ตร.เร่งหา “หมาลอบกัด” มือปาบึ้ม พธม.ยังไม่สรุปฝีมือฝ่ายไหน ส่วนเหตุปาระเบิดบ้าน “จรัญ” อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานและพร้อมดูแลอารักขาบุคคลสำคัญหากมีการร้องขอ ยัน ตร.มีหน้าที่พิทักษ์ความปลอดภัย ขอพิสูจน์ความจริง หลังมีข่าวลือ ตร.เป็นฝ่ายยิงชายคนดังกล่าวเสียชีวิต
วันนี้ (30 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่างถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดที่บ้าน นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการรัฐธรรมนูญ สะพานมัฆวาน และเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตที่หลังกองบัญชาการตำรวจนครบาล ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องได้ออกไปสอบสวน ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทางกองพิสูจน์หลักฐาน และวิทยาการเขตในพื้นที่ก็เข้าไปตรวจสอบรวบรวมหลักฐานทั้งหมด เพื่อหาตัวผู้กระทำผิด เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของพื้นที่ และผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่รับผิดชอบพื้นที่ก็ออกไปดูแล เมื่อถามว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มพันธมิตรฯหรือไม่นั้น พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า เราต้องไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ หาสาเหตุและหาตัวผู้กระทำผิด การวิเคราะห์ต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง เร็วไปที่จะสรุปว่าเป็นฝีมือของใคร
พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวต่อว่า ส่วนระเบิดที่บ้านนายจรัญจะเป็นชนิดเดียวกับที่เกิดขึ้นที่บ้านนายอักขราธร จุฬารัตน์ ประธานศาลปกครองสูงสุดหรือไม่นั้น ก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานวัตถุพยานว่าเป็นสารระเบิดประเภทไหน ยังไม่สามารถสรุปได้ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนให้ข้อมูล ส่วนมาตรการดูลาตุลาการ และศาลนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ที่ต้องดูแลบุคคลสำคัญ บุคคลสาธารณะที่มีความสำคัญเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ต้องรับผิดชอบดูแลที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน และหากมีการร้องขอเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลตร.ก็จะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแล ให้ท่านมีความปลอดภัย ในการทำหน้าที่ของท่านตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานด้านการข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบมาก่อนหรือไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า การจะมาพูดว่าตำรวจวิเคราะห์ก่อนหรือไม่ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นแล้ว แต่ที่สำคัญคือจะทำอย่างไรไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก
ต่อข้อถามที่ว่า มีข่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องมีการยิงไปจากรั้ว บช.น.นั้น พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องระวัง ทุกเรื่องต้องไปสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน ข่าวลือ ข่าวอ้างน่าเป็นห่วงมาก เพราะสังคมเราแบ่งแยกเป็นหลายฝ่ายหลายกลุ่ม อาจทำให้มีการนำข่าวไปใช้ในทางเสียหายเราต้องรีบพิสูจน์โดยเร็ว เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร แต่ก็มีปัญหาที่ตำรวจได้รับความเชื่อถือจากประชาชนน้อย ก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรีบดำเนินการสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้น โดยใช้หลักวิทยาศาสตร์และประจักษ์พยานเพื่อแถลงข่าวให้สังคมได้รับทราบ อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนพิทักษ์ความปลอดภัยของประชาชนทุกคน
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้การ์ดพันธมิตรฯใช้เป็นข้ออ้างในการพกพาอาวุธปืนจะดำเนินการอย่างไร โฆษก ตร.กล่าวว่า การพกพาอาวุธปืนมีกฎหมายชัดเจนอยู่แล้วหากใครทำผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็นก็ดำเนินการจับกุมได้ทันที หรือหากมีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องเข้าไปดำเนินการ กฎหมายระบุไว้ชัดเจนไม่มีการยกเว้นใครพกพาอาวุธปืนโดยผิดกฎหมายก็ถือว่าผิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกฟ้องร้องจากกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งทางแพ่งและทางอาญา อย่างในกรณีที่ พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า น.ส.อังคณา ประดับปัญญาวุฒิ เสียชีวิตจากการหนีบระเบิดมาเอง ตร.จะดำเนินการอย่างไร พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า การฟ้องร้องที่เกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงการทำหน้าที่รองโฆษก ตร.ของ พล.ต.ต.สุรพล นั้น ตร.ก็รวบรวมข้อมูลในการต่อสู้ ตั้งทีมงานขึ้นมาทำงานชี้แจงว่าได้ทำไปตามหน้าที่อย่างไร สำหรับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ทาง ตร.ก็ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้น เป็นการให้ความร่วมมือการทำงานกับทางรัฐบาลที่ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นรวมทั้งขององค์กรอิสระต่างๆ ทั้งคณะกรรรมป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เป็นการรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อให้ความร่วมมือกับองค์กรเหล่านี้ที่เข้ามาทำการตรวจสอบ รวมถึงกรณีที่บุคคลใดฟ้องส่วนตัวก็จะได้นำข้อมูลข้อเท็จจริงดังกล่าวไปแถลงต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. กล่าวถึงกรณีคนร้ายปาระเบิดใส่บ้าน นายจรัญ ภักดีธนากุล จนประตูด้านหน้าได้รับความเสียหาย ว่า จากการตรวจสอบทราบว่าเป็นระเบิดชนิดทีเอ็นที จุดชนวนด้วยฝักแคถ่วงเวลา แต่ไม่มีสะเก็ดระเบิด และเป็นลักษณะเดียวกันกับที่คนร้ายก่อเหตุปาระเบิดใส่บ้าน นายอักขราทร จุฬารัตน์ เชื่อว่า น่าจะเป็นกลุ่มคนเดียวกันที่มุ่งก่อกวน ไม่ได้มุ่งหวังชีวิต
พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ นายจรัญ ออกมาระบุว่า จะไม่ขอกำลังตำรวจคุ้มครองนั้น ส่วนนี้ในฐานนะของตำรวจถึงไม่มีการร้องขอ แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องเข้าไปดูแลอยู่แล้ว โดยจัดกำลังตำรวจในพื้นที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
ผบช.น.ยังกล่าวถึงกรณีเหตุระเบิดที่สะพานมัฆวาน ว่า เบื้องต้นจากคำให้การจากพยานที่เห็นเหตุการณ์ เห็นคนร้ายโยนระเบิดเข้าไปในกลุ่มพันธมิตรฯ และตรวจสอบพบกระเดื่องตกอยู่ที่พื้น ตรวจสอบเป็นระเบิดสังหารลูกเกลี้ยงชนิด เอ็ม 87 ส่วนรายระเอียดคงจะต้องตรวจจากกล้องวงจรปิด ส่วนกรณี นายสังเวียน รุจิโมระ เสียชีวิต มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่หน้าผาก ทะลุท้ายทอย อยู่บริเวณถนนพิษณุโลก ใกล้กับแยกมิสกวัน ตรวจสอบเบื้องต้น ผู้ตายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มใดๆ ทั้งสิ้น ขณะเกิดเหตุ นายสังเวียน ได้เข้ามาคุยกับตำรวจที่รักษาการณ์บริเวณนั้น มีอาการมึนเมาขอเดินเข้าไปที่แยกสวนมิสกวัน ตำรวจได้ห้าม แต่นายสังเวียนก็ไม่ฟัง ยังเดินเข้าไป จนถูกยิงก่อนถึงสี่แยกมิสกวัน บริเวณจุดนั้นมีกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ โดยพบว่าผู้ตายถูกยิงก่อนที่จะถึงแยกมิสกวัน และในภาพเห็นวิถีการยิง แต่ไม่เห็นคนที่ลงมือยิง และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการประเมินสถานการณ์อาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตำรวจจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า จากรายงานด้านการข่าวช่วงนี้ก็จะมีลักษณะของระเบิดป่วนเมือง ตำรวจได้วางกำลังเพิ่มเติม เสริมจุดตรวจจุดสกัด เน้นตรวจรถจักรยานยนต์เป็นพิเศษ เพราะเป็นยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุได้ง่าย ส่วนกำลังนั้นคงใช้เหมือนเดิม
ผบช.น.ยังกล่าวถึงการดูแลการชุมนุมของกลุ่ม นปช.จะรวมตัวชุมนุมในวันที่ 1 พ.ย.ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ว่า จะมีกำลังของ บก.น.4 จำนวน 3 กองร้อย หรือ 450 นาย และจากหน่วยอื่นๆ รวมประมาณ 624 นาย โดยทาง บก.น.4 จัดเตรียมแผนรักษาความปลอดภัย ตั้งแต่คืนวันที่ 31 ต.ค.ปิดพื้นที่รอบสนามกีฬาทั้งหมด ตั้งแต่เวลา 03.00 น.จนถึงเวลาเปิดให้เข้า การตรวจเป็นแบ่ง 3 วงรอบ ประตูด้านแรกจะตรวจทั้งคนและรถ เมื่อเข้าไปรอบกลางทุกคนก็จะเดินผ่านเครื่องตรวจสัญญาณ ก่อนจะเข้าถึงตัวอัฒจันทร์ ก็จะมีเครื่องสแกนเนอร์ตรวจอาวุธ จะมีตำรวจคอยสังเกตการณ์ตลอด
วันเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ขจร สัยวัตร์ สมาชิกวุฒิสภา พร้อมคณะวุฒิสมาชิกจำนวน 20 คน เข้าพบ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เพื่อมอบเงินช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา จำนวน 150,000 บาท โดย พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวภายหลัง ว่า สว.มาให้กำลังใจและมาเยี่ยมตำรวจที่เจ็บป่วย ซึ่งตำรวจดีใจและขอบคุณมากที่สว.ยังเห็นอกเห็นใจการทำงานของตำรวจ ซึ่งตำรวจจะทำหน้าที่ดูแลประชาชน ดูแลรัฐสภา ดูแลสถานที่ราชการอย่างดีที่สุด
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวถึงเหตุระเบิดและเหตุยิงกันจนมีผู้เสียชีวิต เมื่อดึกที่ผ่านมา ซึ่งมีการกล่าวโจมตีบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่าเป็นการกระทำของตำรวจ ว่า เหตุที่เกิดขณะนี้คงไปสรุปไม่ได้ว่าฝ่ายไหนผิด ใครเป็นคนทำ นอกจากจะรอผลการสืบสวนสอบสวนให้เสร็จสิ้นเสียก่อน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาตำรวจก็ดูแลความปลอดภัยตามปกติทุกวันอยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นตนคิดว่าต้องเพิ่มมาตรการให้เข็มแข็งยิ่งขึ้น โดยต้องหมุนเวียนกำลังตำรวจเข้ามาเพิ่มเติม
ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯตั้งข้อสังเกตุว่าตำรวจมีการเคลื่อนย้ายกำลังออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ในช่วงมีเหตุระเบิดนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบาย เพราะตำรวจเราทำหน้าที่ทุกวัน มีการสับเปลี่ยนกำลังทุกวัน ซึ่งจากนี้ต้องเพิ่มกำลังมากขึ้น และต้องเจรจากับพันธมิตรฯ ในส่วนที่ต้องแยกแยะว่าส่วนไหนของพันธมิตรฯ และส่วนตรงไหนของตำรวจที่จะเข้าไปได้ ซึ่งการเสียชีวิตเมื่อคืนนี้ก็มีการใช้อาวุธปืน ก็รอตรวจสอบว่าใครเป็นคนทำ
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวถึงเหตุระเบิดที่บ้านพัก นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ว่าต้องรอผลการตรวจสอบ ซึ่งเหตุระเบิดที่บ้านนายจรัญนั้น ผลจากการตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบว่าวัตถุที่ใช้เหมือนๆกับเหตุระเบิดที่บ้านนายอักขราทร จุฬารัตน์ ประธานศาลปกครองสูงสุด คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องการสร้างสถานการณ์ คนทำจะเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ต้องรอการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามตนได้สั่งให้จัดกำลังตำรวจเข้าไปดูแลตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คนแล้ว
วันนี้ (30 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่างถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดที่บ้าน นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการรัฐธรรมนูญ สะพานมัฆวาน และเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตที่หลังกองบัญชาการตำรวจนครบาล ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องได้ออกไปสอบสวน ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทางกองพิสูจน์หลักฐาน และวิทยาการเขตในพื้นที่ก็เข้าไปตรวจสอบรวบรวมหลักฐานทั้งหมด เพื่อหาตัวผู้กระทำผิด เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของพื้นที่ และผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่รับผิดชอบพื้นที่ก็ออกไปดูแล เมื่อถามว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มพันธมิตรฯหรือไม่นั้น พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า เราต้องไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ หาสาเหตุและหาตัวผู้กระทำผิด การวิเคราะห์ต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง เร็วไปที่จะสรุปว่าเป็นฝีมือของใคร
พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวต่อว่า ส่วนระเบิดที่บ้านนายจรัญจะเป็นชนิดเดียวกับที่เกิดขึ้นที่บ้านนายอักขราธร จุฬารัตน์ ประธานศาลปกครองสูงสุดหรือไม่นั้น ก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานวัตถุพยานว่าเป็นสารระเบิดประเภทไหน ยังไม่สามารถสรุปได้ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนให้ข้อมูล ส่วนมาตรการดูลาตุลาการ และศาลนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ที่ต้องดูแลบุคคลสำคัญ บุคคลสาธารณะที่มีความสำคัญเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ต้องรับผิดชอบดูแลที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน และหากมีการร้องขอเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลตร.ก็จะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแล ให้ท่านมีความปลอดภัย ในการทำหน้าที่ของท่านตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานด้านการข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบมาก่อนหรือไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า การจะมาพูดว่าตำรวจวิเคราะห์ก่อนหรือไม่ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นแล้ว แต่ที่สำคัญคือจะทำอย่างไรไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก
ต่อข้อถามที่ว่า มีข่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องมีการยิงไปจากรั้ว บช.น.นั้น พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องระวัง ทุกเรื่องต้องไปสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน ข่าวลือ ข่าวอ้างน่าเป็นห่วงมาก เพราะสังคมเราแบ่งแยกเป็นหลายฝ่ายหลายกลุ่ม อาจทำให้มีการนำข่าวไปใช้ในทางเสียหายเราต้องรีบพิสูจน์โดยเร็ว เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร แต่ก็มีปัญหาที่ตำรวจได้รับความเชื่อถือจากประชาชนน้อย ก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรีบดำเนินการสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้น โดยใช้หลักวิทยาศาสตร์และประจักษ์พยานเพื่อแถลงข่าวให้สังคมได้รับทราบ อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนพิทักษ์ความปลอดภัยของประชาชนทุกคน
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้การ์ดพันธมิตรฯใช้เป็นข้ออ้างในการพกพาอาวุธปืนจะดำเนินการอย่างไร โฆษก ตร.กล่าวว่า การพกพาอาวุธปืนมีกฎหมายชัดเจนอยู่แล้วหากใครทำผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็นก็ดำเนินการจับกุมได้ทันที หรือหากมีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องเข้าไปดำเนินการ กฎหมายระบุไว้ชัดเจนไม่มีการยกเว้นใครพกพาอาวุธปืนโดยผิดกฎหมายก็ถือว่าผิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกฟ้องร้องจากกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งทางแพ่งและทางอาญา อย่างในกรณีที่ พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า น.ส.อังคณา ประดับปัญญาวุฒิ เสียชีวิตจากการหนีบระเบิดมาเอง ตร.จะดำเนินการอย่างไร พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า การฟ้องร้องที่เกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงการทำหน้าที่รองโฆษก ตร.ของ พล.ต.ต.สุรพล นั้น ตร.ก็รวบรวมข้อมูลในการต่อสู้ ตั้งทีมงานขึ้นมาทำงานชี้แจงว่าได้ทำไปตามหน้าที่อย่างไร สำหรับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ทาง ตร.ก็ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้น เป็นการให้ความร่วมมือการทำงานกับทางรัฐบาลที่ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นรวมทั้งขององค์กรอิสระต่างๆ ทั้งคณะกรรรมป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เป็นการรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อให้ความร่วมมือกับองค์กรเหล่านี้ที่เข้ามาทำการตรวจสอบ รวมถึงกรณีที่บุคคลใดฟ้องส่วนตัวก็จะได้นำข้อมูลข้อเท็จจริงดังกล่าวไปแถลงต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. กล่าวถึงกรณีคนร้ายปาระเบิดใส่บ้าน นายจรัญ ภักดีธนากุล จนประตูด้านหน้าได้รับความเสียหาย ว่า จากการตรวจสอบทราบว่าเป็นระเบิดชนิดทีเอ็นที จุดชนวนด้วยฝักแคถ่วงเวลา แต่ไม่มีสะเก็ดระเบิด และเป็นลักษณะเดียวกันกับที่คนร้ายก่อเหตุปาระเบิดใส่บ้าน นายอักขราทร จุฬารัตน์ เชื่อว่า น่าจะเป็นกลุ่มคนเดียวกันที่มุ่งก่อกวน ไม่ได้มุ่งหวังชีวิต
พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ นายจรัญ ออกมาระบุว่า จะไม่ขอกำลังตำรวจคุ้มครองนั้น ส่วนนี้ในฐานนะของตำรวจถึงไม่มีการร้องขอ แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องเข้าไปดูแลอยู่แล้ว โดยจัดกำลังตำรวจในพื้นที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
ผบช.น.ยังกล่าวถึงกรณีเหตุระเบิดที่สะพานมัฆวาน ว่า เบื้องต้นจากคำให้การจากพยานที่เห็นเหตุการณ์ เห็นคนร้ายโยนระเบิดเข้าไปในกลุ่มพันธมิตรฯ และตรวจสอบพบกระเดื่องตกอยู่ที่พื้น ตรวจสอบเป็นระเบิดสังหารลูกเกลี้ยงชนิด เอ็ม 87 ส่วนรายระเอียดคงจะต้องตรวจจากกล้องวงจรปิด ส่วนกรณี นายสังเวียน รุจิโมระ เสียชีวิต มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่หน้าผาก ทะลุท้ายทอย อยู่บริเวณถนนพิษณุโลก ใกล้กับแยกมิสกวัน ตรวจสอบเบื้องต้น ผู้ตายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มใดๆ ทั้งสิ้น ขณะเกิดเหตุ นายสังเวียน ได้เข้ามาคุยกับตำรวจที่รักษาการณ์บริเวณนั้น มีอาการมึนเมาขอเดินเข้าไปที่แยกสวนมิสกวัน ตำรวจได้ห้าม แต่นายสังเวียนก็ไม่ฟัง ยังเดินเข้าไป จนถูกยิงก่อนถึงสี่แยกมิสกวัน บริเวณจุดนั้นมีกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ โดยพบว่าผู้ตายถูกยิงก่อนที่จะถึงแยกมิสกวัน และในภาพเห็นวิถีการยิง แต่ไม่เห็นคนที่ลงมือยิง และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการประเมินสถานการณ์อาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตำรวจจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า จากรายงานด้านการข่าวช่วงนี้ก็จะมีลักษณะของระเบิดป่วนเมือง ตำรวจได้วางกำลังเพิ่มเติม เสริมจุดตรวจจุดสกัด เน้นตรวจรถจักรยานยนต์เป็นพิเศษ เพราะเป็นยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุได้ง่าย ส่วนกำลังนั้นคงใช้เหมือนเดิม
ผบช.น.ยังกล่าวถึงการดูแลการชุมนุมของกลุ่ม นปช.จะรวมตัวชุมนุมในวันที่ 1 พ.ย.ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ว่า จะมีกำลังของ บก.น.4 จำนวน 3 กองร้อย หรือ 450 นาย และจากหน่วยอื่นๆ รวมประมาณ 624 นาย โดยทาง บก.น.4 จัดเตรียมแผนรักษาความปลอดภัย ตั้งแต่คืนวันที่ 31 ต.ค.ปิดพื้นที่รอบสนามกีฬาทั้งหมด ตั้งแต่เวลา 03.00 น.จนถึงเวลาเปิดให้เข้า การตรวจเป็นแบ่ง 3 วงรอบ ประตูด้านแรกจะตรวจทั้งคนและรถ เมื่อเข้าไปรอบกลางทุกคนก็จะเดินผ่านเครื่องตรวจสัญญาณ ก่อนจะเข้าถึงตัวอัฒจันทร์ ก็จะมีเครื่องสแกนเนอร์ตรวจอาวุธ จะมีตำรวจคอยสังเกตการณ์ตลอด
วันเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ขจร สัยวัตร์ สมาชิกวุฒิสภา พร้อมคณะวุฒิสมาชิกจำนวน 20 คน เข้าพบ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เพื่อมอบเงินช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา จำนวน 150,000 บาท โดย พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวภายหลัง ว่า สว.มาให้กำลังใจและมาเยี่ยมตำรวจที่เจ็บป่วย ซึ่งตำรวจดีใจและขอบคุณมากที่สว.ยังเห็นอกเห็นใจการทำงานของตำรวจ ซึ่งตำรวจจะทำหน้าที่ดูแลประชาชน ดูแลรัฐสภา ดูแลสถานที่ราชการอย่างดีที่สุด
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวถึงเหตุระเบิดและเหตุยิงกันจนมีผู้เสียชีวิต เมื่อดึกที่ผ่านมา ซึ่งมีการกล่าวโจมตีบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่าเป็นการกระทำของตำรวจ ว่า เหตุที่เกิดขณะนี้คงไปสรุปไม่ได้ว่าฝ่ายไหนผิด ใครเป็นคนทำ นอกจากจะรอผลการสืบสวนสอบสวนให้เสร็จสิ้นเสียก่อน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาตำรวจก็ดูแลความปลอดภัยตามปกติทุกวันอยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นตนคิดว่าต้องเพิ่มมาตรการให้เข็มแข็งยิ่งขึ้น โดยต้องหมุนเวียนกำลังตำรวจเข้ามาเพิ่มเติม
ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯตั้งข้อสังเกตุว่าตำรวจมีการเคลื่อนย้ายกำลังออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ในช่วงมีเหตุระเบิดนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบาย เพราะตำรวจเราทำหน้าที่ทุกวัน มีการสับเปลี่ยนกำลังทุกวัน ซึ่งจากนี้ต้องเพิ่มกำลังมากขึ้น และต้องเจรจากับพันธมิตรฯ ในส่วนที่ต้องแยกแยะว่าส่วนไหนของพันธมิตรฯ และส่วนตรงไหนของตำรวจที่จะเข้าไปได้ ซึ่งการเสียชีวิตเมื่อคืนนี้ก็มีการใช้อาวุธปืน ก็รอตรวจสอบว่าใครเป็นคนทำ
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวถึงเหตุระเบิดที่บ้านพัก นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ว่าต้องรอผลการตรวจสอบ ซึ่งเหตุระเบิดที่บ้านนายจรัญนั้น ผลจากการตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบว่าวัตถุที่ใช้เหมือนๆกับเหตุระเบิดที่บ้านนายอักขราทร จุฬารัตน์ ประธานศาลปกครองสูงสุด คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องการสร้างสถานการณ์ คนทำจะเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ต้องรอการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามตนได้สั่งให้จัดกำลังตำรวจเข้าไปดูแลตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คนแล้ว