รวบเกย์ตุ๋นเงิน นศ.นับหมื่นบาท หลอกพาร่วมคอนเสิร์ตนูโว

รวบเกย์อ้างเป็นพนักงานแกรมมี่ ใช้กลอุบายหลอกเงินเหยื่อนักศึกษาบอกจะพาร่วมงานคอนเสิร์ตนูโว และเป็นทีมงานละครเวทีข้างหลังภาพ เหยื่อหลงเชื่อสูญเงินนับหมื่น ตรวจพบประวัติ พึ่งพ้นโทษคดีโกงค่าอาหาร เจ้าตัวบอกจนตรอกไม่มีเงินกินใช้ งานก็ไม่มีทำ แต่เคยทำงานอีเวนต์เปิดตัวสินค้าต่างๆ
จึงคิดแผนต้มตุ๋น

วันนี้ (21 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ร.ต.อ.อัศวิน วงศ์บัวเจริญ รอง สว.สส.สน.ดินแดง ได้ร่วมกันจับกุม นายเจริญพงษ์ หรือ พงษ์ เอื้อวัณณะโชติมา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/2 หมู่ 10 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา เลขที่ 674/2551 ลงวันที่ 21 ต.ค.51 ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน พร้อมของกลางเอกสารที่ผู้ต้องหาใช้หลอกลวงเป็นบัตรประชาชนของผู้เสียหาย จำนวนหลายราย โดยสามารถจับกุมได้ที่ หอพักบ้านศรัณยา ห้องเลขที่ 403 ถ.วิภาวดีรังสิต ซอย 2 แขวงและเขตดินแดง

ร.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีผู้เสียหายจำนวน 42 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจักรพงษ์ภูวนารถ ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.เพ็ชรอมร คลองใจ พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ว่า ถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกลวงโดยใช้กลอุบาย อ้างตัวว่า เป็นหัวหน้าฝ่ายคอนเสิร์ตของบริษัท แกรมมี่ (มหาชน) จำกัด กำลังต้องการทีมงานไปร่วมคอนเสิร์ตของวงนูโว ครบรอบ 25 ปี และทีมงานของละครเวทีเรื่องข้างหลังภาพ จำนวนมาก ทำให้ผู้เสียหายทั้งหมดหลงเชื่อ เนื่องจากมีบุคคลที่ผู้เสียหายนับถือเป็นผู้รับรองความน่าเชื่อถือของผู้ต้องหา ว่า เป็นพนักงานของบริษัท แกรมมี่ จริง จึงหลงเชื่อจ่ายเงินเป็นค่าเสื้อสตาฟฟ์รายละ 200 บาท รวมเป็นเงินทั่งหมด 8,400 บาท

ร.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ทางผู้ต้องหายังอ้างกับผู้เสียหายบางราย ว่า สามารถซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาแพงได้ในราคาที่ถูก เพราะเป็นสินค้าปลอดภาษี ทำให้มีผู้หลงเชื่อเสียเงินซื้ออีกนับหมื่นบาท เพื่อสั่งซื้อสินค้าดังกล่าวหลายรายการ สำหรับผู้ต้องหารายนี้เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรัก จับกุมในข้อหาฉ้อโกงค่าอาหารจนกระทั่งต้องโทษอยู่ในเรือนจำถึง 2 เดือน หลังจากพ้นโทษออกมาไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่มีประสบการณ์สามารถคิดกลอุบายดังกล่าวได้จากการที่เคยเป็นพนักงานในบริษัทรับจัดงานเปิดตัวสินค้าต่างๆ ทั้งยังเคยเป็นพนักงานเสิร์ฟและล้างจานตามโรงแรมใหญ่ๆ มาก่อน

อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหารายนี้ถือว่าเป็นภัยต่อสังคมในยุคการสื่อสารไร้พรมแดน เพราะผู้ต้องหาจะใช้โปรแกรมแชตติดต่อเหยื่อบางราย เพื่อหลอกไปร่วมหลับนอน (เหยื่อที่เป็นผู้ชาย) ก่อนที่จะหลอกใช้เหยื่อให้เป็นนกต่อติดต่อหลอกเหยื่อรายอื่นๆ อีกทอดหนึ่ง

นายกิตติศักดิ์ มาสังข์ อายุ 24 ปี 1 ในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองรู้จักผู้ต้องหาผ่านเพื่อนมาอีกที โดยเพื่อนแนะนำว่าเป็นพนักงานระดับกลางของบริษัท แกรมมี่ มีเงินเดือนนับแสนบาท ทั้งยังซื้อสินค้าปลอดภาษีได้ จึงหลงเชื่อฝากซื้อโน้ตบุ๊ก ยี่ห้อ โซนี่ ไวโอ เสียเงินไป 20,000 บาท แต่ก็ไม่ได้สินค้าที่ฝากซื้อสักทีแม้พยายามทวงถามผู้ต้องหาก็บ่ายเบี่ยง อ้างแต่ว่าสินค้ายังไม่เข้า

ส่วน นายพงศธร สุกรเสพย์ อายุ 23 ปี กล่าวว่า ตนหลงเชื่อผู้ต้องหา เพราะเห็นว่าพูดจาดี น่าเชื่อถือ ทั้งยังมีพี่ที่นับถือให้การรับรองจึงสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือ กล้องดิจิตอล และสมัครเป็นสต๊าฟในคอนเสริ์ตของนูโวด้วย เสียค่าโง่ไปเกือบ 3,000 บาท

นายเจริญพงษ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนไม่ใช่พนักงานของบริษัท แกรมมี่ แต่อย่างใด ที่ออกอุบายหลอกเงินของผู้เสียหายมาก็เพื่อต้องการเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และรักษาโรคไต ที่ทำไปเพราะความจำเป็น เนื่องจากขัดสนเงินทองอย่างหนักประกอบกับไม่มีงานทำ ทั้งที่จริงแล้วในอดีตครอบครัวของตนถือว่ามีฐานะร่ำรวย เคยเรียนอยู่ในโรงเรียนชั้นนำของประเทศ แต่หลังจากที่บิดาล้มละลายจากการทำธุรกิจขายอะไหล่รถยนต์ ทำให้ชีวิตต้องระหกระเหิน ต่อสู้ดิ้นรนด้วยตัวคนเดียวมาโดยตลอด

“เมื่อตอนเป็นเด็กผมเคยถูกอาจารย์สอนนาฏศิลป์ ล่วงละเมิดทางเพศ ทำให้โตขึ้นมามีจิตใจเบี่ยงเบนชอบผู้ชายด้วยกัน สิ่งที่ทำทั้งหมดยอมรับว่ากระทำผิดจริง ลึกๆแล้วก็อยากจะหาเงินมาชดใช้คืนให้ผู้เสียหายทั้งหมด แต่ไม่สามารถทำได้ จึงอยากขอโทษผู้ที่ตกเป็นเหยื่อทั้งหมด”นายเจริญพงษ์ กล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชนก่อนจะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป