แก๊งซิ่งกวนเมืองขับรถปิดถนนยังไม่หนำใจ ยังก่อเหตุอุกอาจทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบจนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุมีพลเมืองดีเห็นเหตุการณ์จำรถและทะเบียนที่คนร้ายขับหลบหนีได้ แถมยังมีจอดทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุอีก 1 คัน เจ้าหน้าที่ ตร.เร่งไล่ล่าตัวแก๊งซิ่งโหดกลุ่มนี้มาดำเนินคดีแล้ว
วันนี้ (13 ส.ค.) เมื่อเวลา 03.00 น. ร.ต.ท.สายัณห์ จันทะปัญญา พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน.พหลโยธิน ได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกทำร้ายเสียชีวิตที่ รพ.วิภาวดี ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ ด้วย พ.ต.อ.อาคม จันทนลาช ผกก.สน.พหลโยธิน และเจ้าหน้าที่.ฝ่ายสืบสวน ที่ รพ.พบผู้เสียชีวิต ชื่อ ด.ต.สำฤทธิ์ แต้มทอง อายุ 50 ปี ผบ.หมู่งานจราจร สน.วิภาวดี รหัส 5202 เสียชีวิตอยู่ในชุดเครื่องแบบ สวมทับด้วยเสื้อคลุมสีส้ม มีบาดแผลศีรษะด้านซ้ายแตก ตามร่างกายมีรอยฟกช้ำหลายแห่ง
จากการสอบสวน ร.ต.อ.ไพฑูรย์ รูปธรรม รองสว.จร.สน.วิภาวดี กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.00 น.ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีกลุ่มวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์และรถยนต์ จำนวนกว่า 100 คัน ปิดถนนเส้นวิภาวดีขาเข้า บริเวณห้างเซ็นทรัล สาขาลาดพร้าว ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ผู้ตายจึงขี่รถจักรยานยนต์ล่วงหน้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุก่อน ส่วนตนพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนหนึ่งขับรถกระบะตราโล่ห์ตามไป เมื่อตนไปถึงก็พบว่ากลุ่มวัยรุ่นพากันเร่งเครื่องขับรถรถหลบหนี จากนั้นก็ทราบจากพลเมืองดีว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกทำร้าย และคนร้ายได้ขับรถกระบะอีซูซุ แบบโหลดเตี้ยหลบหนีไป
ร.ต.อ.ไพฑูรย์ กล่าวต่อว่า เมื่อตนตรวจสอบที่เกิดเหตุก็พบว่า ด.ต.สัมฤทธิ์ นอนหมดสติอยู่ใกล้กับรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน อต 9737 ซึ่งอยู่ในลักษณะเปิดท้ายกระบะเอาไว้ ส่วนคนขับหลบหนีไป เจ้าหน้าที่กู้ภัยและตนจึงช่วยกันนำ ด.ต.สัมฤทธิ์ ส่ง รพ. แต่ก็เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา
ด้าน พ.ต.อ.อาคม กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำรถตู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาไว้ที่ สน.แล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบภายในรถพบแกลลอนน้ำมัน ขาตั้งรถ จยย. และอุปกรณ์ท่อรถ จยย.จำนวนมาก คาดว่าน่าจะเป็นรถทีมซ่อมของวัยรุ่นที่นำรถมาแข่งกัน และคาดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุทำร้าย ด.ต.สัมฤทธิ์ด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ารถตู้คันดังกล่าวเป็นของใคร นอกจากนี้หลังเกิดเหตุได้ให้กำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจออกสกัดตามเส้นทางต่างๆในละแวกใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุจนกระทั่งสามารถจับกุมตัวแก๊งซิ่งได้ จำนวน 5 คน จึงนำตัวมาสอบปากคำที่โรงพัก ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ ด.ต.สัมฤทธิ์
“ช่วงที่เกิดเหตุมีพลเมืองดีเห็นเหตุการณ์ จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำ ทราบว่ารถของคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้เป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ แบบโหลดเตี้ย และรู้หมายเลขทะเบียนแล้ว จากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามหาเบาะแสของคนร้ายและติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ต่อไป” พ.ต.อ.อาคม กล่าว