xs
xsm
sm
md
lg

ราชทัณฑ์แยกนักโทษโรคร้ายไม่ขังรวมทั่วไป

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)
กรมราชทัณฑ์เตรียมพร้อมปรับปรุงเรือนจำไม่ให้แออัด หลังพบผู้ต้องขังป่วยวัณโรค-เอดส์มากถึง 1,500 คน เผยผลการรักษาหายขาดร้อยละ 72 ส่วนที่เหลือพ้นโทษและเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ไปก่อนตรวจเจอ

วันนี้ (20 ส.ค.) ที่กรมราชทัณฑ์ นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์มีนโยบายปรับปรุงเรือนจำไม่ให้มีสภาพแออัด เพื่อดูแลผู้ต้องขังให้ปลอดจากโรควัณโรค เนื่องจากผู้ต้องขังที่ป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เอดส์) มักจะมีวัณโรคเป็นโรคแทรกซ้อนทำให้เรือนจำซึ่งในอดีตเคยมีผู้ป่วยเป็นวัณโรคเพียง 200-300 คน กลับเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2,000 คน กรมราชทัณฑ์จึงได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข และองค์การอนามัยโลก ในการเข้ามาจัดทำห้องพยาบาลเพื่อแยกผู้ต้องขังที่ป่วยเป็นวัณโรคออกจากผู้ต้องขังทั่วไป และสนับสนุนยาและเครื่องมือการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค จนทำให้การคัดกรองผู้ป่วยออกมาบำบัดมีประสิทธิภาพ จากอัตราการรักษาพยาบาลพบว่านักโทษที่ป่วยเป็นวัณโรคหายขาด 72% ส่วนอีก 28% พ้นโทษก่อนรักษาหาย และเสียชีวิตจากโรคเอดส์

นายนัทธี กล่าวอีกว่า ปัจจุบันจากการตรวจสอบตัวเลขผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศพบว่า มีผู้ต้องขังป่วยเป็นวัณโรค 1,500 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งสิ้น 180,000 คน โดยเป็นแนวโน้มที่ลดลงจากปีก่อนๆ ซึ่งได้ตั้งเป้าว่านับจากปี 2552 จะต้องมีนักโทษที่ป่วยเป็นวัณโรคไม่เกิน 500 คน โดยเรือนจำจะเข้มงวดเรื่องการคัดกรองผู้ป่วยออกมาบำบัดรักษาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด ในกรณีที่เป็นผู้ต้องขังชาวไทยจะใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในการรักษาพยาบาล ส่วนนักโทษที่เป็นชาวต่างด้าวจะประสานให้กระทรวงสาธารณสุขส่งแพทย์เข้ามารักษาในเรือนจำ

สำหรับสถิติการเสียชีวิตของผู้ต้องขังทั่วประเทศ ที่เสียชีวิตโดยเจ็บป่วยด้วยโรคเอดส์และโรคต่างๆ เฉลี่ยอยู่ที่ 10 คนต่อ 1 เดือน โดยทางเรือนจำไม่สามารถตรวจสอบได้ตั้งแต่เบื้องต้น เนื่องจากผู้ต้องขังมีสิทธิที่จะไม่อนุญาตให้ตรวจเลือดจนกระทั่งป่วยในระยะสุดท้าย โดยที่ผ่านมาทุกเรือนจำพยายามรณรงค์ให้ผู้ต้องขังรักษาความสะอาดและดูแลสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคเอดส์ โดยเฉพาะผู้ต้องขังในกลุ่มรักร่วมเพศ ซึ่งจะได้รับแจกถุงยางอนามัยจากกระทรวงสาธารณสุข
กำลังโหลดความคิดเห็น