กรมศุลกากรแถลงจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา และสินค้าหนีภาษี อาทิ บุหรี่ต่างประเทศ แผ่นดีวีดีภาพยนตร์ต่างประเทศ กระเป๋า กางเกงยีนส์ และสินค้าอื่นๆ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 61 ล้านบาท
วันนี้ (4 ธ.ค.) เวลา 11.00 น.นายอุทิศ ธรรมวาทิน อธิบดีกรมศุลกากร พร้อม นายสมชาย พูลสวัสดิ์ รองอธิบดีด้านปราบปราม และนายราฆพ ศรีศุภอรรถ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญาและสินค้าหนีภาษี อาทิ บุหรี่ต่างประเทศ แผ่นดีวีดีภาพยนตร์ต่างประเทศ กระเป๋า กางเกงยีนส์ และสินค้าอื่นๆ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 61 ล้านบาท
นายอุทิศ กล่าวว่า ตามที่กรมศุลกากรได้เร่งรัดปราบปรามสินค้าหนีภาษีศุลกากร ยาเสพติดให้โทษ สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา และสินค้าที่เป็นอันตรายต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี รวมทั้งปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม ตนจึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งรัดดำเนินการป้องกันและปราบปรามอย่างต่อ เนื่องจากผลการปฏิบัติงานตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา สามารถจับกุม แผ่นดีวีดีภาพยนตร์ต่างประเทศได้ จำนวน 45,000 แผ่น มูลค่าประมาณ 45 ล้านบาท และยาสูบ มูลค่าประมาณ 1.45 ล้านบาท โดยสามารถยึดของกลางได้ที่ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามศุลกากรปราณบุรี จับกุมสินค้าประเภทเสื้อผ้า และเครื่องประดับหลายรายการ มูลค่าประมาณ 2.37 ล้านบาท โดยสามารถยึดของกลางได้ที่ศูนย์ขนส่ง L.S.R.ถนนพุทธมณฑล สาย 2 จับกุมฝิ่นสุก มูลค่าประมาณ 2.4 ล้านบาท โดยสามารถยึดของกลางได้ที่ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ
นอกจากนี้ยังจับกุมสินค้าประเภทอื่นๆ อีกจำนวนมาก เช่น โทรศัพท์มือถือ ไม้แปรรูป และ บุหรี่ต่างประเทศ รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 61 ล้านบาท จึงได้ยึดของกลางทั้งหมดไว้ก่อนดำเนินการตามกฎหมายศุลกากรต่อไป
“ส่วนเรื่องที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปปิดสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้โดยสารและผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าทางการเกษตรที่เน่าเสียได้ง่าย ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งการท่าอากาศยานฯ ได้แก้ปัญหาโดยให้ขนถ่ายสินค้าและผู้โดยสารที่สนามบินอู่ตะเภาแทน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายไปในทางที่ดีแล้ว ทางกรมศุลกากรจึงได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติงาน ณ สำนักงานตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามปกติแล้วตั้งแต่วันนี้ (4 ธ.ค.) เป็นต้นไป” นายอุทิศ กล่าว
วันนี้ (4 ธ.ค.) เวลา 11.00 น.นายอุทิศ ธรรมวาทิน อธิบดีกรมศุลกากร พร้อม นายสมชาย พูลสวัสดิ์ รองอธิบดีด้านปราบปราม และนายราฆพ ศรีศุภอรรถ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญาและสินค้าหนีภาษี อาทิ บุหรี่ต่างประเทศ แผ่นดีวีดีภาพยนตร์ต่างประเทศ กระเป๋า กางเกงยีนส์ และสินค้าอื่นๆ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 61 ล้านบาท
นายอุทิศ กล่าวว่า ตามที่กรมศุลกากรได้เร่งรัดปราบปรามสินค้าหนีภาษีศุลกากร ยาเสพติดให้โทษ สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา และสินค้าที่เป็นอันตรายต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี รวมทั้งปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม ตนจึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งรัดดำเนินการป้องกันและปราบปรามอย่างต่อ เนื่องจากผลการปฏิบัติงานตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา สามารถจับกุม แผ่นดีวีดีภาพยนตร์ต่างประเทศได้ จำนวน 45,000 แผ่น มูลค่าประมาณ 45 ล้านบาท และยาสูบ มูลค่าประมาณ 1.45 ล้านบาท โดยสามารถยึดของกลางได้ที่ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามศุลกากรปราณบุรี จับกุมสินค้าประเภทเสื้อผ้า และเครื่องประดับหลายรายการ มูลค่าประมาณ 2.37 ล้านบาท โดยสามารถยึดของกลางได้ที่ศูนย์ขนส่ง L.S.R.ถนนพุทธมณฑล สาย 2 จับกุมฝิ่นสุก มูลค่าประมาณ 2.4 ล้านบาท โดยสามารถยึดของกลางได้ที่ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ
นอกจากนี้ยังจับกุมสินค้าประเภทอื่นๆ อีกจำนวนมาก เช่น โทรศัพท์มือถือ ไม้แปรรูป และ บุหรี่ต่างประเทศ รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 61 ล้านบาท จึงได้ยึดของกลางทั้งหมดไว้ก่อนดำเนินการตามกฎหมายศุลกากรต่อไป
“ส่วนเรื่องที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปปิดสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้โดยสารและผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าทางการเกษตรที่เน่าเสียได้ง่าย ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งการท่าอากาศยานฯ ได้แก้ปัญหาโดยให้ขนถ่ายสินค้าและผู้โดยสารที่สนามบินอู่ตะเภาแทน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายไปในทางที่ดีแล้ว ทางกรมศุลกากรจึงได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติงาน ณ สำนักงานตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามปกติแล้วตั้งแต่วันนี้ (4 ธ.ค.) เป็นต้นไป” นายอุทิศ กล่าว