หลัง “นายใหญ่-นายหญิง” ชิ่งหนีอาญาแผ่นดินไปเดินชอปปิ้งอยู่ลอนดอน ทำเอาลิ่วล้อระส่ำระส่ายหนัก ขณะที่การเมืองยังไม่นิ่ง ทุกสิ่งจึงติดๆขัดๆ แม้กระทั่งบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดิมทีจะหยิบมาพิจารณาในวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ต้องชลอ รอเช็กสถานการณ์ “นาทีต่อนาที” ว่าใครกันแน่คือผู้กุมอำนาจตัวจริง
โดย “ล็อตแรก” จะเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร) ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) และผู้บัญชาการ( ผบ.ช.) ซึ่ง “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ในฐานะประธานบอร์ดกลั่นกรองจะร่วมกับ รอง ผบ.ตร.พิจารณา ก่อนเสนอเข้าที่ประชุม ก.ตร.ที่มีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 20 ส.ค.นี้อีกครั้ง
ตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ว่างลง 2 ตำแหน่งนั้นคาดว่า เพื่อนร่วมรุ่น นรต.26 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะฟาดไปกินทั้ง พล.ต.ท.วันชัย ศรีนวลนัด ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขยับขึ้น และ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ที่ปรึกษา (สบ.10)เทียบเท่า รอง ผบ.ตร.โยกเข้าตำแหน่งหลัก
ส่วนตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าง 5 ตำแหน่ง นรต.26 ดาหน้าเข้าวินเป็นทิวแถว ทั้ง พล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว ผบช.ภ.5 พล.ต.ท.สุวัฒน์ ธำรงศรีสกุล ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. พล.ต.ท.ถาวร จันทร์ยิ้ม ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. เหลือโควตาให้ พล.ต.ท.ปรัชญา สุทธปรีดา จตร.(สบ.10) นรต.23 เพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ และ พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผบช.สทส. นรต. 29 เด็ก “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เบียดแทรกมาได้แค่ 2 ตำแหน่ง
โดยในส่วนของ พล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว หลายคนยังคงจดจำภาพข่าวเหตุการณ์ นายตำรวจยศ “พล.ต.ท.” พร้อมผู้ติดตาม เดินวางก้ามขึ้นเวทีปราศัยขณะมีการชุมนุมคัดค้านการถ่ายโอนการศึกษา โดยกลุ่มครูภาคอีสาน และการจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรนัดพิเศษ ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ลานกิจกรรมสวนสาธารณะ 200 ปี บึงแก่นนคร จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2549
ภาพเหตุการณ์วันนั้นได้สร้างความมัวหมองต่อวงการสีกากีเป็นอย่างมาก...เมื่อนายตำรวจนามชื่อ “พล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว” ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (ผบช.ภ.4) ในขณะนั้น หมดความอดทน ขึ้นไปข่มขู่ “นายอวยชัย วะทา” แกนนำคัดค้านการถ่ายโอนครูถึงบนเวทีปราศัยพร้อมกับแย่งไมโครโฟนเอามาพูดต่อกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า “คุณรู้มั้ย คุณกำลังพูดกับใคร ...คุณกำลังพูดกับผมอยู่ .. เดี๋ยวเจอดีแน่” ทำให้ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมโห่ร้องเป็นเวลาประมาณ 5 นาที ก่อนที่นักเลงโตในคราบสีกากีจะเดินลงจากเวทีไป...
มาถึงเก้าอี้ ผู้บัญชาการ ที่ว่าง 22 ตัว พล.ต.ต.อัศวิน ณรงค์พันธ์ รอง ผบช.ภ.3 นรต.รุ่น 25 เพื่อน ผบ.ตร. ขยับขึ้น ผบช.ภ.4 แทน พล.ต.ท.วุฒิ วิทิตานนท์ นรต.26 ที่เกษียณราชการไม่สวยหลังปล่อยให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถูกทำร้ายที่อุดร ฯ ส่วน “เสี่ยตุ๊”พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. อดีตหัวหน้านักสืบนครบาล ที่คุ้นเคยกับตระกูลดามาพงศ์มาตั้งแต่รุ่นบิดาได้ โยกมาเป็น ผบช.ภ.3 แทน พล.ต.ท.วราสิทธิ์ พรเลิศ ที่สมัครเข้าร่วมโครงการเกษียณเพื่อขอพระราชทานยศ “พล.ต.อ.” พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รอง ผบช.น. รุ่น 26 มีสิทธิ์ขึ้น ผบช.ก. แทน พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบช.ก. นรต.รุ่น 31 ที่น่าจะได้รับการปูนบำเหน็จจากฝ่ายการเมือง ให้ขยับขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร.
ขณะที่ พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 นรต. 26 ยังกอดเก้าอี้เดิมไม่ปล่อย ส่วน พล.ต.ต.พีระพงศ์ ดามาพงศ์ รอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.พี่ชาย คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธีรยุทธ กิติวัฒน์ ผบช.ภ.2 เด็ก “นายสมัคร” ขอยึดพื้นที่ทำเลทองภาคตะวันออกต่อ ส่วน “บิ๊กวิน” พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.นรต.รุ่น 30 พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผบช.สตม. นรต.30 พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภ.7 นรต.รุ่น 30 ยังเป็นจงอางหวงไข่ขอต่อวีซ่าออกไปอีก
พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. นรต.รุ่น 31 ขยับเป็น ผบช.ภ.6 พล.ต.ท.ธานี ทวิชศรี ผบช.ภ.8 นรต.24 เพื่อนร่วมรุ่น “บิ๊กตู่” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.ถูกเด้งเข้ากรุ มาเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. ให้ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รอง ผบช.ภ.8 นรต.28 ขยับขึ้น ผบช.ภ.8 พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฎฐ์ รอง ผบช.ภ.9 ทำหน้าที่ รอง ผอ. ศปก.ตร.สน.จว.ยะลา ขึ้นเป็น ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.สมยศ ดีมาก รอง พตร. และโฆษก รพ.ตร. ขยับเป็น พตร.
พล.ต.ต.ณรงค์ ศิริสุนทร รอง ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. นรต. 25 เพื่อนบิ๊กป๊อด ขยับขึ้นเป็น ผบช.ตชด. พล.ต.ต.จรัมพร สุระมณี รอง ผบช.ก. นรต. 29 เป็น จตร.(สบ.8) พล.ต.ต.สมเดช ขาวขำ รอง ผบช.ก.ขึ้นเป็น ผบช.ประจำสง .ผบ.ตร. พล.ต.ต.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.นรต.31 เป็น ผบช.สทส. พล.ต.ต.จิรโรจน์ ไชยชิต ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. เบียดแย่งเก้าอี้ ผบช.ศ. กับ พล.ต.ท.สมเกียรติ ศรีวรขาน ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ต.เกรียงศักดิ์ สุริโย รอง ผบช.ตชด. เป็น จตร (สบ.8) พล.ต.ต.ชลธาร จิราณรงค์ นรป.(สบ.7) เป็น นรป. (สบ.8) พล.ต.ต.ดิเรก มโนลีหกุล รอง ผบช.ส. เป็น ผบช.ประจำตร.
เมื่อสำรวจตรวจรายชื่อแล้วพบว่า มีแต่พวก “เด็กฝาก” นักการเมือง-เพื่อนพ้อง-น้องรัก ดาวตกใส่บนบ่า เก้าอี้ตกใส่ตีนได้ดิบได้ดีเป็นทิวแถว โดยเฉพาะเพื่อนร่วมรุ่นคนหน้าเหลี่ยม อาชญากร “ทักษิณ ชินวัตร” ถึงแม้เจ้าตัวไม่อยู่แต่บารมียังเกริกไกร ทำเอาตำรวจที่มุ่งมั่นทำแต่งานเส้นสายตื้นเขิน นั่งมองกันตาปริบๆ เป็นทิวแถว ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะสังคายนาองค์กรตำรวจให้หลุดจากวงจรอุบาทว์เสียที...
โดย “ล็อตแรก” จะเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร) ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) และผู้บัญชาการ( ผบ.ช.) ซึ่ง “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ในฐานะประธานบอร์ดกลั่นกรองจะร่วมกับ รอง ผบ.ตร.พิจารณา ก่อนเสนอเข้าที่ประชุม ก.ตร.ที่มีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 20 ส.ค.นี้อีกครั้ง
ตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ว่างลง 2 ตำแหน่งนั้นคาดว่า เพื่อนร่วมรุ่น นรต.26 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะฟาดไปกินทั้ง พล.ต.ท.วันชัย ศรีนวลนัด ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขยับขึ้น และ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ที่ปรึกษา (สบ.10)เทียบเท่า รอง ผบ.ตร.โยกเข้าตำแหน่งหลัก
ส่วนตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าง 5 ตำแหน่ง นรต.26 ดาหน้าเข้าวินเป็นทิวแถว ทั้ง พล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว ผบช.ภ.5 พล.ต.ท.สุวัฒน์ ธำรงศรีสกุล ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. พล.ต.ท.ถาวร จันทร์ยิ้ม ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. เหลือโควตาให้ พล.ต.ท.ปรัชญา สุทธปรีดา จตร.(สบ.10) นรต.23 เพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ และ พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผบช.สทส. นรต. 29 เด็ก “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เบียดแทรกมาได้แค่ 2 ตำแหน่ง
โดยในส่วนของ พล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว หลายคนยังคงจดจำภาพข่าวเหตุการณ์ นายตำรวจยศ “พล.ต.ท.” พร้อมผู้ติดตาม เดินวางก้ามขึ้นเวทีปราศัยขณะมีการชุมนุมคัดค้านการถ่ายโอนการศึกษา โดยกลุ่มครูภาคอีสาน และการจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรนัดพิเศษ ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ลานกิจกรรมสวนสาธารณะ 200 ปี บึงแก่นนคร จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2549
ภาพเหตุการณ์วันนั้นได้สร้างความมัวหมองต่อวงการสีกากีเป็นอย่างมาก...เมื่อนายตำรวจนามชื่อ “พล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว” ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (ผบช.ภ.4) ในขณะนั้น หมดความอดทน ขึ้นไปข่มขู่ “นายอวยชัย วะทา” แกนนำคัดค้านการถ่ายโอนครูถึงบนเวทีปราศัยพร้อมกับแย่งไมโครโฟนเอามาพูดต่อกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า “คุณรู้มั้ย คุณกำลังพูดกับใคร ...คุณกำลังพูดกับผมอยู่ .. เดี๋ยวเจอดีแน่” ทำให้ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมโห่ร้องเป็นเวลาประมาณ 5 นาที ก่อนที่นักเลงโตในคราบสีกากีจะเดินลงจากเวทีไป...
มาถึงเก้าอี้ ผู้บัญชาการ ที่ว่าง 22 ตัว พล.ต.ต.อัศวิน ณรงค์พันธ์ รอง ผบช.ภ.3 นรต.รุ่น 25 เพื่อน ผบ.ตร. ขยับขึ้น ผบช.ภ.4 แทน พล.ต.ท.วุฒิ วิทิตานนท์ นรต.26 ที่เกษียณราชการไม่สวยหลังปล่อยให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถูกทำร้ายที่อุดร ฯ ส่วน “เสี่ยตุ๊”พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. อดีตหัวหน้านักสืบนครบาล ที่คุ้นเคยกับตระกูลดามาพงศ์มาตั้งแต่รุ่นบิดาได้ โยกมาเป็น ผบช.ภ.3 แทน พล.ต.ท.วราสิทธิ์ พรเลิศ ที่สมัครเข้าร่วมโครงการเกษียณเพื่อขอพระราชทานยศ “พล.ต.อ.” พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รอง ผบช.น. รุ่น 26 มีสิทธิ์ขึ้น ผบช.ก. แทน พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบช.ก. นรต.รุ่น 31 ที่น่าจะได้รับการปูนบำเหน็จจากฝ่ายการเมือง ให้ขยับขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร.
ขณะที่ พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 นรต. 26 ยังกอดเก้าอี้เดิมไม่ปล่อย ส่วน พล.ต.ต.พีระพงศ์ ดามาพงศ์ รอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.พี่ชาย คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธีรยุทธ กิติวัฒน์ ผบช.ภ.2 เด็ก “นายสมัคร” ขอยึดพื้นที่ทำเลทองภาคตะวันออกต่อ ส่วน “บิ๊กวิน” พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.นรต.รุ่น 30 พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผบช.สตม. นรต.30 พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภ.7 นรต.รุ่น 30 ยังเป็นจงอางหวงไข่ขอต่อวีซ่าออกไปอีก
พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. นรต.รุ่น 31 ขยับเป็น ผบช.ภ.6 พล.ต.ท.ธานี ทวิชศรี ผบช.ภ.8 นรต.24 เพื่อนร่วมรุ่น “บิ๊กตู่” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.ถูกเด้งเข้ากรุ มาเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. ให้ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รอง ผบช.ภ.8 นรต.28 ขยับขึ้น ผบช.ภ.8 พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฎฐ์ รอง ผบช.ภ.9 ทำหน้าที่ รอง ผอ. ศปก.ตร.สน.จว.ยะลา ขึ้นเป็น ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.สมยศ ดีมาก รอง พตร. และโฆษก รพ.ตร. ขยับเป็น พตร.
พล.ต.ต.ณรงค์ ศิริสุนทร รอง ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. นรต. 25 เพื่อนบิ๊กป๊อด ขยับขึ้นเป็น ผบช.ตชด. พล.ต.ต.จรัมพร สุระมณี รอง ผบช.ก. นรต. 29 เป็น จตร.(สบ.8) พล.ต.ต.สมเดช ขาวขำ รอง ผบช.ก.ขึ้นเป็น ผบช.ประจำสง .ผบ.ตร. พล.ต.ต.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.นรต.31 เป็น ผบช.สทส. พล.ต.ต.จิรโรจน์ ไชยชิต ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. เบียดแย่งเก้าอี้ ผบช.ศ. กับ พล.ต.ท.สมเกียรติ ศรีวรขาน ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ต.เกรียงศักดิ์ สุริโย รอง ผบช.ตชด. เป็น จตร (สบ.8) พล.ต.ต.ชลธาร จิราณรงค์ นรป.(สบ.7) เป็น นรป. (สบ.8) พล.ต.ต.ดิเรก มโนลีหกุล รอง ผบช.ส. เป็น ผบช.ประจำตร.
เมื่อสำรวจตรวจรายชื่อแล้วพบว่า มีแต่พวก “เด็กฝาก” นักการเมือง-เพื่อนพ้อง-น้องรัก ดาวตกใส่บนบ่า เก้าอี้ตกใส่ตีนได้ดิบได้ดีเป็นทิวแถว โดยเฉพาะเพื่อนร่วมรุ่นคนหน้าเหลี่ยม อาชญากร “ทักษิณ ชินวัตร” ถึงแม้เจ้าตัวไม่อยู่แต่บารมียังเกริกไกร ทำเอาตำรวจที่มุ่งมั่นทำแต่งานเส้นสายตื้นเขิน นั่งมองกันตาปริบๆ เป็นทิวแถว ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะสังคายนาองค์กรตำรวจให้หลุดจากวงจรอุบาทว์เสียที...
