ดีเอสไอไม่ขัดข้องพร้อมนำตัวผู้ต้องหาคดีทุจริตขายสินทรัพย์ ปรส.อีกคนให้อัยการส่งฟ้องต่อศาลพรุ่งนี้ “ทวี สอดส่อง” แจงเหตุไม่สั่งฟ้องในชั้นพนักงานสอบสวนเพราะมองว่าเป็นเพียงพนักงานบริษัท
วันนี้ (11 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกรายในคดีการขายทอดตลาดสินทรัพย์ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 56 สถาบันการเงิน ที่ถูกปิดกิจการ ขององค์กรเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน หรือ ปรส. ทำให้รัฐเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท เนื่องจากเห็นว่าทุกคนต่างมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดจึงได้ให้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำตัวผู้ต้องหาอีกคนคือนางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ กรรมการผู้จัดการ กองทุนรวมโกลบอลไทย พรอพเพอร์ตี้ และบริษัท จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด มาส่งให้พนักงานอัยการเพื่อฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ย.)
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงการสรุปสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหาคดี ปรส.ว่า ในชั้นสอบสวนอัยการที่ร่วมเป็นคณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นให้กันนางวิวรรณไว้เป็นพยานเนื่องจากได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี สามารถเชื่อมโยงให้เห็นถึงขบวนการในการกระทำความผิด ดีเอสไอจึงมาความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดี ปรส.และให้ฟ้องบริษัท จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด แต่ไม่ฟ้องนางวิวรรณ เพราะมองว่าเป็นเพียงพนักงานของบริษัทเท่านั้น แต่เมื่ออัยการคดีพิเศษมีความเห็นให้สั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกราย ดีเอสไอก็ไม่ขัดข้อง พร้อมจะนำตัวมาส่งฟ้องในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ย.) อย่างแน่นอน
โดยคดีนี้อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา ประกอบด้วย นายอมเรศ ศิลาอ่อน อดีตประธานคณะกรรมการ ปรส. และนายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ อดีตเลขานุการ ปรส. กับพวกอื่นๆ ซึ่งเป็นนิติบุคคล รวม 6 คน ไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และเป็นผู้สนับสนุนพนักงานในการกระทำความผิด โดยศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้อง และนัดแถลงเปิดคดี วันที่ 20 ตุลาคมนี้ เวลา 13.30 น.
สำหรับคดีนี้ อัยการโจทก์ยื่นฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยทั้งหมดได้ร่วมกันละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการประมูลของ ปรส. คดีการขายสินทรัพย์ให้กับบริษัท เลห์แมน บราเดอร์ โฮลดิ้ง อิงค์ แต่บริษัท เลห์แมนฯ กลับไปโอนขายสิทธิ์ให้กองทุนรวมโกลบอลไทยพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งไม่ได้เป็นผู้เข้าร่วมประมูลตามกฎหมาย เนื่องจากหากทำสัญญากับบริษัท เลห์แมนฯ ทางบริษัทจะต้องมีภาระภาษีรวม 2,000 ล้านบาท ซึ่งกองทุนโกลบอลไทยจัดตั้งขึ้นโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย