ศาลฎีกาออกหมายจับ"แม้ว-อ้อ"ครั้งที่สอง เบี้ยวนัดรายงานตัว พร้อมยึดเงินประกัน 13 ล้านบาทให้แบงค์นำส่งภายใน 5 วัน หลังทนายแอบส่งผู้ช่วยยื่นคำร้อง ด้าน อสส.เรียกอัยการฝ่ายต่างประเทศศึกษา กม.ลี้ภัย-ผู้ร้ายข้ามแดนทันที แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ทนายเผยศาลไต่สวนพยานจำเลย 15 ส.ค.ตามกำหนดเดิม
วันนี้(11 ส.ค.)ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง เวลา 14.30 น.นายโกเมน สุวัฒิกะ และ น.ส.อัจฉรา ใหม่เอี่ยม ผู้ช่วยทนายความนายคำนวณ ชโลปถัมป์ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา จำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษกมูลค่า 772 ล้านบาท ได้เดินทางมายื่นคำร้องแถลงชี้แจงเหตุผลกรณีที่จำเลยทั้งสองเดินทางไปประเทศอังกฤษ ไม่เดินทางมารายงานตัวต่อองค์คณะฯตามกำหนดนัด ระบุว่า ทนายความได้รับรายงานจากผู้ประสานงานว่าจำเลยทั้งสองยังไม่ได้เดินทางกลับประเทศไทย และไม่สามารถเดินทางมารายงานตัวต่อศาลได้
โดยภายหลังที่ นายโกเมน และ น.ส.อัจฉรา ยื่นคำร้องเสร็จแล้วได้เดินลงบันไดอาคารศาลฎีกาฯอีกฟากหนึ่งขึ้นรถยนต์โตโยต้า อัลติส สีน้ำเงิน ทะเบียน วง 444 กทม. เพื่อหลบหนีผู้สื่อข่าวที่เฝ้ารออยู่บริเวณทางขึ้นอีกฟากหนึ่งโดยทั้งสองไม่ได้กลับมารับบัตรประจำตัวที่แลกไว้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยศาลในวันนี้ได้
ต่อมาเวลา 15.00 น.องค์คณะผู้พิพากษาฯพิจารณาคำร้องของจำเลยแล้วเห็นว่า จำเลยทั้งสองไม่เดินทางกลับประเทศไทยและมารายงานตัวต่อศาลภายในกำหนด เป็นการผิดสัญญาประกัน จึงมีคำสั่งให้ปรับจำเลยทั้งสองตามสัญญาประกัน ให้ธนาคารนำส่งเงินตามสัญญาประกันต่อศาลภายใน 5 วัน และให้ออกหมายจับจำเลยทั้งสอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสัญญาประกันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ทำไว้กับศาลฎีกาฯนั้น น.ส.พิณทองทา บุตรสาว ได้ใช้สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งมูลค่ารวมมูลค่า 15 ล้านบาทขอประกันตัวบิดาและมารดา โดยศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว พ.ต.ท.ทักษิณ โดยตีราคาประกันจำนวน 8 ล้านบาท ส่วนคุณหญิงพจมาน ตีราคาประกัน 5 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การที่ศาลออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ครั้งนี้ถือเป็นการออกหมายจับเป็นครั้งที่สองในคดีทุจริตที่ดินรัชดาภิเษก โดยครั้งแรกที่ศาลออกหมายจับเพื่อนำตัวมาแสดงต่อศาลและสอบคำให้การ หลังจากที่ อัยการสูงสุด ยื่นฟ้องคดีแล้วศาลมีคำสั่งรับฟ้อง ซึ่งขณะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ไปๆมาๆ กับประเทศฮ่องกง สิงคโปร์ หลังการทำรัฐประหารของคณะปฎิรูปการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค) เมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงให้สัมภาษณ์กับสื่อทั้งไทยและต่างประเทศ แสดงเจตนารมย์ว่าต้องการเดินทางกลับประเทศเพื่อมาต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม แต่ในที่สุดก็ถูกออกหมายจับอีกเป็นครั้งที่สอง ดังกล่าว
ด้านนายคำนวณ ชโลปถัมถ์ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน กล่าวว่า จะแจ้งคำสั่งศาลให้ผู้ประสานงานของทั้งสองทราบเพื่อแจ้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ทราบ สำหรับการไต่สวนพยานจำเลยในวันที่ 15 สิงหาคม เวลา 09.30 น. จะยังคงต้องดำเนินไปตามปกติ ส่วนจะแถลงต่อศาลขอยื่นคำให้การจำเลยทั้งสองเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่นั้น ต้องรอดูว่าในการไต่สวนพยานจำเลยวันที่ 15 สิงหาคม ศาลจะสอบถามตนในประเด็นใดบ้างหรือไม่ ซึ่งหากปรากฎว่าศาลยังไม่ติดใจสอบถามแล้ว ตนก็คงจะยังไม่ยื่นคำแถลงใดๆ
“ผมไม่ได้ติดต่อกับทั้งสองโดยตรง แต่มีผู้ประสานงานแจ้งให้ทราบ ผมก็ยังไม่ทราบว่าทั้งสองจะเดินทางกลับมาเมื่อใด โดยการเขียนคำร้องต่อศาลเป็นการแจ้งให้ทราบว่า ทั้งสองไม่สามารถเดินทางมารายงานตัวได้ โดยไม่ได้นำคำแถลงของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาประกอบคำร้องเพราะเป็นคนละส่วนกัน” นายคำนวณกล่าว
เมื่อถามว่ารู้สึกกังวลหรือไม่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ไม่เดินทางกลับมาต่อสู้คดี นายคำนวณ กล่าวว่า ไม่ เพราะในฐานะทนายความก็ทำตามหน้าที่ ส่วนกระบวนการพิจารณาจะเป็นอย่างไร ก็เป็นดุลพินิจของศาล
อย่างไรก็ดีในวันนี้มีรายงานว่าแจ้งจากสำนักงานอัยการสูงสุดด้วยว่า ภายหลังที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกแถลงการณ์มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่าจะไม่กลับมาต่อสู้คดีในศาลฎีกาฯ ตามกระบวนการยุติธรรมไทยแล้ว ในช่วงบ่ายวันนี้ ที่สำนักงานอัยการสูงสุด สนามหลวง นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด มีคำสั่งเรียกนายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ และอัยการฝ่ายต่างประเทศ เข้าพบเพื่อประชุมหารือศึกษาข้อกฎหมายระหว่างประเทศ เกี่ยวกับการขอลี้ภัย และ พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อหาแนวทางว่า อัยการจะสามารถดำเนินการตามหมายจับของศาลฎีกา นำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน จากประเทศอังกฤษกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยได้หรือไม่อย่างไร โดยยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
สำหรับบรรยากาศวันนี้ ที่ศาลฎีกาฯ ตั้งแต่ช่วงเช้ามีกองทัพสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์จำนวนมาก นำรถถ่ายทอดสดมาตั้งรอรายงานข่าว ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00 น.แต่ก็ไร้วี่แวว จนกระทั่งเมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ส่งแถลงการณ์ไปยังสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที ระบุว่า กระบวนการยุติธรรมไทยถูกแทรกแซงจึงไม่มีความปลอดภัย เมื่อติดต่อทีมทนายความกลับไปแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งส่งผู้ช่วยมายื่นคำร้องศาลดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานสำหรับคดีนี้องค์คณะผู้พิพากษาฯได้ดำเนินกระบวนการพิจารณาไต่สวนพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการไต่สวนพยานจำเลยซึ่งเหลือนัดอีกเพียง 3 นัด ในวันที่ 15, 19 และ วันที่ 22 ส.ค. โดย พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มีบัญชีรายชื่อที่จะต้องเข้าเบิกความในนัดวันที่ 22 ส.ค.อย่างไรก็ดีองค์คณะ ฯ ยังได้กำหนดวันนัดไต่สวนพยานเพิ่มเติมไว้อีก 2 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายวันที่ 2 กันยายน ก่อนจะมีคำสั่งกำหนดวันนัดฟังคำพิพากษาต่อไป
วันเดียวกัน พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา ว่า ขณะนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยังไม่ได้ส่งหมายจับดังกล่าวมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ถ้าศาลส่งมาถึง ผบ.ตร.แล้ว ก็ต้องพิจารณาในเรื่องข้อกฎหมาย ดูเรื่องสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งจะต้องพิจารณาว่าศาลออกหมายจับข้อกล่าวหาอะไร ซึ่งกระบวนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ก็ต้องขึ้นอยู่กับประเทศที่ร้องขอไปด้วย ว่าเข้าข่ายความผิดเหมือนกันทั้งสองประเทศ หรือไม่
"ตามกฎหมายใหม่ หน่วยงานที่จะรับผิดชอบโดยตรงในการพิจารณาข้อสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้น คือ อัยการสูงสุด ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะเป็นหน่วยสนับสนุนให้ความร่วมมือ ถ้าหากมีการประสานร้องขอความช่วยเหลือมา เบื้องต้นประเทศไทยกับอังกฤษก็มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกันอยู่ แต่จะต้องพิจารณาข้อกฎหมาย ตลอดทั้งข้อกล่าวหา ซึ่งจำเป็นต้องตรวจสอบเงื่อนไขอื่นๆอีกหลายประการ"โฆษกตร.กล่าว
วันนี้(11 ส.ค.)ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง เวลา 14.30 น.นายโกเมน สุวัฒิกะ และ น.ส.อัจฉรา ใหม่เอี่ยม ผู้ช่วยทนายความนายคำนวณ ชโลปถัมป์ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา จำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษกมูลค่า 772 ล้านบาท ได้เดินทางมายื่นคำร้องแถลงชี้แจงเหตุผลกรณีที่จำเลยทั้งสองเดินทางไปประเทศอังกฤษ ไม่เดินทางมารายงานตัวต่อองค์คณะฯตามกำหนดนัด ระบุว่า ทนายความได้รับรายงานจากผู้ประสานงานว่าจำเลยทั้งสองยังไม่ได้เดินทางกลับประเทศไทย และไม่สามารถเดินทางมารายงานตัวต่อศาลได้
โดยภายหลังที่ นายโกเมน และ น.ส.อัจฉรา ยื่นคำร้องเสร็จแล้วได้เดินลงบันไดอาคารศาลฎีกาฯอีกฟากหนึ่งขึ้นรถยนต์โตโยต้า อัลติส สีน้ำเงิน ทะเบียน วง 444 กทม. เพื่อหลบหนีผู้สื่อข่าวที่เฝ้ารออยู่บริเวณทางขึ้นอีกฟากหนึ่งโดยทั้งสองไม่ได้กลับมารับบัตรประจำตัวที่แลกไว้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยศาลในวันนี้ได้
ต่อมาเวลา 15.00 น.องค์คณะผู้พิพากษาฯพิจารณาคำร้องของจำเลยแล้วเห็นว่า จำเลยทั้งสองไม่เดินทางกลับประเทศไทยและมารายงานตัวต่อศาลภายในกำหนด เป็นการผิดสัญญาประกัน จึงมีคำสั่งให้ปรับจำเลยทั้งสองตามสัญญาประกัน ให้ธนาคารนำส่งเงินตามสัญญาประกันต่อศาลภายใน 5 วัน และให้ออกหมายจับจำเลยทั้งสอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสัญญาประกันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ทำไว้กับศาลฎีกาฯนั้น น.ส.พิณทองทา บุตรสาว ได้ใช้สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งมูลค่ารวมมูลค่า 15 ล้านบาทขอประกันตัวบิดาและมารดา โดยศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว พ.ต.ท.ทักษิณ โดยตีราคาประกันจำนวน 8 ล้านบาท ส่วนคุณหญิงพจมาน ตีราคาประกัน 5 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การที่ศาลออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ครั้งนี้ถือเป็นการออกหมายจับเป็นครั้งที่สองในคดีทุจริตที่ดินรัชดาภิเษก โดยครั้งแรกที่ศาลออกหมายจับเพื่อนำตัวมาแสดงต่อศาลและสอบคำให้การ หลังจากที่ อัยการสูงสุด ยื่นฟ้องคดีแล้วศาลมีคำสั่งรับฟ้อง ซึ่งขณะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ไปๆมาๆ กับประเทศฮ่องกง สิงคโปร์ หลังการทำรัฐประหารของคณะปฎิรูปการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค) เมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงให้สัมภาษณ์กับสื่อทั้งไทยและต่างประเทศ แสดงเจตนารมย์ว่าต้องการเดินทางกลับประเทศเพื่อมาต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม แต่ในที่สุดก็ถูกออกหมายจับอีกเป็นครั้งที่สอง ดังกล่าว
ด้านนายคำนวณ ชโลปถัมถ์ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน กล่าวว่า จะแจ้งคำสั่งศาลให้ผู้ประสานงานของทั้งสองทราบเพื่อแจ้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ทราบ สำหรับการไต่สวนพยานจำเลยในวันที่ 15 สิงหาคม เวลา 09.30 น. จะยังคงต้องดำเนินไปตามปกติ ส่วนจะแถลงต่อศาลขอยื่นคำให้การจำเลยทั้งสองเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่นั้น ต้องรอดูว่าในการไต่สวนพยานจำเลยวันที่ 15 สิงหาคม ศาลจะสอบถามตนในประเด็นใดบ้างหรือไม่ ซึ่งหากปรากฎว่าศาลยังไม่ติดใจสอบถามแล้ว ตนก็คงจะยังไม่ยื่นคำแถลงใดๆ
“ผมไม่ได้ติดต่อกับทั้งสองโดยตรง แต่มีผู้ประสานงานแจ้งให้ทราบ ผมก็ยังไม่ทราบว่าทั้งสองจะเดินทางกลับมาเมื่อใด โดยการเขียนคำร้องต่อศาลเป็นการแจ้งให้ทราบว่า ทั้งสองไม่สามารถเดินทางมารายงานตัวได้ โดยไม่ได้นำคำแถลงของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาประกอบคำร้องเพราะเป็นคนละส่วนกัน” นายคำนวณกล่าว
เมื่อถามว่ารู้สึกกังวลหรือไม่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ไม่เดินทางกลับมาต่อสู้คดี นายคำนวณ กล่าวว่า ไม่ เพราะในฐานะทนายความก็ทำตามหน้าที่ ส่วนกระบวนการพิจารณาจะเป็นอย่างไร ก็เป็นดุลพินิจของศาล
อย่างไรก็ดีในวันนี้มีรายงานว่าแจ้งจากสำนักงานอัยการสูงสุดด้วยว่า ภายหลังที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกแถลงการณ์มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่าจะไม่กลับมาต่อสู้คดีในศาลฎีกาฯ ตามกระบวนการยุติธรรมไทยแล้ว ในช่วงบ่ายวันนี้ ที่สำนักงานอัยการสูงสุด สนามหลวง นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด มีคำสั่งเรียกนายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ และอัยการฝ่ายต่างประเทศ เข้าพบเพื่อประชุมหารือศึกษาข้อกฎหมายระหว่างประเทศ เกี่ยวกับการขอลี้ภัย และ พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อหาแนวทางว่า อัยการจะสามารถดำเนินการตามหมายจับของศาลฎีกา นำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน จากประเทศอังกฤษกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยได้หรือไม่อย่างไร โดยยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
สำหรับบรรยากาศวันนี้ ที่ศาลฎีกาฯ ตั้งแต่ช่วงเช้ามีกองทัพสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์จำนวนมาก นำรถถ่ายทอดสดมาตั้งรอรายงานข่าว ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00 น.แต่ก็ไร้วี่แวว จนกระทั่งเมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ส่งแถลงการณ์ไปยังสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที ระบุว่า กระบวนการยุติธรรมไทยถูกแทรกแซงจึงไม่มีความปลอดภัย เมื่อติดต่อทีมทนายความกลับไปแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งส่งผู้ช่วยมายื่นคำร้องศาลดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานสำหรับคดีนี้องค์คณะผู้พิพากษาฯได้ดำเนินกระบวนการพิจารณาไต่สวนพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการไต่สวนพยานจำเลยซึ่งเหลือนัดอีกเพียง 3 นัด ในวันที่ 15, 19 และ วันที่ 22 ส.ค. โดย พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มีบัญชีรายชื่อที่จะต้องเข้าเบิกความในนัดวันที่ 22 ส.ค.อย่างไรก็ดีองค์คณะ ฯ ยังได้กำหนดวันนัดไต่สวนพยานเพิ่มเติมไว้อีก 2 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายวันที่ 2 กันยายน ก่อนจะมีคำสั่งกำหนดวันนัดฟังคำพิพากษาต่อไป
วันเดียวกัน พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา ว่า ขณะนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยังไม่ได้ส่งหมายจับดังกล่าวมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ถ้าศาลส่งมาถึง ผบ.ตร.แล้ว ก็ต้องพิจารณาในเรื่องข้อกฎหมาย ดูเรื่องสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งจะต้องพิจารณาว่าศาลออกหมายจับข้อกล่าวหาอะไร ซึ่งกระบวนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ก็ต้องขึ้นอยู่กับประเทศที่ร้องขอไปด้วย ว่าเข้าข่ายความผิดเหมือนกันทั้งสองประเทศ หรือไม่
"ตามกฎหมายใหม่ หน่วยงานที่จะรับผิดชอบโดยตรงในการพิจารณาข้อสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้น คือ อัยการสูงสุด ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะเป็นหน่วยสนับสนุนให้ความร่วมมือ ถ้าหากมีการประสานร้องขอความช่วยเหลือมา เบื้องต้นประเทศไทยกับอังกฤษก็มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกันอยู่ แต่จะต้องพิจารณาข้อกฎหมาย ตลอดทั้งข้อกล่าวหา ซึ่งจำเป็นต้องตรวจสอบเงื่อนไขอื่นๆอีกหลายประการ"โฆษกตร.กล่าว