xs
xsm
sm
md
lg

“ดีเอสไอ” ลุยตรวจพื้นที่นายทุนฮุบป่าชายเลนภูเก็ต

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ
แม่เฒ่าวัย 81 ปี พร้อม จนท.รัฐ-ชาวบ้าน นำทีมดีเอสไอดูพื้นที่ป่าชายเลนภูเก็ตที่ถูกกลุ่มนายทุนบุกรุก อ้างมีกรรมสิทธิ์ที่ดิน ทำคัดดินกั้นน้ำทำลายป่าพื้นที่กว้างเกือบ 100 ไร่ เสียหาย 10 ล้าน ขณะที่อธิบดีดีเอสไอ เตรียมลงพื้นที่สางปัญหาออกเอกสารสิทธิ์ทับที่สาธารณะ ด้วยการสืบสวนคดีแนวใหม่การเผชิญสืบในพื้นที่

วันนี้ (20 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.นางสอเอียน แซ่ตัน อายุ 81 ปี ชาว ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสุรทิน เลี่ยนอุดม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรัษฎา พร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่ง พา พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้อำนวยการส่วนคดีอาญาพิเศษ 1 สำนักคดีอาญาพิเศษ และรองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมคณะพนักงานสอบสวน หัวหน้าหน่วยป้องกันป่าชายเลนภูเก็ต เข้าตรวจสอบที่ดินป่าชายเลน บริเวณบ้านกู้กู ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เนื่องจากมีกลุ่มนายทุนอ้างกรรมสิทธิ์ที่ดินและมีการออกเอกสารสิทธิ์ และทำลายป่าชายเลนเป็นพื้นที่กว้างเกือบ 100 ไร่ มูลค่าความเสียหายทั้งหมดประมาณ 10 ล้านบาท และหากสามารถครอบครองได้สำเร็จจะสามารถขายที่ดินแปลงดังกล่าวได้ไม่น้อยกว่าไร่ละ 15 ล้านบาทเนื่องจากอยู่ใจกลางเกาะภูเก็ตใกล้ชุมชนจึงมีมูลค่าที่ดินประมาณ 1,500 ล้านบาท

นางสอเอียน กล่าวว่า ที่ดินป่าชายเลนที่นายทุนทำลายโดยการใช้รถแบ็กโฮทำคันดินและทำลายให้หมดสภาพป่านั้นชาวบ้านกู้กูได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินป่าชายเลนบริเวณนี้มาหลายชั่วอายุคน และสังเกตได้ว่าต้นไม้โกงกางซึ่งเป็นไม้ป่าชายเลนโดยปกติแล้วจะเป็นไม้ที่โตช้า แต่ไม้โกงกางที่ถูกทำลายมีขนาดโตมาก โดยชาวบ้านต่างเห็นว่าเป้าหมายของกลุ่มนายทุนต้องการขุดคัดดินไม่ให้น้ำทะเลท่วมถึงเพื่อหวังให้ป่าโกงกางตายทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังได้รับข้อมูลดังกล่าวคณะพนักงานสอบสวนได้เดินทางไปตรวจสอบที่ดินเอกสารสิทธิ์ที่ออกทับที่ป่าชานเลนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต อีก 2 จุด คือบริเวณบ้านบางคู ม. 2 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีการออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ดินป่าชายเลนที่สมบูรณ์นับ 100 ไร่ มีชาวบ้านนำโดย นายวินัย กิ่งเกาะยาว อายุ 51 ปี ม. 2 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต และที่ดินป่าชายเลนที่ถูกนายทุนจ้างชาวบ้านทำลายป่าชายเลนปลูกต้นมะพร้าวเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณบ้านป่าคลอก ม.2 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

ต่อมาเวลา 13.30 น.พ.ต.ท.กรวัชร์ ได้เดินทางไปยังบ้านในไร่ ม.7 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา และพบกับแกนนำชาวบ้านนำโดยนายบัณฑิต หลีบำรุง อายุ 44 ปี ชาวต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงาเพื่อแจ้งให้ทราบว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ จะลงพื้นที่บ้านในไร่ เพื่อแก้ปัญหาการออกเอกสารสิทธิที่ดินทับพื้นที่สาธารณะโดยดีเอสไอ จะเป็นแกนนำหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องโดยการเชิญ อธิบดีกรมที่ดิน ผู้พิพากษาศาลปกครอง อัยการศาลปกครอง ตัวแทนสภาทนายความเจ้าหน้าที่อ่านแปลภาพถ่ายจากกรมแผนที่ทหาร เจ้าของเอกสารสิทธิ และตัวแทนชาวบ้านร่วมกันพิจารณาเอกสารสิทธิโดยใช้พื้นที่ส่วนราชการที่ใกล้เคียงดำเนินการพิจารณารายละเอียดซึ่งเป็นการสืบสวนสอบสวนคดีเอกสารสิทธิมิชอบในแนวทางใหม่ คือ การเผชิญสืบในพื้นที่
กำลังโหลดความคิดเห็น