ปศท.โชว์ผลงานจับสินค้าปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า ซีดีและดีวีดีละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าหนีภาษีหลายรายการ พร้อมของกลางจำนวนมาก อีกรายรวบชาวฟิลิปปินส์ปลอมแปลงบัตรเครดิตนำไปรูดเสียหายกว่า 1 ล้าน
วันนี้ (7 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.สมเดช ขาวขำ รองผบช.ก. พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปศท. และพ.ต.อ.สาธิต ตชยภพ รอง ผบก.ปศท. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม สินค้าปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า ซีดีและดีวีดีละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าหนีภาษี และบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมจำนวนหลายราย พร้อมด้วยของกลางจำนวนมาก
รายแรก เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.อ.สาธิต ตชยภพ รอง ผบก.ปศท.ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 51/25 ม.8 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พบสินค้ากางเกงยีนส์ปลอมเครื่องหมายการค้าลีวายส์ จำนวน 500 ตัว กระดุมปลอมเครื่องหมายการค้าลีวายส์ จำนวน 42,000 เม็ด แผ่นป้ายที่มีเครื่องหมายการค้าลีวายส์อีกกว่า 45,000 ชิ้น เครื่องตอกรังดุมจำนวน 1 เครื่อง และจักรเย็บผ้าจำนวน 3 เครื่อง มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท โดยพบว่ามีนายขวัญชัย พรหมวิเศษ อายุ 25 ปี เป็นผู้ดูแลบ้านหลังดังกล่าว นอกจากนี้ จากการตรวจค้นภายในบ้านยังพบรถจักรยานยนต์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน สีฟ้า ขนาด 1450 ซีซี ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 1.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นสินค้าซุกซ่อนหนีภาษี เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาปลอมและมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่ปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ บก.ปศท.
รายที่ 2 วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำหมายศาลทรัพย์สินทางปัญญา เข้าตรวจค้นที่ห้องเลขที่ 94/140 ซ.กำนันแม้น7 แขวงและเขตบางบอน กทม. พบกางเกงยีนส์ปลอมเครื่องหมายการค้าลีวายส์ จำนวน 7,671 ตัว มูลค่าความเสียหายประมาณ 1 ล้านบาท รายที่ 3 เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นที่ร้านค้าเสื้อผ้า บริเวณชั้น 5 โบ๊เบ๊ทาวเวอร์ 2 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. พบกางเกงขาสั้นเลียนแบบเครื่องหมายการค้าจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายประมาณ 500,000 บาท จึงได้ควบคุมตัวผู้ดูแลร้านจำนวน 5 ราย มาสอบปากคำ ก่อนจะแจ้งข้อหาเสนอจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าเลียนเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร
รายที่ 4 เมื่อช่วงเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าตรวจค้นจับกุมแหล่งจำหน่ายสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ในย่านคลองถม, สนามเสือป่า และถนนสุขุมวิท ได้ของกลางเป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ประเภทซีดี ดีวีดีภาพยนตร์และเพลง จำนวน 150,000 แผ่น พร้อมผู้ต้องหา 224 ราย รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 20 ล้านบาท
รายสุดท้ายเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ชัยวัฒน์ ประดับไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปศท.ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเพ็ทล่าร์ จีซัส อิสกานี อายุ 35 ปี ชาวฟิลิปปินส์ ผู้ต้องหาปลอมแปลงบัตรเครดิต หลังจากสืบทราบว่ามีชาวต่างชาตินำเอาบัตรเครดิตของผู้อื่นไปใช้โดยมิชอบ จึงได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ได้รับความเสียหายเพื่อวางแผนจับกุม จนกระทั่งเมื่อวานที่ผ่านมาผู้ต้องหาได้นำบัตรเครดิตไปใช้ชำระค่าสินค้าต่างๆ ที่ไอทีซิตี้ สาขาพันธุ์ทิพย์พลาซ่า รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดประมาณ 1 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพบเอกสารปลอมหลายฉบับ และใบสลิปของธนาคารต่างๆ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำที่ บก.ปศท. ก่อนแจ้งข้อหาใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ, ปลอมและใช้หนังสือเดินทางปลอมและเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย
วันนี้ (7 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.สมเดช ขาวขำ รองผบช.ก. พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปศท. และพ.ต.อ.สาธิต ตชยภพ รอง ผบก.ปศท. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม สินค้าปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า ซีดีและดีวีดีละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าหนีภาษี และบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมจำนวนหลายราย พร้อมด้วยของกลางจำนวนมาก
รายแรก เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.อ.สาธิต ตชยภพ รอง ผบก.ปศท.ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 51/25 ม.8 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พบสินค้ากางเกงยีนส์ปลอมเครื่องหมายการค้าลีวายส์ จำนวน 500 ตัว กระดุมปลอมเครื่องหมายการค้าลีวายส์ จำนวน 42,000 เม็ด แผ่นป้ายที่มีเครื่องหมายการค้าลีวายส์อีกกว่า 45,000 ชิ้น เครื่องตอกรังดุมจำนวน 1 เครื่อง และจักรเย็บผ้าจำนวน 3 เครื่อง มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท โดยพบว่ามีนายขวัญชัย พรหมวิเศษ อายุ 25 ปี เป็นผู้ดูแลบ้านหลังดังกล่าว นอกจากนี้ จากการตรวจค้นภายในบ้านยังพบรถจักรยานยนต์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน สีฟ้า ขนาด 1450 ซีซี ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 1.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นสินค้าซุกซ่อนหนีภาษี เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาปลอมและมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่ปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ บก.ปศท.
รายที่ 2 วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำหมายศาลทรัพย์สินทางปัญญา เข้าตรวจค้นที่ห้องเลขที่ 94/140 ซ.กำนันแม้น7 แขวงและเขตบางบอน กทม. พบกางเกงยีนส์ปลอมเครื่องหมายการค้าลีวายส์ จำนวน 7,671 ตัว มูลค่าความเสียหายประมาณ 1 ล้านบาท รายที่ 3 เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นที่ร้านค้าเสื้อผ้า บริเวณชั้น 5 โบ๊เบ๊ทาวเวอร์ 2 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. พบกางเกงขาสั้นเลียนแบบเครื่องหมายการค้าจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายประมาณ 500,000 บาท จึงได้ควบคุมตัวผู้ดูแลร้านจำนวน 5 ราย มาสอบปากคำ ก่อนจะแจ้งข้อหาเสนอจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าเลียนเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร
รายที่ 4 เมื่อช่วงเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าตรวจค้นจับกุมแหล่งจำหน่ายสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ในย่านคลองถม, สนามเสือป่า และถนนสุขุมวิท ได้ของกลางเป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ประเภทซีดี ดีวีดีภาพยนตร์และเพลง จำนวน 150,000 แผ่น พร้อมผู้ต้องหา 224 ราย รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 20 ล้านบาท
รายสุดท้ายเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ชัยวัฒน์ ประดับไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปศท.ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเพ็ทล่าร์ จีซัส อิสกานี อายุ 35 ปี ชาวฟิลิปปินส์ ผู้ต้องหาปลอมแปลงบัตรเครดิต หลังจากสืบทราบว่ามีชาวต่างชาตินำเอาบัตรเครดิตของผู้อื่นไปใช้โดยมิชอบ จึงได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ได้รับความเสียหายเพื่อวางแผนจับกุม จนกระทั่งเมื่อวานที่ผ่านมาผู้ต้องหาได้นำบัตรเครดิตไปใช้ชำระค่าสินค้าต่างๆ ที่ไอทีซิตี้ สาขาพันธุ์ทิพย์พลาซ่า รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดประมาณ 1 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพบเอกสารปลอมหลายฉบับ และใบสลิปของธนาคารต่างๆ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำที่ บก.ปศท. ก่อนแจ้งข้อหาใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ, ปลอมและใช้หนังสือเดินทางปลอมและเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย
