ตำรวจรวบสองคู่หูนักฉกทรัพย์ตามบ้าน สารภาพทำงานเป็นช่างไฟโรงงานย้อมผ้าแถวพระราม 2 เงินไม่พอกิน จึงหันมาหารายได้เสริมค้าน้ำกามตามท้องสนามหลวง พร้อมกับริเป็นขโมยออกงัดแงะตามบ้านลูกค้าที่มาซื้อบริการ เอาของกลางระบายขายนำเงินไปเที่ยวเตร่
วันนี้ (3 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ศูนย์สืบสวน บช.น. พ.ต.อ.พันธุ์เทพ ธรรมจารี ผกก.ศส.บช.น.แถลงข่าวจับกุม นายยุทธนา หรือ หนึ่ง ลำทะแย อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 หมู่ 3 ต.บ้านบางนางลี่ อ. อัมพวา จ.สมุทรสงคราม และ นายวิศกร หรือ สอง ยอดสำโรง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.7 ต.ลำนางแก้ว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา เลขที่ 2814/2551 และ 2811/2551 ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2551 ตามลำดับ พร้อมของกลาง ซีพียูคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง จอคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง สายแลน 1 เส้น และเครื่องสำรองไฟฟ้า 1 เครื่อง
พ.ต.อ.พันธุ์เทพ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวน บช.น.สืบทราบว่า มีคนร้ายทราบชื่อเล่นว่า นายหนึ่ง และ นายสอง จะร่วมกับพวกตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเรือน หรือสำนักงานต่างๆ แล้วนำทรัพย์สินที่ได้ไปขายที่บริเวณริมคลองหลอด และสนามหลวง ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคนกำลังจะเข้าไปลักทรัพย์ที่บ้านภายในซอยมหาทรัพย์ ถนนเกษตร-นวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม จึงนำกำลังไปซุ่มอยู่
หลังจากนั้น ผู้ต้องหาทั้งสองคนได้นำของกลางออกมาจากบริษัท เอส.บี.ไอ.ซีเคียวริตี้ ดิวิชั่น จำกัด เลขที่ 202/5 ซอยมหาทรัพย์ ถนนเกษตร-นวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม ไปขึ้นรถแท็กซี่ หมายเลขทะเบียน ทร 9252 กทม.เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น โดยเบื้องต้นทั้งสองคนรับสารภาพ ว่า ได้ร่วมกันใช้ไขควงงัดหน้าต่างเข้าไปทำการลักเอาทรัพย์สินมาจากบริษัทดังกล่าวจริง จึงคุมตัวมาสอบสวนที่ศูนย์สืบสวน บช.น.
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพ โดย นายยุทธนา ให้การว่า ตนทำงานเป็นช่างไฟฟ้าอยู่ที่โรงงานย้อมผ้าแห่งหนึ่งย่านพระราม 2 แต่รายได้น้อย จึงมาทำอาชีพขายบริการทางเพศที่สนามหลวงเพิ่มอีก แต่ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา รายได้ไม่พอใช้ จึงชวน นายวิศวกร เข้าไปลักทรัพย์ตามบ้านต่างๆ เพื่อนำไปขายโดยส่วนใหญ่จะเลือกบ้านของลูกค้าที่มาซื้อบริการทางเพศตน เมื่อขายได้เงินมาก็จะเอาใช้จ่ายเที่ยวเตร่ โดยทำมาแล้วประมาณ 5 ครั้ง คือ ที่บริเวณหมู่บ้านทิพย์มณฑา ในซอยมหาวิทยาลัยรามคำแหง 3 หมู่บ้านกานดา หลังตลาดบางแค ซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 และบริเวณร้านอาหารย่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน หรือรับของโจร ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป