อินเตอร์แฟค ปรับทิศรุกคอมมูนิตี้มอลล์แข่งเดือด ชูสเปเชียลตี้คอมมูนิตี้มอลล์ มุ่งพัฒนาในศูนย์การค้ามากขึ้น ชูกลยุทธ์ร่วมทุนกับพันธมิตรลุย เผยผนึกกลุ่มคาร์ฟูร์เปิดย่านแจ้งวัฒนะ เล็งเข้าตลาด mai ปีหน้า มีคอมมูนิตี้มอลล์หลายแห่งไปไม่ไหวเจรจาให้รับบริหารและเทคโอเวอร์
นายศิรเดช ฐิตะฐาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์แฟค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกคอมมูนิตี้มอลล์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้ธุรกิจค้าปลีกประเภทคอมมูนิตี้มอลล์เริ่มมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น จากการที่มีผู้ประกอบการเข้ามาสู่ธุรกิจนี้เป็นจำนวนมากทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ตลอดจนผู้ประกอบการรายเก่าและรายใหม่ เนื่องจากเป็นธุรกิจค้าปลีกที่มีแนวโน้มสดใสและได้รับการตอบรับอย่างดีพร้อมกับตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้มาก
อย่างไรก็ตาม จากการที่มีแนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรงนี้เอง ส่งผลให้บริษัทได้ปรับแนวคิดและนโยบายในการทำงานใหม่ โดยจะหันมามุ่งเน้นการพัฒนาคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีลักษณะของความเป็นสเปเชียลตี้หรือคอมมูนิตี้มอลล์เฉพาะกลุ่มมากขึ้นจากเดิมที่พัฒนาคอมมูนิตี้มอลล์ทั่วไป เพื่อที่จะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งและสามารถโฟกัสธุรกิจและกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดและชัดเจนในแต่ละทำเลและโครงการ
นอกจากนั้น ยังจะใช้กลยุทธ์การร่วมทุนกับพันธมิตรมากขึ้นในการพัฒนาแต่ละโครงการ ทั้งการร่วมทุนหรือการดึงเข้ามาเป็นแม็กเน็ตของโครงการ รวมไปถึงการมุ่งพัฒนาสเปเชียลตี้มอลล์ในศูนย์การค้ามากขึ้นในลักษณะมอลล์อินมอลล์ จากเดิมที่มุ่งเน้นการพัฒนาเองและพัฒนาในรูปแบบสแตนด์อโลนเท่านั้น
สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการเจรจาและเตรียมการ คือ การร่วมมือกับทางคาร์ฟูร์ไฮเปอร์มาร์เก็ต ในการพัฒนา สเปเชียลตี้คอมมูนิตี้มอลล์ สาขาแรกบริเวณถนนงามวงศ์วาน ซึ่งคาดว่า จะลงทุนเบื้องต้นประมาณ 200 ล้านบาท พื้นที่รวมมากกว่า 10,000 ตารางเมตร ซึ่งในโครงการนี้บริษัทฯจะเป็นผู้บริหารและหาร้านค้ามาเช่าพื้นที่เปิดบริการ ซึ่งคาร์ฟูร์จะเป็นพันธมิตรหลักรายหนึ่งที่เข้ามาเปิดซูเปอร์มาร์เก็ต คาดว่า อีกประมาณ 2-3 เดือนจะสามารถสรุปรายละเอียดโครงการได้ ซึ่งกล่าวได้ว่าจะเป็นโครงการแรกที่ทำร่วมกับทางคาร์ฟูร์ในลักษณะสเปเชียลตี้คอมมูนิตี้มอลล์
การขยายงานอย่างเต็มที่นี้เองทำให้บริษัทวางแผน ว่า ภายในปีหน้าจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือตลาด mai และคาดว่า จะระดมทุนอย่างน้อย 100 ล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงการต่างๆ คาดว่า เมื่อเข้าตลาดหุ้นได้แล้วจะสามารถพัฒนาโครงการสเปเชียลตี้คอมมูนิตี้มอลล์ได้ไม่ต่ำกว่า 4-5 โครงการต่อปี ซึ่งขณะนี้ก็มีการเจรจากับทางเจ้าของโครงการศูนย์การค้าและเจ้าของพื้นที่หลายแห่งแล้ว เช่น เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เซ็นทรัลพัทยา เป็นต้น รวมทั้งที่ดินบริเวณรัชดาภิเษกและถนนเพชรเกษม และที่เมืองเอก เป็นต้น
นอกจากนั้น ก็มีเจ้าของโครงการคอมมูนิตี้มอลล์บางแห่งที่ติดต่อเข้ามาให้บริษัทไปรับช่วงการบริหารและการเข้าเทกโอเวอร์โครงการด้วยประมาณ 3-4 แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจา
ปัจจุบันบริษัทมีหลายโครงการที่เปิดบริการอยู่แล้วที่เป็นของบริษัทเองในหลายคอนเซ็ปต์ เช่น ซิตี้พลาซ่า, ซิตี้ชอป, และแบบคีออส เช่น วิคตอรี่มอนูเม้นท์ ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิฝั่งขาออก ซึ่งทำมานานกว่า 10 ปีแล้ว เจาะกลุ่มเป้าหมายที่เดินทางย่านนั้น และโครงการที่ดินแดง จับกลุ่มเป้าหมายนักศึกษาย่านนั้นเป็นหลัก มีพันธมิตรอย่างท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และคาราโอเกะของกลุ่มแกรมมี่ เปิดบริการแล้ว 1 ปี นอกนั้นก็มีการเปิดจุดขายคีออสของผลิตภัณฑ์หลวงดอยคำตามโมเดิร์นเทรดต่างๆ และในโรงพยาบาล สวนสาธารณะ ศูนย์ชุมชนต่างๆ เป็นต้น ทำมานานกว่า 2 แล้ว
นายศิรเดช กล่าวด้วยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายประมาณ 100 ล้านบาท จากเดิมปีที่แล้วที่มีรายได้กว่า 60 ล้านบาท
ล่าสุดคือ การจับมือร่วมกับทางกลุ่มพรไพลิน ในการตั้งบริษัท อินฟินิตี้ มอลล์ จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการเซ็นเตอร์พ้อยท์แอดเซ็นทรัลเวิลด์ บนพื้นที่ ชั้น 7 และชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์ พื้นที่รวม 10,000 ตารางเมตร ใช้งบประมาณรวม 10 ปี 1,200 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ปีแรกลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท
นายศิรเดช ฐิตะฐาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์แฟค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกคอมมูนิตี้มอลล์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้ธุรกิจค้าปลีกประเภทคอมมูนิตี้มอลล์เริ่มมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น จากการที่มีผู้ประกอบการเข้ามาสู่ธุรกิจนี้เป็นจำนวนมากทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ตลอดจนผู้ประกอบการรายเก่าและรายใหม่ เนื่องจากเป็นธุรกิจค้าปลีกที่มีแนวโน้มสดใสและได้รับการตอบรับอย่างดีพร้อมกับตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้มาก
อย่างไรก็ตาม จากการที่มีแนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรงนี้เอง ส่งผลให้บริษัทได้ปรับแนวคิดและนโยบายในการทำงานใหม่ โดยจะหันมามุ่งเน้นการพัฒนาคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีลักษณะของความเป็นสเปเชียลตี้หรือคอมมูนิตี้มอลล์เฉพาะกลุ่มมากขึ้นจากเดิมที่พัฒนาคอมมูนิตี้มอลล์ทั่วไป เพื่อที่จะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งและสามารถโฟกัสธุรกิจและกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดและชัดเจนในแต่ละทำเลและโครงการ
นอกจากนั้น ยังจะใช้กลยุทธ์การร่วมทุนกับพันธมิตรมากขึ้นในการพัฒนาแต่ละโครงการ ทั้งการร่วมทุนหรือการดึงเข้ามาเป็นแม็กเน็ตของโครงการ รวมไปถึงการมุ่งพัฒนาสเปเชียลตี้มอลล์ในศูนย์การค้ามากขึ้นในลักษณะมอลล์อินมอลล์ จากเดิมที่มุ่งเน้นการพัฒนาเองและพัฒนาในรูปแบบสแตนด์อโลนเท่านั้น
สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการเจรจาและเตรียมการ คือ การร่วมมือกับทางคาร์ฟูร์ไฮเปอร์มาร์เก็ต ในการพัฒนา สเปเชียลตี้คอมมูนิตี้มอลล์ สาขาแรกบริเวณถนนงามวงศ์วาน ซึ่งคาดว่า จะลงทุนเบื้องต้นประมาณ 200 ล้านบาท พื้นที่รวมมากกว่า 10,000 ตารางเมตร ซึ่งในโครงการนี้บริษัทฯจะเป็นผู้บริหารและหาร้านค้ามาเช่าพื้นที่เปิดบริการ ซึ่งคาร์ฟูร์จะเป็นพันธมิตรหลักรายหนึ่งที่เข้ามาเปิดซูเปอร์มาร์เก็ต คาดว่า อีกประมาณ 2-3 เดือนจะสามารถสรุปรายละเอียดโครงการได้ ซึ่งกล่าวได้ว่าจะเป็นโครงการแรกที่ทำร่วมกับทางคาร์ฟูร์ในลักษณะสเปเชียลตี้คอมมูนิตี้มอลล์
การขยายงานอย่างเต็มที่นี้เองทำให้บริษัทวางแผน ว่า ภายในปีหน้าจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือตลาด mai และคาดว่า จะระดมทุนอย่างน้อย 100 ล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงการต่างๆ คาดว่า เมื่อเข้าตลาดหุ้นได้แล้วจะสามารถพัฒนาโครงการสเปเชียลตี้คอมมูนิตี้มอลล์ได้ไม่ต่ำกว่า 4-5 โครงการต่อปี ซึ่งขณะนี้ก็มีการเจรจากับทางเจ้าของโครงการศูนย์การค้าและเจ้าของพื้นที่หลายแห่งแล้ว เช่น เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เซ็นทรัลพัทยา เป็นต้น รวมทั้งที่ดินบริเวณรัชดาภิเษกและถนนเพชรเกษม และที่เมืองเอก เป็นต้น
นอกจากนั้น ก็มีเจ้าของโครงการคอมมูนิตี้มอลล์บางแห่งที่ติดต่อเข้ามาให้บริษัทไปรับช่วงการบริหารและการเข้าเทกโอเวอร์โครงการด้วยประมาณ 3-4 แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจา
ปัจจุบันบริษัทมีหลายโครงการที่เปิดบริการอยู่แล้วที่เป็นของบริษัทเองในหลายคอนเซ็ปต์ เช่น ซิตี้พลาซ่า, ซิตี้ชอป, และแบบคีออส เช่น วิคตอรี่มอนูเม้นท์ ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิฝั่งขาออก ซึ่งทำมานานกว่า 10 ปีแล้ว เจาะกลุ่มเป้าหมายที่เดินทางย่านนั้น และโครงการที่ดินแดง จับกลุ่มเป้าหมายนักศึกษาย่านนั้นเป็นหลัก มีพันธมิตรอย่างท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และคาราโอเกะของกลุ่มแกรมมี่ เปิดบริการแล้ว 1 ปี นอกนั้นก็มีการเปิดจุดขายคีออสของผลิตภัณฑ์หลวงดอยคำตามโมเดิร์นเทรดต่างๆ และในโรงพยาบาล สวนสาธารณะ ศูนย์ชุมชนต่างๆ เป็นต้น ทำมานานกว่า 2 แล้ว
นายศิรเดช กล่าวด้วยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายประมาณ 100 ล้านบาท จากเดิมปีที่แล้วที่มีรายได้กว่า 60 ล้านบาท
ล่าสุดคือ การจับมือร่วมกับทางกลุ่มพรไพลิน ในการตั้งบริษัท อินฟินิตี้ มอลล์ จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการเซ็นเตอร์พ้อยท์แอดเซ็นทรัลเวิลด์ บนพื้นที่ ชั้น 7 และชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์ พื้นที่รวม 10,000 ตารางเมตร ใช้งบประมาณรวม 10 ปี 1,200 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ปีแรกลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท