ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับดีอีเอ เข้าจับกุมนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ชาวไต้หวันในไทย ได้เฮโรอีนของกลางถึง 104 กก.คิดเป็นมูลค่าราว 100 ล้านบาท แต่หากถูกส่งออกไปจะมีมูลค่าเพิ่มอีก 10 เท่า
วันนี้ (10 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.ปส. พล.ร.ท.ณรงค์ เทศวิศาล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 (ผบ.ทรภ.3) พล.ต.ต.สิทธิพงศ์ ปุณโณทก รอง ผบช.ภ.5 และ Mr.ANDRE W.KELLUM เจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา (ดีอีเอ) ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสติดรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 2 คน คือ นายพงศ์ธัช พงศ์ฐถิรกุล อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/161 หมู่ 1 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต และ นายกั๋ว เต๋อ ไฉ่ อายุ 42 ปี ชาวไต้หวัน พร้อมของกลางเฮโรอีน น้ำหนักรวม 104 กิโลกรัม กระเป๋าเดินทาง 3 ใบ โทรศัพทมือถือ 3 เครื่อง กุญแจบ้านจำนวน 25 ดอก
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา (ดีอีเอ) ว่า กลุ่มนักค้ายาเสพติดชาวไต้หวันที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกไกล และมีชื่ออยู่ในบัญชีเป้าหมายของสหรัฐฯ ซึ่งมี นายหลาน อัน ลุง เป็นตัวการใหญ่ กำลังจะนำเฮโรอีน จากแหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ผ่านเข้ามาในประเทศไทย เพื่อเตรียมส่งต่อไปจำหน่ายให้หมู่เกาะต่างๆ เช่น ไต้หวัน ฮ่องกง จีน และประเทศอื่นๆ ฯลฯ และจะมีกลุ่มคนไทยรับผิดชอบจำเฮโรอีนไปซุกซ่อนไว้ในบ้านหลังหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ที่มีช่องลับสำหรับเก็บยาเสพติด ก่อนจะนำมาจัดบรรจุลงในถังแก๊สนำใส่เรือประมงเพื่อนำไปถ่ายลงเรือใหญ่กลางทะเล และส่งขายต่อไปยังต่างประเทศ
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.ตำรวจภูธร ภาค 5 ตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 จึงได้ประสานข้อมูลกับทางสำนักงาน ดีอีเอ และตำรวจสอบสวนกลางไต้หวัน ประจำประเทศไทย จึงทำการสืบสวนติดตามกลุ่มนักค้าเฮโรอีนเครือข่ายนี้มานานกว่า 3 เดือน จนทราบว่า นักค้ายากลุ่มนี้จะใช้บ้านเลขที่ 74/267 หมู่บ้านภูเก็ตซิตี้โฮม ต.รัษฎา อ.เมืองจ.ภูเก็ต เป็นจุดพักเฮโรอีน จึงทำการขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดภูเก็ต เลขที่ 279/2551 ลงวันที่ 9 พ.ย.2551 เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ก็พบผู้ต้องหาทั้งสองคนอยู่ในบ้าน ซึ่งผลจากการตรวจค้นก็พบ เฮโรอีน ชนิดผงสีขาวอัดแท่ง จำนวน 261 แท่ง น้ำหนักรวม 104 กิโลกรัม ถูกฝังอยู่ในบ่อซีเมนต์ใต้ดินแล้วเทปูนซีเมนต์ทับอีกชั้นหนึ่ง โดยจะมีระบบไฮโดรลิกคอยควบคุมระบบการเปิดปิดแผ่นซีเมนต์ดังกล่าวด้วย เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐานก่อนควบคุมตัวทั้งสองคนมาสอบสวน
ด้าน พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันกับพวกที่ยังหลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภที่ 1 (เฮโรอีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติ่มแล้ว 5 ราย คือ นายศรายุทธ เกษรนนิราศ นายสาธิต ไพบลูย์อิสระกูล นายมานะ ชัยดี นายสุมิตร ธนาภิรมย์กุล และนายเฉิน เหวน เคอะ ชาวใต้หวัน นอกจากนี้จะทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับนายหลาน อัน ลุง ตัวการใหญ่ของเครือข่ายนี้ เพื่อเติมอีก 1 คนด้วย
อย่างไรก็ตาม เฮโรอีนที่ยึดได้ในครั้งนี้ มีมูลค่าในประเทศไทยประมาณ 100 ล้านบาท แต่หากส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศจะมีมูลค่าสูงกว่านี้ถึง 10 เท่า ซึ่งการจับกุมเครือข่ายนักค้าเฮโรอีนนี้ได้ จึงเป็นการทำลายการค้าเฮโรอีนรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกไกลลงได้
วันนี้ (10 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.ปส. พล.ร.ท.ณรงค์ เทศวิศาล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 (ผบ.ทรภ.3) พล.ต.ต.สิทธิพงศ์ ปุณโณทก รอง ผบช.ภ.5 และ Mr.ANDRE W.KELLUM เจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา (ดีอีเอ) ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสติดรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 2 คน คือ นายพงศ์ธัช พงศ์ฐถิรกุล อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/161 หมู่ 1 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต และ นายกั๋ว เต๋อ ไฉ่ อายุ 42 ปี ชาวไต้หวัน พร้อมของกลางเฮโรอีน น้ำหนักรวม 104 กิโลกรัม กระเป๋าเดินทาง 3 ใบ โทรศัพทมือถือ 3 เครื่อง กุญแจบ้านจำนวน 25 ดอก
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา (ดีอีเอ) ว่า กลุ่มนักค้ายาเสพติดชาวไต้หวันที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกไกล และมีชื่ออยู่ในบัญชีเป้าหมายของสหรัฐฯ ซึ่งมี นายหลาน อัน ลุง เป็นตัวการใหญ่ กำลังจะนำเฮโรอีน จากแหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ผ่านเข้ามาในประเทศไทย เพื่อเตรียมส่งต่อไปจำหน่ายให้หมู่เกาะต่างๆ เช่น ไต้หวัน ฮ่องกง จีน และประเทศอื่นๆ ฯลฯ และจะมีกลุ่มคนไทยรับผิดชอบจำเฮโรอีนไปซุกซ่อนไว้ในบ้านหลังหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ที่มีช่องลับสำหรับเก็บยาเสพติด ก่อนจะนำมาจัดบรรจุลงในถังแก๊สนำใส่เรือประมงเพื่อนำไปถ่ายลงเรือใหญ่กลางทะเล และส่งขายต่อไปยังต่างประเทศ
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.ตำรวจภูธร ภาค 5 ตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 จึงได้ประสานข้อมูลกับทางสำนักงาน ดีอีเอ และตำรวจสอบสวนกลางไต้หวัน ประจำประเทศไทย จึงทำการสืบสวนติดตามกลุ่มนักค้าเฮโรอีนเครือข่ายนี้มานานกว่า 3 เดือน จนทราบว่า นักค้ายากลุ่มนี้จะใช้บ้านเลขที่ 74/267 หมู่บ้านภูเก็ตซิตี้โฮม ต.รัษฎา อ.เมืองจ.ภูเก็ต เป็นจุดพักเฮโรอีน จึงทำการขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดภูเก็ต เลขที่ 279/2551 ลงวันที่ 9 พ.ย.2551 เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ก็พบผู้ต้องหาทั้งสองคนอยู่ในบ้าน ซึ่งผลจากการตรวจค้นก็พบ เฮโรอีน ชนิดผงสีขาวอัดแท่ง จำนวน 261 แท่ง น้ำหนักรวม 104 กิโลกรัม ถูกฝังอยู่ในบ่อซีเมนต์ใต้ดินแล้วเทปูนซีเมนต์ทับอีกชั้นหนึ่ง โดยจะมีระบบไฮโดรลิกคอยควบคุมระบบการเปิดปิดแผ่นซีเมนต์ดังกล่าวด้วย เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐานก่อนควบคุมตัวทั้งสองคนมาสอบสวน
ด้าน พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันกับพวกที่ยังหลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภที่ 1 (เฮโรอีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติ่มแล้ว 5 ราย คือ นายศรายุทธ เกษรนนิราศ นายสาธิต ไพบลูย์อิสระกูล นายมานะ ชัยดี นายสุมิตร ธนาภิรมย์กุล และนายเฉิน เหวน เคอะ ชาวใต้หวัน นอกจากนี้จะทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับนายหลาน อัน ลุง ตัวการใหญ่ของเครือข่ายนี้ เพื่อเติมอีก 1 คนด้วย
อย่างไรก็ตาม เฮโรอีนที่ยึดได้ในครั้งนี้ มีมูลค่าในประเทศไทยประมาณ 100 ล้านบาท แต่หากส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศจะมีมูลค่าสูงกว่านี้ถึง 10 เท่า ซึ่งการจับกุมเครือข่ายนักค้าเฮโรอีนนี้ได้ จึงเป็นการทำลายการค้าเฮโรอีนรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกไกลลงได้