เลขาฯ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นำผู้เสียหายจากการไม่จ่ายสินไหมทดแทนของบริษัทสัมพันธ์ประกันภัย 40 ราย ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง และศาลแขวงพระนครเหนือ พร้อมเรียกค่าเสียหายกว่า 6 ล้านบาท
วันนี้ (5 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมกลุ่มผู้บริโภคประมาณ 40 คน เดินทางมายังศาลแพ่ง และศาลแขวงพระนครเหนือ เพื่อยื่นฟ้องบริษัท สัมพันธ์ประกันภัย จำกัด และคณะผู้บริหาร ในความผิดฐานสัญญาไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทน พร้อมเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 6 ล้านบาทเศษ โดยศาลแพ่ง และศาลแขวงพระนครเหนือรับไว้เพื่อพิจารณามีคำสั่งต่อไป
น.ส.สารี กล่าวว่า ตั้งแต่กลางปี 2550 เป็นต้นมา มูลนิธิฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการที่บริษัท สัมพันธ์ประกันภัย จำกัด ไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทนจำนวนกว่า 100 ราย และมูลนิธิได้ประสานไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) หรือกรมการประกันภัยเดิมให้เร่งแก้ไข ซึ่งต่อมา นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการ คปภ.ได้เลือกใช้วิธีการสั่งให้บริษัท สัมพันธ์ฯ หยุดรับประกันภัยชั่วคราว และให้เร่งหาผู้ร่วมลงทุนรายใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องด้านการเงิน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถหาได้ มีแต่ปล่อยข่าวออกมาเป็นระยะเพื่อให้ผู้บริโภครอต่อไปอย่างไม่มีกำหนด จนบางรายคดีขายอายุความที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหาย ดังนั้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับการชดใช้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น เมื่อกฎหมายวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคได้มีผลบังคับเมื่อวันที่ 23 ส.ค.2551 ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคสามารถฟ้องผู้ประกอบธุรกิจที่เอารัดเอาเปรียบทำผิดสัญญาได้โดยไม่ต้องเสียค่าฤชาธรรมเนียม และไม่ต้องใช้ทนายความ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและทนายความอาสาของมูลนิธิฯ จึงช่วยเขียนคำฟ้องแก่ผู้เสียหายและมาร่วมกันยื่นฟ้องต่อศาล
น.ส.สารี กล่าวอีกว่า ผู้เสียหายทั้ง 40 รายนี้เป็นเพียงกลุ่มแรกที่เริ่มต้นฟ้องเรียกค่าเสียหายกับบริษัท สัมพันธ์ฯ ภายใต้คดีผู้บริโภค ในขณะที่ข้อมูลของนางจันทรา แจ้งว่า ถึงวันที่ 28 ก.พ.2551 มีผู้ร้องเรียนไปที่ คปภ.ทั้งสิ้น 9,153 ราย มูลค่าเสียหาย 441.25 ล้านบาท แต่ คปภ. เร่งรัดให้บริษัท สัมพันธ์ฯ จ่ายค่าสินไหมทดแทนได้เพียง 695 ราย รวมเป็นเงินที่ได้รับเพียง 7.38 ล้านบาทเท่านั้น
น.ส.สารี กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้บริโภคที่มีทุนทรัพย์ความเสียหายไม่ถึง 300,000 บาท จะไปยื่นฟ้องที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ซึ่งมีผู้ได้รับความเสียหายในกลุ่มนี้ 35 ราย จำนวนทุนทรัพย์ความเสียหายต่ำสุดอยู่ที่ 6,000 บาท และสูงสุดที่ 272,000 บาท รวมความเสียหายในกลุ่มนี้ 3,040,974 บาท ส่วนผู้ที่เสียหายตั้งแต่ 300,000 บาทขึ้นไปที่ยื่นฟ้องที่ศาลแพ่งซึ่งกลุ่มนี้มี 5 ราย ความเสียหายตั้งแต่ 300,000-980,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายของผู้ฟ้องที่ศาลแพ่งวันนี้ 2,924,080 บาท และรวมความเสียหายทั้งหมดที่จะให้บริษัท สัมพันธ์ฯ ชดใช้อยู่ที่ 6,157,854 บาท
ทั้งนี้ ศาลแพ่งนัดพร้อมคู่ความในวันที่ 29 ก.ย. เวลา 13.00 น.นี้
