ ร้อนถึงผู้บังคับบัญชาต้องเรียกมาสร้างความเข้าใจและอบรม
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระดับสูงในกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า นอกจากปัญหาภาพถ่ายตำรวจร่วมม็อบ นปช.แล้ว ยังพบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนหนึ่งที่ออกเวร ได้ไปรับจ้างเป็นการ์ดให้ นปช.โดยมีรายได้วันละ 500 บาท อีกด้วย ซึ่งเชื่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ทางผู้บังคับบัญชาโดยตรงน่าจะรู้เห็น เนื่องจากขณะไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลม็อบ นปช.ก็จำได้ว่า คนที่เป็นการ์ด คือ ตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชานั่นเอง แต่กลับไม่ได้ตักเตือน จนนำมาซึ่งความเสื่อมเสียให้กับตำรวจ
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า วันเดียวกัน ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์ไปยังช่างภาพหนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการ เพื่อขอภาพทั้งหมด โดยอ้างว่าเพื่อนำไปให้ผู้บังคับบัญชาทำการตรวจสอบ เพื่อดำเนินการต่อไป
ทางด้าน พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชการกิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ยังไม่เห็นภาพดังกล่าวขอตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งว่าภาพเหล่านั้นเป็นเช่นไร ประกอบกับวันที่ 30 ธ.ค. 51 ซึ่งเป็นวันแถลงนโยบายรัฐบาลตนไม่ได้เข้าเวร จึงไม่ได้รับผิดชอบเรื่องใด อย่างไรก็ตาม ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่าตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่ม นปช. มีความผิดจริง ก็ต้องตรวจสอบระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่ามีการยื่นใบลาไปร่วมชุมนุมหรือไม่
ส่วนกรณีที่มีนายตำรวจบางคนใส่เครื่องแบบไปถือตีนตบ และโพกหัว ใส่เสื้อนปช.ด้วยนั้น พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นภาพ ไม่อยากพูดอะไรไปมาก เพราะอาจจะไม่เกิดความเป็นธรรม
สำหรับกรณีที่กองปราบปรามตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงนายตำรวจที่เข้าไปมีส่วนร่วมกับกลุ่มนปช.นั้น พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า ขอตรวสอบไปที่ต้นสังกัดก่อนว่ามีหน่วยงานไหนที่มีนายตำรวจถูกตั้งกรรมการสอบ ซึ่งขณะนี้เรื่องยังมาไม่ถึงสตช.
วันนี้ (6 ม.ค.) พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล จำนวนหนึ่งใส่เสื้อแดงและถือตีนตบ ในวันที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ชุมนุมปิดล้อมอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2551 ที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้าไปแถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 176 ว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นภาพดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งจะต้องประสานขอภาพดังกล่าวจากสื่อมวลชนมาตรวจสอบอีกที ทั้งนี้ ตนได้กำชับอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่มีการชุมนุมขับไล่รัฐบาลชุดนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ว่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเป็นอันขาด
“ต่อไปจะเรียกผู้ใต้บังคับบัญชามามอบนโยบาย และเน้นย้ำไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มการเมืองต่างๆ ซึ่งจะมีการตรวจสอบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น หากพบว่ามีความผิดจริงจะดำเนินการอย่างแน่นอน” ผบช.น.กล่าว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมกุล ผบก.ตปพ.แต่ได้ติดประชุม มีเพียงนายตำรวจติดตาม บอกว่า จะเปิดดูภาพดังกล่าวจาก เว็บไซต์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ และนำไปให้ พล.ต.ต.ศรีวราห์ ดูต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.กล่าวว่า ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อดำเนินการตรวจสอบ ว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองปราบปราม เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ นปช.หรือไม่ เบื้องต้นให้ผู้กำกับเหตุการณ์คุมกำลังในวันดังกล่าวทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงขึ้นมาแล้ว หากพบว่าผิดจะดำเนินการทางวินัยต่อไป
“รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเห็นภาพแล้วไม่สบายใจ ก่อนหน้านี้ ตนได้สั่งนักสั่งหนาอย่าให้เจ้าหน้าที่เอาตัวเองเข้าไปอยู่กับปัญหา ซึ่งเบื้องต้นทราบมาว่าเจ้าหน้าที่กองปราบคึกคะนอง เพราะม็อบก็เลิกแล้วจึงนำหมวก ผ้าพันคอ และเสื้อของกลุ่ม นปช.มาสวมใส่” ผบก.ป.กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบภาพถ่ายในวันดังกล่าว พบภาพ พ.ต.ท.สมนึก เจริญศรีสุข สว.3 บก.อก.(งานยานพาหนะและขนส่ง ) ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พ.ต.ท.สมนึก ได้ความว่าวันดังกล่าวตนไปที่รัฐสภาจริง เพื่อไปส่งน้ำดื่มจำนวน 3 พันขวดให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างใน ซึ่งขณะที่เดินผ่านหน้ารัฐสภาเข้ามา ทางกลุ่ม นปช.ได้มอบหัวใจให้ จึงรับมาโดยไม่ได้คิดอะไร จากนั้นเมื่อเข้าไปข้างในแล้ว พบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม, ตปพ.และ ตชด.ซึ่งรักษาความปลอดภัยข้างในรัฐสภาอยู่ จากนั้นกลุ่มม็อบ นปช.ได้ส่งมอบเสื้อ ผ้าโพกหัว มาให้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รับมาสวมใส่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่ที่แต่งตัวคล้าย นปช.นั้น มีภูมิลำเนาอยู่ในภาคอีสาน และภาคเหนือ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ประชาชนในภาคดังกล่าวสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ยังทราบว่า ตอนที่กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมขับไล่รัฐบาล ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ ก็แอบเอาใจช่วยกลุ่มพันธมิตรฯด้วย ซึ่งสร้างความแตกแยกในองค์กรตำรวจ ร้อนถึงผู้บังคับบัญชาต้องเรียกมาสร้างความเข้าใจและอบรม
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระดับสูงในกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า นอกจากปัญหาภาพถ่ายตำรวจร่วมม็อบ นปช.แล้ว ยังพบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนหนึ่งที่ออกเวร ได้ไปรับจ้างเป็นการ์ดให้ นปช.โดยมีรายได้วันละ 500 บาท อีกด้วย ซึ่งเชื่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ทางผู้บังคับบัญชาโดยตรงน่าจะรู้เห็น เนื่องจากขณะไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลม็อบ นปช.ก็จำได้ว่า คนที่เป็นการ์ด คือ ตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชานั่นเอง แต่กลับไม่ได้ตักเตือน จนนำมาซึ่งความเสื่อมเสียให้กับตำรวจ
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า วันเดียวกัน ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์ไปยังช่างภาพหนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการ เพื่อขอภาพทั้งหมด โดยอ้างว่าเพื่อนำไปให้ผู้บังคับบัญชาทำการตรวจสอบ เพื่อดำเนินการต่อไป
ทางด้าน พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชการกิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ยังไม่เห็นภาพดังกล่าวขอตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งว่าภาพเหล่านั้นเป็นเช่นไร ประกอบกับวันที่ 30 ธ.ค. 51 ซึ่งเป็นวันแถลงนโยบายรัฐบาลตนไม่ได้เข้าเวร จึงไม่ได้รับผิดชอบเรื่องใด อย่างไรก็ตาม ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่าตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่ม นปช. มีความผิดจริง ก็ต้องตรวจสอบระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่ามีการยื่นใบลาไปร่วมชุมนุมหรือไม่
ส่วนกรณีที่มีนายตำรวจบางคนใส่เครื่องแบบไปถือตีนตบ และโพกหัว ใส่เสื้อนปช.ด้วยนั้น พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นภาพ ไม่อยากพูดอะไรไปมาก เพราะอาจจะไม่เกิดความเป็นธรรม
สำหรับกรณีที่กองปราบปรามตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงนายตำรวจที่เข้าไปมีส่วนร่วมกับกลุ่มนปช.นั้น พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า ขอตรวสอบไปที่ต้นสังกัดก่อนว่ามีหน่วยงานไหนที่มีนายตำรวจถูกตั้งกรรมการสอบ ซึ่งขณะนี้เรื่องยังมาไม่ถึงสตช.
