“องอาจ คล้ามไพบูลย์” ยืนยัน พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ้องล้มรัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมแนะ นายกรัฐมนตรี ยกเลิกความคิดใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกฎหมายความมั่นคง จัดการกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะจะทำให้ปัญหาบานปลาย ซึ่งขณะนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ข้อยุติแล้ว เชื่อประชาชนจะใช้ดุลยพินิจเอง
วันนี้ (3 มิ.ย.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมจะใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และพระราชบัญญัติความมั่นคง เพื่อสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า อยากให้นายกรัฐมนตรี ระมัดระวังการบังคับใช้กฎหมายอย่างรอบคอบเพราะอาจส่งให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ไม่เชื่อว่า การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มมหาประชาชนพิทักษ์ประชาธิปไตย ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ จะเป็นเงื่อนไขให้รัฐบาลออกกฎหมายดังกล่าว เพราะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ ดังนั้นควรยกเลิกความคิดนี้ไปพร้อมเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย อย่ายั่วยุให้เกิดความรุนแรง ซึ่งสามารถใช้สอทธิตามรัฐธรรมนูญได้อยู่แล้ว
สำหรับการยกระดับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เปลี่ยนจากการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาเป็นการกดดันให้นายกรัฐมนตรีลาออก เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาล นั้น ยืนยันว่า พรรคไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยเฉพาะการขับไล่นายกรัฐมนตรี
ส่วนความชอบธรรมของกลุ่มพันธมิตรฯ เชื่อว่า ประชาชนจะพิจารณาได้เอง อย่างไรก็ตาม พรรคพยายามที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้ง โดยใช้กลไกของรัฐสภาเข้ามาช่วย เห็นได้จากการที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีและประธานสภาผู้แทนราษฎรก็เห็นด้วย