ดีเอสไอรายงานความคืบหน้าคดีเพชรซาอุฯ ต่อคณะที่ปรึกษาพิเศษ “ทวี สอดส่อง” เผยคดีคืบมีพยานหลักฐานเพิ่มเชื่อสามารถส่งฟ้องต่อศาลได้แม้ก่อนหน้านี้อัยการจะสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว
วันนี้ (21 พ.ย.) เวลา 13.30 น. นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีฆาตกรรมอุปทูตประเทศซาอุดีอาระเบีย และความคืบหน้าคดีการหายสาปสูญของนักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย โดยมีคณะที่ปรึกษา คือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย นายอิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา รวมทั้งพนักงานอัยการ และผู้แทนอธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา จากกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมปรชุมกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำโดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ โดยได้รายงานให้ที่ประชุมทราบถึงความก้าวหน้าในการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ดีเอสไอมีความจริงใจในการสืบสวนสอบสวนทั้งสองคดี ซึ่งถือเป็นคดีสำคัญและเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการแม้จะเป็นคดีที่เกิดขึ้นมานาน และมีความยากลำบากในการสืบหาพยานหลักฐาน ซึ่งจากการพบปะพี่น้องชาวไทยในประเทศซาอุดีอาระเบียได้ฝากความหวังกับการดำเนินคดีนี้กับตน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะในคดีการหายสาบสูญของนักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบียนั้น แม้คดีนี้อัยการจะสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาไปแล้ว แต่จากพยานหลักฐานที่ดีเอสไอได้จากการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุ คาดว่าน่าจะสามารถนำคดีขึ้นสู่ศาลได้ ซึ่งขณะนี้ดีเอสไอได้ประสานงานไปยังผู้เสียหายเพื่อทำการตรวจสอบพยานหลักฐานที่ได้เพิ่มเติม
พ.อ.ต.ทวี กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ดีเอสไอและกระทรวงการต่างประเทศจะทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้นในเรื่องการสื่อสารเกี่ยวกับความเคลื่อนไหว ความคืบหน้าของการดำเนินคดีของ ดีเอสไอ ให้ประเทศซาอุดีอาระเบียได้ทราบเป็นระยะ เพื่อแสดงถึงความจริงใจในการสืบสวนคดีแก่ประเทศซาอุดีอาระเบีย