ญาติเดินทางมารับศพผู้เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย จากเหตุสลด “ซานติก้า” หลัง รพ.กรุงเทพ ส่งศพมาตรวจพิสูจน์ที่นิติเวชรามา พ่อเหยื่อเผยยอมให้แพทย์ถอดเครื่องหายใจ หลังยื้อชีวิต 3 วัน แต่ไม่เป็นผล จึงไม่อยากให้ลูกทรมาน เป็นเจ้าหญิงนิทรา ด้านความช่วยเหลือล่าสุดยังไม่มีหน่วยงานใดยื่นมืออย่างจริงจัง
วันนี้ (4 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.บรรยากาศที่สถาบันนิติเวช รพ.รามาธิบดี เต็มไปด้วยความโศกเศร้า บรรดาญาติๆ ของผู้เสียชีวิต จำนวน 4 ราย ที่ถูกส่งตัวมาจากศูนย์การแพทย์ รพ.กรุงเทพ ประกอบด้วย 1.น.ส.วิราวรรณ ถนอมปัญญาทรัพย์ อายุ 30 ปี 2.นายยุทธนา สินไพบูลย์ผล อายุ 26 ปี 3.นายทรงพล โปธา (ไม่ทราบอายุ) และ น.ส.วิระฉัตร เทียนทอง อายุ 24 ปี ต่างพากันเดินทางมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลจนแน่นตึกนิติเวช รพ.รามาธิบดี ทำให้ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วทั้งหมด 62 ราย
ขณะที่ นายศักดิ์สิทธิ์ เทียนทอง อายุ 54 ปี นักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้เดินทางมาพร้อมกับ นางธัญญาลักษณ์ เทียนทอง ภรรยา และ น.ส.เกศสุรีย์ เทียนทอง บุตรสาวคนโต เพื่อมารับศพ น.ส.วิระฉัตร ซึ่งเป็นบุตรสาวคนเล็ก โดยมีคณาจารย์ และเพื่อนๆ ที่เคยเรียนด้วยกันจากภาควิชาศิลปกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มาช่วยกันแต่งหน้าศพเป็นครั้งสุดท้ายด้วย
โดย นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวว่า ลูกตนเป็นศิลปินชอบถ่ายภาพมาก ทำงานอยู่เบื้องหลังวงการบันเทิงมาตั้งแต่สมัยเรียนยังไม่จบ เคยเดินทางไปออกค่ายช่วยเหลือสังคมตามโครงการของรัฐบาลหลายครั้ง ซึ่งในวันเกิดเหตุก็ได้เดินทางไปใช้กล้องถ่ายรูปเก็บบันทึกภาพการตกแต่งร้านซานติก้าผับ ก่อนเพลิงไหม้ เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการทำงานในอนาคตด้วย ไม่คิดว่าจะต้องมาเสียลูกสาวซึ่งกำลังมีอนาคตที่สดใสไปอย่างนี้
นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ ตนได้ปรึกษากับแพทย์แล้วว่า หากใช้เครื่องช่วยหายใจยื้อชีวิตลูกสาวต่อไป ก็คงไม่เกิดประโยชน์ เพราะสมองตายไปหมดแล้ว หากมีปาฏิหาริย์ที่ทำให้รอดมาได้ ก็จะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ซึ่งตนไม่อยากให้ลูกทรมานต่อไปอีก จึงตัดสินใจให้แพทย์เอาเครื่องช่วยหายใจออกหลังจากใช้เวลายื้อชีวิตอยู่นาน 3 วัน เบื้องต้นต้องออกค่ารักษาพยาบาลไปก่อนจำนวน 100,000 บาท และต้องเซ็นชื่อยอมรับสภาพหนี้จำนวน 390,000 บาท เอาไว้กับฝ่ายการเงินของศูนย์การแพทย์ รพ.กรุงเทพ จึงจะสามารถนำศพลูกสาวออกมาผ่าชันสูตรได้
“ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่า ทำไมสถานบันเทิงไม่ยอมต่อประกันภัย ผมอยากให้ภาครัฐบาล และทางตำรวจช่วยติดตามคดีนี้ให้รวดเร็วที่สุด เพื่อหาคนมารับผิดชอบ และอยากให้สถานบันเทิงทุกแห่งวางมาตรการความปลอดภัยให้ดีกว่านี้ ส่วนในตอนนี้นอกจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่ยื่นมือมาช่วยค่าทำศพรายละ 5,000 บาทแล้ว ผมก็ยังไม่เห็นหน่วยงานใดจะเข้ามาให้การช่วยเหลือบ้างเลย ซึ่งหลังจากรับศพลูกสาวออกไปแล้ว ผมก็จะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ณ บ้านร่องกาศ หมู่ 2 อ.สูงเม่น จ.แพร่ เป็นเวลา 7 วัน ก่อนเคลื่อนย้ายไปเผาที่ฌาปนกิจสถานบ้านร่องกาศต่อไป” นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าว