xs
xsm
sm
md
lg

เพลิงเผาวอดตึกเก่าเวิ้งนาครเขษม 9 คูหา ดับ 1 ศพ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เพลิงไหม้ตึกเก่าเวิ้งนาครเขษม วอด 9 คูหา มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ต้นเพลิงเกิดจากร้านจำหน่ายเครื่องดนตรี ค่าเสียหายยังประเมินไม่ได้

วันนี้ (11 ส.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. พ.ต.ต.อธิลักขณ์ หวังศิริวรกุล พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.จักรวรรดิ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ เลขที่ 17-21 ซอยเจริญกรุง 8 ถนนเจริญกรุง แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กทม. หรือย่านเวิ้งนาครเขษม จึงประสานรถน้ำดับเพลิงจำนวน 15 คันรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เปิดเป็นร้านจำหน่ายเครื่องดนตรี ชื่อ “เพชรสยาม กรุ๊ป” เจ้าหน้าที่พบเพลิงลุกไหม้อาคารดังกล่าวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลุกลามไปห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีวัฒน์ แมชชินเนอรี่ ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ซึ่งตั้งอยู่ติดกัน เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิง แต่เนื่องจากซอยที่เกิดเหตุค่อนข้างแคบมีรถยนต์จอดขวางอยู่เป็นจำนวนมากอีกทั้งอาคารที่เกิดเหตุนั้นค่อนข้างเก่าจึงทำให้เศษปูน เศษกระจกหล่นลงมาด้านล่างทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานด้วยความยากลำบาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากใช้เวลาในการสกัดเพลิงนานประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยเบื้องต้นพบว่าเพลิงลุกไหม้อาคารเสียหายไปทั้งหมด 9 คูหา พบเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยได้รับบาดเจ็บสำลักควันไฟ และถูกของแข็งหล่นใส่ศีรษะ รวม 3 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาลกลาง 2 ราย และโรงพยาบาลหัวเฉียว 1 ราย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ทำการไล่น้ำที่ค้างอยู่ภายในตัวอาคารให้ลงมาสู่ถนน เนื่องจากเกรงว่าตัวอาคารจะเก็บน้ำไว้จำนวนมาก ประกอบกับภายในร้านเก็บอุปกรณ์เครื่องดนตรีไว้จำนวนมาก จนอาจจะทำให้ตัวอคารรับน้ำหนักไม่ไหวจนพังถล่มลงมา และอาจทำให้ประชาชนที่อยู่ในละแวกดังกล่าวได้รับอันตราย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากลูกสาวเจ้าของร้านที่เกิดเหตุว่า นายบุญเลิศ เบญจวาณิชย์ อายุ 66 ปี เจ้าของร้านดังกล่าวยังไม่ได้ออกมาจากร้านแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปค้นหาจนกระทั่งพบศพนายบุญเลิศนอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณหน้าห้องน้ำชั้น 1 ของอาคารที่เกิดเหตุจึงนำศพออกมา

จากการสอบสวน นายพิเชษฐ์ อัศวธีระเสถียร อายุ 65 ปี เจ้าของร้านเบ๊เต๊กล้ง จำหน่ายอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านที่เกิดเหตุให้การว่า หลังเกิดเพลิงไหม้ ภรรยาของกับลูกของนายบุญเลิศได้หลบหนีออกมานอกอาคารหมดแล้ว เหลือแต่เพียงนายบุญเลิศที่ยังติดอยู่ภายใน ภรรยาของนายบุญเลิศจึงวิ่งมาเรียกตนให้ไปช่วย แต่เปลวไฟโหมแรงมาก อีกทั้งควันไฟก็พุ่งออกมาอีกจำนวนมาก ทุกคนจึงวิ่งออกมา หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นอีก กระทั่งเจ้าหน้าที่จะนำรถดับเพลิงได้มาช่วยกันฉีดน้ำสกัดเพลิง

ด้าน นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประกาศให้อาคารที่เกิดเหตุเป็นเขตพื้นที่อันตราย เนื่องจากเป็นอาคารเก่าแก่ สร้างขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ.2490 โครงสร้างไม่เหมือนอาคารสมัยใหม่ เมื่อถูกเพลิงไหม้และมีน้ำที่ฉีดสกัดเพลิงเข้าไปกักอยู่ จึงอาจจะทำให้ถล่มลงมาได้ ทั้งนี้ อาคารที่เกิดเหตุนั้นเก็บของภายในร้านไว้เยอะเกินไป ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปสกัดเพลิงค่อนข้างลำบาก จะค้นหาศพผู้เสียชีวิตก็ยาก จึงฝากประชาสัมพันธ์ไปยังห้าร้านต่างๆ หากไม่จำเป็นก็ควรเก็บสินค้าแยกไว้อีกที่ เพราะถ้าเกิดเพลิงไหม้ขึ้นอีกจะได้ควบคุมเพลิงได้ทัน

ขณะที่ พ.ต.ต.อธิลักขณ์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ เนื่องจากสินค้าที่ถูกเพลิงเผาค่อนข้างมีราคาสูง อีกทั้งเพลิงยังได้ลุกลามไปยังห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีวัฒน์ แมชชินเนอรี่ ซึ่งอยู่ติดกับอาคารต้นเพลิง ซึ่งสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามจะประสานให้เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป
เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัดเพลิง
เจ้าหน้าที่นำศพนายบุญเลิศ เบญจวาณิชย์ ออกจากอาคารที่เกิดเหตุ
นายบุญเลิศ เบญจวาณิชย์ ผู้ตาย
กำลังโหลดความคิดเห็น