xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” ขึ้นศาลเบิกความคดีหมิ่น “พรหมินทร์”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
“อภิสิทธิ์” ขึ้นเบิกความเป็นพยานจำเลย คดี “พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช” อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ฟ้องหมิ่นเกี่ยวข้องจ้างพรรคเล็กลงรับเลือกตั้ง ระบุไม่ได้อยู่ร่วมแถลงข่าวในวันเกิดเหตุ พร้อมเชื่อมั่นพรรค ปชป.มีความพร้อมจัดตั้งรัฐบาล

วันนี้ (9 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 903 ศาลอาญา ศาลนัดสืบพยานจำเลยในคดีหมายเลขดำที่นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เป็นโจทก์ฟ้องพรรคประชาธิปัตย์, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2549 นายสุเทพ และนายองอาจ ร่วมกันแถลงข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์ ทำนองว่านายพรหมินทร์และกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยรวม 4 คน เกี่ยวข้องกับการจ้างพรรคเล็กลงรับเลือกตั้ง ในวันที่ 2 เม.ย.49 ทำให้โจทก์เสียหาย

โดยนัดนี้ นายอภิสิทธิ์ขึ้นเบิกความในฐานะพยานจำเลยว่า ในวันดังกล่าวไม่ได้ร่วมแถลงข่าวกับจำเลยที่ 3-4 และไม่ได้อยู่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ สำหรับจำเลยที่ 3 มีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องการเลือกตั้ง แต่ตนไม่เคยสั่งการให้จำเลยที่ 3 แถลงข่าว รวมถึงการเผยแพร่ข่าวที่จำเลยที่ 3-4 แถลงผ่านเว็บไซต์ www.democrat.or.th ของพรรคประชาธิปัตย์ นั้นตนไม่ทราบ เนื่องจากจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลเว็บไซต์เป็นคนดูแล ส่วนข่าวที่จำเลยที่ 3-4 แถลงนั้นตนทราบจากทางสื่อมวลชน ทั้งนี้หลังจากพบข้อมูลว่ามีกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย จำนวน 4 คน รวมถึงโจทก์เกี่ยวข้องกับการจ้างพรรคเล็กลงรับเลือกตั้ง จึงได้ร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อมา กกต.ได้ชี้มูลความผิดต่อกรรมการบริหารพรรคคนอื่น โดยโจทก์ไม่ถูกดำเนินคดีด้วย ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักไทย ซึ่งโจทก์ในฐานะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี

ภายหลัง นายอภิสิทธิ์เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการรวบรวมเสียง ส.ส.เพื่อจัดตั้งรัฐบาลว่า เรื่องการประสานงานกับกลุ่มพรรคการเมืองต่างๆ นั้นมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค เป็นผู้ดำเนินการ ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีปัญหาอะไร โดยพรรคประชาธิปัตย์ยังคงเดินหน้าพบพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองต่างๆ เชื่อมั่นว่าทุกพรรคเปิดโอกาสให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ามาบริหารประเทศ ทางพรรคมีความพร้อมในการจัดตั้งรัฐบาล

ส่วนกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ต่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ว่าหักหลังที่จะให้จัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ขอยืนยันว่าไม่มีการหักหลัง แต่น่าจะเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดทำให้มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และหากได้พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลจะสามารถเดินทางลงพื้นที่ทั้งภาคเหนือและภาคอีสานได้ เพราะไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร ในช่วงบ่ายวันเดียวกันจะเดินทางไปที่ทำการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และพรรคเพื่อแผ่นดิน
กำลังโหลดความคิดเห็น