ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มกำนันคนดังเมืองรามัน หลานชาย "วันมูหะมัดนอร์ มะทา" เสียชีวิตหน้าบ้านพักหลังกลับมาจากพบปลัดอำเภอรามัน จนท.เร่งสอบ 3 ปมหลัก "ส่วนตัว-การเมือง-ไฟใต้" ทหารสั่งปัดฝุ่นระบบ รปภ.ครูใหม่ ขณะที่สมาพันธ์ครูใต้เตรียมพบ รมว.ศธ. 11 ก.พ.นี้ จี้เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยครู
วานนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา 01.30 น.ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มนายการิม มะทา อายุ 41 ปี กำนันตำบลบาลอ อ.รามัน จ.ยะลา เสียชีวิตบริเวณข้างบ้านเลขที่ 28/3 หมู่ 2 บ้านกำปงเปาว์ ต.บาลอ อ.รามัน
จากการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพนายการิม มะทา ถูกยิงตามร่างกายและศีรษะเป็นรูพรุนนอนเสียชีวิตอยู่ข้างบ้าน บริเวณหน้าต่างบ้านและผนังบ้าน มีร่องรอยกระสุนปืนทำให้กระจกหน้าต่างแตก 3 บาน ห่างกันเล็กน้อยภายในสวนลองกองหลังบ้าน เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน อาก้า และเอ็ม 16 ตกอยู่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เพื่อตรวจสอบที่มาของอาวุธปืน
สอบสวนทราบว่าผู้ตายเดินทางกลับมาจากพบกับปลัดอำเภอรามันที่บ้านพักข้างที่ว่าการอำเภอ เมื่อกลับมาถึงบ้าน ขณะกำลังไปเปิดก๊อกน้ำข้างบ้านห่างจากประตูบ้านประมาณ 5 เมตรมีคนร้ายไม่น้อยกว่า 3 คน แอบซุ่มอยู่ในที่มืด ใช้อาวุธปืน อาก้า และเอ็ม 16 กราดยิงเป็นชุดๆ หลายสิบนัด จนกระสุนเข้าเป้าตามร่างกายและศีรษะ ล้มลงเสียชีวิตคาที่ คนร้ายได้อาศัยความมืดหลบหนีไป เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่
พ.ต.อ.สุรพล มุ่งมา พนักงานสอบสวน (สบ.4) กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ซึ่งเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับพนักงานสอบสวน สภ.รามัน กล่าวว่า ตนได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเจ้าของพื้นที่ตรวจหาวัตถุพยานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด และสอบสวนญาติผู้ตายว่ามีเรื่องขัดแย้งกับใครบ้างในพื้นที่ เพื่อสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชน ผู้ตายเป็นถึงกำนัน และเป็นหลานของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา และ ส.ส.หลายสมัยของจังหวัดยะลา
**ตั้ง 3 ปมคนร้ายยิงกำนันญาติ"วันนอร์"ดับ
ทางด้าน พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผบ.พตท. เปิดเผยว่า เหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนสงรามยิงนายการิม มะทา กำนันตำบลบาลอ เสียชีวิต เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งเข้าไปคลี่คลายคดี เนื่องจากเป็นอีกประเด็นที่หลายฝ่ายจับตามมองว่าการสังหารครั้งนี้มาจากสาเหตุใดกันแน่ เนื่องจากนายการิม เป็นญาติของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา
สำหรับประเด็นการสังหารนั้นเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 3 ประเด็นหลัก คือ เรื่องความขัดแย้งส่วนตัว การเมืองท้องถิ่นและการสร้างสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ เนื่องจากข้อสมมติฐานทั้ง 3 แนวทางมีความเป็นไปได้ทั้งหมด แต่ทั้งนี้ ต้องรอการรวบรวมหลักฐานและสอบสวนพยานที่ชัดเจนอีกครั้ง
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นยังไม่สามารถตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออกไปได้ ต้องรอให้ตำรวจได้เร่งเก็บหลักฐานและสอบพยานที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยเฉพาะคนร้ายอาจฉวยโอกาสนำประเด็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่มาเป็นเงื่อนไขในการทำร้ายเพื่อเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นในการติดตามตัวก็เป็นได้"
**ทหารใต้ทบทวนปรับแผน รปภ.ครู
พล.ท.กสิกร กล่าวถึงเหตุคนร้ายลอบยิงนายสัมฤทธิ์ พันธเดช ครูโรงเรียนบ้านบาโงยือแบ็ง อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี แล้วจุดไฟเผาอย่างโหดเหี้ยมเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมาด้วยว่า เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการหารือร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษาในพื้นที่เพื่อร่วมกันกำหนดกรอบการทำงานของครูและเจ้าหน้าที่ชุดดูแลคุ้มครองครูเพื่อให้มีความรัดกุมและปลอดภัยที่สุดแต่เนื่องจากในบางกรณีจะมีครูในพื้นที่ได้แจ้งความประสงค์ขอเดินทางเอง โดยไม่ขอร่วมเดินทางกับเจ้าหน้าที่ชุดที่ดูแล ซึ่งกรณีนายสัมฤทธิ์เป็นหนึ่งในกลุ่มครูที่ขอเดินทางเอง
โดยประเด็นนี้คณะครูในพื้นที่และผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบาโงยือแบ็งก็ทราบข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ด้วย ซึ่งหลังเกิดเหตุได้มีการพูดคุยกันแล้วซึ่งทุกคนต่างเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
"การเสียชีวิตของครูทุกครั้งที่มีผลมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบสร้างความเสียใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง ขณะเดียวกันในฐานะที่ดูแลความปลอดภัยครูในพื้นที่ย่อมหนีความรับผิดชอบไม่ได้และพร้อมรับหากถูกตำหนิว่าบกพร่องในหน้าที่และจะไม่โทษว่าเป็นความผิดของใครจึงอยากให้ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่คณะครูที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ต้องร่วมกันสร้างความตระหนักถึงความปลอดภัยที่ต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย"
พล.ท.กสิกร กล่าวอีกว่า นับจากนี้ไปอาจต้องหันกลับมาทบทวนเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยต่างๆร่วมกันระหว่างตัวแทนครูและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอีกครั้งเพื่อสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นกับทุกฝ่าย เนื่องจากเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายมุ่งหวังสร้างสถานการณ์ทุกครั้งที่มีโอกาสจึงไม่อยากให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งประมาท
**สมาพันธ์ครูใต้เตรียมพบ รมว.ศธ.11 กพ.นี้
ด้านนายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการสูญเสียครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งตอนนี้รวมแล้ว 125 ราย ดูจากการกระทำของผู้ไม่หวังดีที่กระทำกับครูในครั้งนี้เป็นการกระทำที่เหี้ยมโหด และหากสถานการณ์เป็นแบบนี้ ก็สร้างความสะเทือนใจของครูทั้งหมด ซึ่งในวันที่ 11 ก.พ.นี้ ตนและคณะจะเข้าพบนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อหารือใน 3 เรื่อง เช่น เรื่องการพัฒนาคุณภาพการศึกษา การดูแลสวัสดิการครู และที่สำคัญมาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัยครู
วานนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา 01.30 น.ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มนายการิม มะทา อายุ 41 ปี กำนันตำบลบาลอ อ.รามัน จ.ยะลา เสียชีวิตบริเวณข้างบ้านเลขที่ 28/3 หมู่ 2 บ้านกำปงเปาว์ ต.บาลอ อ.รามัน
จากการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพนายการิม มะทา ถูกยิงตามร่างกายและศีรษะเป็นรูพรุนนอนเสียชีวิตอยู่ข้างบ้าน บริเวณหน้าต่างบ้านและผนังบ้าน มีร่องรอยกระสุนปืนทำให้กระจกหน้าต่างแตก 3 บาน ห่างกันเล็กน้อยภายในสวนลองกองหลังบ้าน เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน อาก้า และเอ็ม 16 ตกอยู่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เพื่อตรวจสอบที่มาของอาวุธปืน
สอบสวนทราบว่าผู้ตายเดินทางกลับมาจากพบกับปลัดอำเภอรามันที่บ้านพักข้างที่ว่าการอำเภอ เมื่อกลับมาถึงบ้าน ขณะกำลังไปเปิดก๊อกน้ำข้างบ้านห่างจากประตูบ้านประมาณ 5 เมตรมีคนร้ายไม่น้อยกว่า 3 คน แอบซุ่มอยู่ในที่มืด ใช้อาวุธปืน อาก้า และเอ็ม 16 กราดยิงเป็นชุดๆ หลายสิบนัด จนกระสุนเข้าเป้าตามร่างกายและศีรษะ ล้มลงเสียชีวิตคาที่ คนร้ายได้อาศัยความมืดหลบหนีไป เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่
พ.ต.อ.สุรพล มุ่งมา พนักงานสอบสวน (สบ.4) กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ซึ่งเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับพนักงานสอบสวน สภ.รามัน กล่าวว่า ตนได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเจ้าของพื้นที่ตรวจหาวัตถุพยานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด และสอบสวนญาติผู้ตายว่ามีเรื่องขัดแย้งกับใครบ้างในพื้นที่ เพื่อสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชน ผู้ตายเป็นถึงกำนัน และเป็นหลานของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา และ ส.ส.หลายสมัยของจังหวัดยะลา
**ตั้ง 3 ปมคนร้ายยิงกำนันญาติ"วันนอร์"ดับ
ทางด้าน พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผบ.พตท. เปิดเผยว่า เหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนสงรามยิงนายการิม มะทา กำนันตำบลบาลอ เสียชีวิต เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งเข้าไปคลี่คลายคดี เนื่องจากเป็นอีกประเด็นที่หลายฝ่ายจับตามมองว่าการสังหารครั้งนี้มาจากสาเหตุใดกันแน่ เนื่องจากนายการิม เป็นญาติของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา
สำหรับประเด็นการสังหารนั้นเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 3 ประเด็นหลัก คือ เรื่องความขัดแย้งส่วนตัว การเมืองท้องถิ่นและการสร้างสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ เนื่องจากข้อสมมติฐานทั้ง 3 แนวทางมีความเป็นไปได้ทั้งหมด แต่ทั้งนี้ ต้องรอการรวบรวมหลักฐานและสอบสวนพยานที่ชัดเจนอีกครั้ง
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นยังไม่สามารถตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออกไปได้ ต้องรอให้ตำรวจได้เร่งเก็บหลักฐานและสอบพยานที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยเฉพาะคนร้ายอาจฉวยโอกาสนำประเด็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่มาเป็นเงื่อนไขในการทำร้ายเพื่อเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นในการติดตามตัวก็เป็นได้"
**ทหารใต้ทบทวนปรับแผน รปภ.ครู
พล.ท.กสิกร กล่าวถึงเหตุคนร้ายลอบยิงนายสัมฤทธิ์ พันธเดช ครูโรงเรียนบ้านบาโงยือแบ็ง อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี แล้วจุดไฟเผาอย่างโหดเหี้ยมเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมาด้วยว่า เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการหารือร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษาในพื้นที่เพื่อร่วมกันกำหนดกรอบการทำงานของครูและเจ้าหน้าที่ชุดดูแลคุ้มครองครูเพื่อให้มีความรัดกุมและปลอดภัยที่สุดแต่เนื่องจากในบางกรณีจะมีครูในพื้นที่ได้แจ้งความประสงค์ขอเดินทางเอง โดยไม่ขอร่วมเดินทางกับเจ้าหน้าที่ชุดที่ดูแล ซึ่งกรณีนายสัมฤทธิ์เป็นหนึ่งในกลุ่มครูที่ขอเดินทางเอง
โดยประเด็นนี้คณะครูในพื้นที่และผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบาโงยือแบ็งก็ทราบข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ด้วย ซึ่งหลังเกิดเหตุได้มีการพูดคุยกันแล้วซึ่งทุกคนต่างเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
"การเสียชีวิตของครูทุกครั้งที่มีผลมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบสร้างความเสียใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง ขณะเดียวกันในฐานะที่ดูแลความปลอดภัยครูในพื้นที่ย่อมหนีความรับผิดชอบไม่ได้และพร้อมรับหากถูกตำหนิว่าบกพร่องในหน้าที่และจะไม่โทษว่าเป็นความผิดของใครจึงอยากให้ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่คณะครูที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ต้องร่วมกันสร้างความตระหนักถึงความปลอดภัยที่ต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย"
พล.ท.กสิกร กล่าวอีกว่า นับจากนี้ไปอาจต้องหันกลับมาทบทวนเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยต่างๆร่วมกันระหว่างตัวแทนครูและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอีกครั้งเพื่อสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นกับทุกฝ่าย เนื่องจากเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายมุ่งหวังสร้างสถานการณ์ทุกครั้งที่มีโอกาสจึงไม่อยากให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งประมาท
**สมาพันธ์ครูใต้เตรียมพบ รมว.ศธ.11 กพ.นี้
ด้านนายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการสูญเสียครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งตอนนี้รวมแล้ว 125 ราย ดูจากการกระทำของผู้ไม่หวังดีที่กระทำกับครูในครั้งนี้เป็นการกระทำที่เหี้ยมโหด และหากสถานการณ์เป็นแบบนี้ ก็สร้างความสะเทือนใจของครูทั้งหมด ซึ่งในวันที่ 11 ก.พ.นี้ ตนและคณะจะเข้าพบนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อหารือใน 3 เรื่อง เช่น เรื่องการพัฒนาคุณภาพการศึกษา การดูแลสวัสดิการครู และที่สำคัญมาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัยครู
