xs
xsm
sm
md
lg

คุก 10 ปี 12 เดือน หนุ่มอ้างเป็นตำรวจสายสืบ ปล้นมือถือเหยื่อ!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

แฟ้มภาพ
ศาลสั่งจำคุก 10 ปี 12 เดือน หนุ่มแอบอ้างเป็นตำรวจสายสืบ สน.พระราชวัง อุ้มเหยื่อเคราะห์ร้ายขณะนั่งดื่มเบียร์ริมถนน ทำทีพาไปตรวจฉี่ ก่อนลงมือปล้นมือถือ พร้อมเงินสด

วันนี้ (14 พ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพิชัย สุดดี อายุ 28 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ แสดงตน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยมิชอบ และหน่วงเหนี่ยวกักขัง

ตามฟ้องโจทก์ระบุความผิดจำเลย สรุปว่า เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2551 เวลากลางคืน จำเลยกับพวกอีกหลายคนที่ยังหลบหนีได้ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ สน.พระราชวัง ขอนำตัว นายรัชชัย ขุนจันทร์ดี ผู้เสียหาย ขณะนั่งดื่มเบียร์บริเวณทางเท้า ถ.อัษฎางค์ ไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด โดยพาขึ้นรถแท็กซี่ ระหว่างนั้นจำเลยได้จับแขนผู้เสียหาย มิให้หลบหนี และนำทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่น 6120 ราคาประมาณ 8,000 บาท และเงินสด อีก 300 บาท ก่อนหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระราชวัง ติดตามจับกุมตัวได้ โดยอัยการโจทก์ขอให้เพิ่มโทษจำเลย 1 ใน 3 อีก เนื่องจากจำเลยเคยต้องโทษจำคุก 1 ปี 12 เดือน ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ของศาลอาญาธนบุรี มาก่อนหน้านี้ จำเลยให้การรับสารภาพโดยตลอด

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีผู้เสียหายเบิกความยืนยันว่าจำเลยเป็นหนึ่งในคนร้าย จดจำใบหน้าได้อย่างแม่นยำ ทั้งจำเลยให้การรับสารภาพ เชื่อว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง ใหเรียงกระทงลงโทษทุกกรรม

พิพากษาฐานแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานโดยไม่มีอำนาจจำคุก 6 เดือน ฐานร่วมกันปล้นทรัพย์ จำคุก 15 ปี และฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังจำคุก 1 ปี และให้เพิ่มโทษ 1 ใน 3 เป็นจำคุก 8 เดือน, 20 ปี และ 1 ปี 4 เดือน ตามลำดับ รวม 21 ปี 12 เดือน คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 10 ปี 12 เดือน และให้จำเลยคืนทรัพย์สินทั้งหมดแก่ผู้เสียหายด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น