xs
xsm
sm
md
lg

หอยมือเสือแหล่งเพาะพันธ์เกาะไม้ท่อนถูกขโมยกว่า 50% จนท.ย้ายไปเกาะราชา - ชี้แนวโน้มสูญพันธุ์สูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ย้ายแหล่งเพาะอนุบาลหอยมือเสือกว่า 105 ตัวจากเกาะไม้ท่อน จังหวัดภูเก็ตไปยังเกาะราชา จังหวัดภูเก็ต หลังโดนมือดีขโมยไปมากกว่าครึ่ง เชื่อชุมชนช่วยดูแลป้องกันได้ ขณะที่แนวโน้มหอยมือเสือ “สควอโมซ่า” เสี่ยงสูญพันธุ์สูง

นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ นักวิชาการประมง 7 สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน กล่าวถึงการเพาะเลี้ยงหอยมือเสือของสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน ที่บริเวณเกาะไม้ท่อน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อขยายพันธ์หอยมือเสือพันธ์ “สควอโมซ่า” ซึ่งเป็นหอยมือเสือที่เสี่ยงต่อการสูญพันธ์และพบเห็นตามแหล่งธรรมชาติน้อยลงมาก ว่า ปัจจุบันหอยมือเสือพันธ์“สควอโมซ่า” ในฝั่งทะเลอันดามันมีปริมาณลดน้อยลงจะพบเห็นได้เฉพาะเขตอุทยานเท่านั้น

เช่น เกาะสุรินทร์ จ.พังงา เกาะอาดังอาวี จ.สตูล ทางสถานสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลนร่วมกับกรมประมงจึงได้มีการศึกษาเพื่อเพาะเลี้ยงและขยายพันธ์หอยมือเสือ ในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน โดยเริ่มดำเนินการมามาตั้งแต่ปี2536 และเริ่มนำลูกหอยไปปล่อยอนุบาลที่เกาะไม้ท่อน จ.ภูเก็ตเมื่อปี 2546 เพื่อให้ได้ขนาด 15 -20 ซ.ม เพื่อนำไปปล่อยตามสถานที่ต่างๆ โดยจนถึงขณะนี้ได้มีการปล่อยหอยมือเสือลงสู่ทะเลในฝั่งอันดามันไปแล้วประมาณ 3,000 ตัว ซึ่งเป็นการทยอยปล่อย

แต่อย่างไรก็ตาม การปล่อยหอยมือเสือลงสู่ทะเลก็ประสบกับปัญหาการลักลอบขโมยของผู้ที่ต้องการนำไปจำหน่ายให้กับคนที่ต้องการนำไปประดับในตู้ปลา ทำให้หอยมือเสือที่ปล่อยลงสู่ทะเลหายไปประมาณ 50% แม้แต่หอยมือเสือที่อยู่ในกรงอนุบาลบริเวณเกาะไม้ท่อนก็ถูกขโมยไปเกือบทั้งหมด

โดยขณะนี้เหลืออยู่จำนวนไม่มากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการย้ายหอยมือเสือจากเกาะไม้ท่อนไปไว้ที่บริเวณเกาะราชา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในเบื้องต้นจำนวน 105 ตัว เนื่องจากพื้นที่เกาะราชาเป็นพื้นที่อนุรักษ์และชุมชนมีความเข้มแข็งพร้อมที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลป้องกันการลักลอบขโมยหอยมือเสือเพื่อให้สามารถขยายพันธ์ได้มากขึ้น

นายแพทย์ก้องเกียรติ กล่าวต่อว่า การเพาะขยายพันธ์หอยมือเสือนั้นต้องใช้งบประมาณสูงแม้จะต้องให้อาหารแต่ก็มีค่าดำเนินการในเรื่องของการดูแล ทุกเดือนเจ้าหน้าที่จะต้องดำน้ำลงไปล้างตะไคร้น้ำที่เกาะตามกรงอนุบาลเพื่อให้แสงแดดสามารถส่องลงมาถึง เฉลี่ยค่าใช้จ่ายในการเพาะเลี้ยงหอยมือเสือตกอยู่ที่ประมาณ 1,500-2,000 บาท หอยมือเสือจากเกาะไม้ เป็นสัตว์สงวนและคุ้มครอง ห้ามผู้ใดมีไว้ในครอบครอง

สำหรับสาเหตุที่หอยมือเสือถูกลักลอบจับและถูกขโมยจำนวนมากก็เนื่องจาก เปลือกของมันจะมีลักษณะสวยงามเมื่อนำไปทำความสะอาดและจะถูกนำไปเป็นเครื่องประดับ และบางส่วนมีการลักลอบนำหอยชนิดนี้ไปเพาะเลี้ยงไว้ในตู้ปลาส่วนตัวที่บ้านรวมทั้งยังมีการนำเนื้อของมันไปรับประทานอีกด้วย หอยมือเสือจะมีลักษณะพิเศษในตัวเองคือจะสามารถอยู่ร่วมกับสาหร่ายได้และจะสังเคราะห์แสงเพื่อเป็นอาหารให้กับตัวเองได้ถึง 70% โดยปกติแล้วหอยมือเสือจะอาศัยอยู่บริเวณน้ำลึกตั้งแต่ 8 เมตรไปจนถึง 30 เมตร หรือจะพบได้ในบริเวณที่แสงส่องถึง

สาเหตุของการย้ายสถานที่เพาะเลี้ยงจากเกาะไม้ท่อนมาไว้ยังบริเวณเกาะราชาเพราะว่า ตลอดระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา ที่มีการเพาะเลี้ยงไว้ จำนวน 2-3 พันตัวที่บริเวณเกาะไม้ท่อน ปัญหาที่เจอในตอนนี้คือ หอยมือเสือถูกขโมยนำไปขาย จึงมีความจำเป็นต้องหาแหล่งอนุรักษ์ที่ได้ความร่วมมือจากชุมชนในพื้นที่เพื่อจะสอดส่องดูแลได้ทั่วถึง ทางกรมประมงจึงได้ร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งและชมรมอนุรักษ์เกาะราชานำหอยมือเสือจำนวน 105 ตัวมาเพาะไว้ที่บริเวณเกาะราชา ซึ่งหอยทั้งหมดจะติดรหัสรหัสประจำไว้ทั้งหมดเพื่อง่ายต่อการศึกษาการเจริญเติบโตของหอยมือเสือ และเมื่อโตได้ขนาดที่เหมาะสมแล้วจึงจะนำหอยมือเสือไปปล่อยที่บริเวณที่เหมาะสมต่อไป

ขณะที่นายโสภณ สุขรินทร์ รองประธานชมรมอนุรักษ์และป้องกันเกาะราชา กล่าวถึงการเข้าไปมีส่วนร่วมในการดูแลอนุบาลหอยมือเสือที่นำมาเพาะเลี้ยงอนุบาลที่บริเวณเกาะราชาว่า ทางชมรมได้แบ่งแนวอนุรักษ์ไว้ 300 เมตร คือ ห้ามประมงทุกชนิดเข้ามาใกล้ชายฝั่ง และถ้ามีเรือลำไหนที่เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต ทางชมรมฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบทันที และพร้อมที่จะเข้าไปดูแลหอยมือเสือเพื่อป้องกันการขโมยให้ดีที่สุดเพื่อรักษาสมดุลของธรรมชาติ เพาะหอยมือเสือนั้นจะเป็นสิ่งที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทะเลมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น