โจ๋ฮอนด้าเมาซิ่งชน 6 ล้อบรรทุกน้ำของอปพร.ธนบุรี คนเจ็บเกลื่อนถนน 7 ราย ดับ 1 ราย โดย จนท.อปพร.บอกว่า จนท.พากันทำความสะอาดถนนจากคราบน้ำมันลื่น อยู่ดีๆ รถต้นเหตุก็บึ่งด้วยความเร็วพุ่งชนจนนอนเจ็บกระจัดกระจายไปทั่ว ขณะที่ ตร.ยังไม่ตั้งข้อหาต้องรถผลตรวจเลือดก่อน
วันนี้ (30 ก.ค.) เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.ท.กรวิท สุปะทัศ ร้อยเวร สน.บางขุนเทียน ได้รับแจ้งเหตุรถชนกันทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนนราชพฤกษ์ ช่วงกลางสะพานข้ามแยกวุฒากาศ ฝั่งมุ่งหน้าถนนกัลปพฤกษ์ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม.จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยหน่วยสายสัมพันธ์
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน บริเวณช่องทางเดินรถด้านซ้ายสุดพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ชห 5222 กทม.จอดอยู่ในสภาพพุ่งชนตัวถังซีกขวารถ 6 ล้อ บรรทุกน้ำของ อปพร.เขตธนบุรี ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น 13 วี ทะเบียน 98-3487 กทม. ซึ่งหยุดรถเปิดสัญญาณไซเรนขวางถนนอยู่ในลักษณะเฉียง หันหัวรถไปทางช่องทางเดินรถที่ 2 ทำให้รถคู่กรณีทั้ง 2 คันพังยับเยิน ส่วนผู้ขับขี่รถเก๋งคันดังกล่าวทราบชื่อต่อมา คือ นายคงศักดิ์ วีระจิตรเสริมชัย อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/30 ถนนวุฒากาศ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม.ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก และกำลังอยู่ในอาการมึนเมาไม่สามารถให้การได้ จึงถูกอายัดตัวไว้ก่อนนำส่งไปรักษาที่ รพ.พญาไท 3
นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ อปพร.สังกัดสำนักงานเขตธนบุรี ทั้งชายและหญิง ได้รับบาดเจ็บนอนกระจัดกระจายอยู่เกลื่อนถนนจำนวน 8 ราย ชุดกู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งไปรักษาที่ รพ.พญาไท 3 และ รพ.ตากสิน อย่างโกลาหล หลังได้รับการรักษาพยาบาลมีผู้บาดเจ็บจำนวน 6 ราย ที่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่ที่อาการสาหัสแพทย์ต้องรับตัวไว้ดูอาการต่อ คือ 1.น.ส.ดาวเรือง กันเอี่ยม อายุ 35 ปี มีบาดแผลที่บริเวณใบหน้า ขา และที่สะบักหลังนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตากสิน และ 2.น.ส.สาวิตรี แซ่เหลียง อายุ 25 ปี เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บจนหมดสติ และทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตลงที่ รพ.พญาไท 3 ในเวลาต่อมา
จากการสอบสวน นายจรูญ พัฒนะ อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่ อปพร.ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 00.30 น.ของวันเดียวกัน ตนได้รับแจ้งว่า มีคราบน้ำมันตกหล่นอยู่บนพื้นถนนตรงจุดที่เกิดเหตุ ทำให้มีรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านประสบอุบัติเหตุลื่นล้มจำนวนหลายคัน ตนพร้อมเพื่อนอาสาสมัครรวม 8 คน จึงได้นำรถบรรทุกน้ำขนขี้เลื่อยหลายกระสอบออกไปช่วยกลบคราบน้ำมันดังกล่าว โดยระหว่างที่ช่วยกันทำหน้าที่อยู่นั้นคนขับรถก็ได้นำรถไปจอดเฉียงในลักษณะขวางถนนบริเวณช่องทางด้านซ้ายสุด และเปิดสัญญาณไซเรนสีแดงเอาไว้ เพื่อส่งสัญญาณให้รถที่จะแล่นขึ้นสะพานทำการชะลอความเร็ว ป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับเจ้าหน้าที่ที่กำลังทำงาน
นายจรูญ กล่าวอีกว่า พวกตนใช้เวลากลบคราบน้ำมันประมาณ 20 นาที ระหว่างที่กำลังช่วยกันนำไม้กวาด พร้อมกระสอบบรรจุขี้เลื่อยขึ้นไปเก็บบนรถ เพื่อเดินทางกลับฐานที่ตั้งก็เหลือบไปเห็นรถคู่กรณีซึ่งขับมาจากถนนวุฒากาศ เร่งเครื่องขึ้นสะพานมาด้วยความเร็วสูง จนพุ่งเข้าชนที่ตัวถังด้านขวารถของพวกตนที่กำลังจอดปฏิบัติหน้าที่อยู่ ทำให้ทุกคนที่เก็บของอยู่บนรถกระเด็นหล่นไปกันคนละทิศคนละทาง จากนั้นนายคงศักดิ์ซึ่งเป็นคนขับรถคู่กรณี ก็ลงจากรถมาด้วยอาการมึนเมาพร้อมต่อว่า หาเรื่องพวกตนที่จอดรถขวางถนน และพยายามแจ้งเท็จกับตำรวจว่าถูกพวกตนรุมทำร้ายร่างกาย ทั้งๆ ที่นายคงศักดิ์ศีรษะแตกเพราะอุบัติเหตุ และเมื่อตำรวจทำการตรวจสอบที่กระโปรงท้ายรถของนายคงศักดิ์ก็ยังพบแผ่นป้ายทะเบียน ศฉ 2785 กทม. ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นทะเบียนปลอมซุกอยู่ที่ช่องเก็บยางอะไหล่อีกด้วย
ด้าน ร.ต.ท.กรวิท กล่าวว่า เบื้องต้นตนได้อายัดตัวนายคงศักดิ์เอาไว้แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อหาแต่อย่างใด เนื่องจากต้องรอผลตรวจเลือดจากแพทย์ก่อนว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์สูงมากแค่ไหน และรูปคดีก็ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า ฝ่ายใดเป็นผู้ประมาทกันแน่เพราะทางอาสาสมัครก็จอดรถขวางถนนอยู่เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุทางญาติๆ ของนายคงศักดิ์ได้แจ้งความประสงค์ที่จะเข้ามาช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลของผู้บาดเจ็บทุกราย และช่วยค่าทำศพสำหรับผู้เสียชีวิต ซึ่งก็ถือเป็นเหตุบรรเทาโทษได้ สำหรับป้ายทะเบียน ศฉ 2785 กทม.ที่พบในกระโปรงหลังรถตนได้ทำการตรวจสอบแล้ว เป็นป้ายทะเบียนของเจ้าของรถคนเก่า ซึ่งพอนายคงศักดิ์ซื้อรถมือสองมาก็ได้ไปขอประมูลเลขทะเบียน ชห 5222 กทม.จากขนส่งฯ มาใช้เป็นป้ายใหม่ เพราะเห็นว่าเป็นตัวเลขที่สวยกว่าก็เท่านั้นเอง
วันนี้ (30 ก.ค.) เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.ท.กรวิท สุปะทัศ ร้อยเวร สน.บางขุนเทียน ได้รับแจ้งเหตุรถชนกันทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนนราชพฤกษ์ ช่วงกลางสะพานข้ามแยกวุฒากาศ ฝั่งมุ่งหน้าถนนกัลปพฤกษ์ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม.จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยหน่วยสายสัมพันธ์
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน บริเวณช่องทางเดินรถด้านซ้ายสุดพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ชห 5222 กทม.จอดอยู่ในสภาพพุ่งชนตัวถังซีกขวารถ 6 ล้อ บรรทุกน้ำของ อปพร.เขตธนบุรี ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น 13 วี ทะเบียน 98-3487 กทม. ซึ่งหยุดรถเปิดสัญญาณไซเรนขวางถนนอยู่ในลักษณะเฉียง หันหัวรถไปทางช่องทางเดินรถที่ 2 ทำให้รถคู่กรณีทั้ง 2 คันพังยับเยิน ส่วนผู้ขับขี่รถเก๋งคันดังกล่าวทราบชื่อต่อมา คือ นายคงศักดิ์ วีระจิตรเสริมชัย อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/30 ถนนวุฒากาศ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม.ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก และกำลังอยู่ในอาการมึนเมาไม่สามารถให้การได้ จึงถูกอายัดตัวไว้ก่อนนำส่งไปรักษาที่ รพ.พญาไท 3
นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ อปพร.สังกัดสำนักงานเขตธนบุรี ทั้งชายและหญิง ได้รับบาดเจ็บนอนกระจัดกระจายอยู่เกลื่อนถนนจำนวน 8 ราย ชุดกู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งไปรักษาที่ รพ.พญาไท 3 และ รพ.ตากสิน อย่างโกลาหล หลังได้รับการรักษาพยาบาลมีผู้บาดเจ็บจำนวน 6 ราย ที่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่ที่อาการสาหัสแพทย์ต้องรับตัวไว้ดูอาการต่อ คือ 1.น.ส.ดาวเรือง กันเอี่ยม อายุ 35 ปี มีบาดแผลที่บริเวณใบหน้า ขา และที่สะบักหลังนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตากสิน และ 2.น.ส.สาวิตรี แซ่เหลียง อายุ 25 ปี เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บจนหมดสติ และทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตลงที่ รพ.พญาไท 3 ในเวลาต่อมา
จากการสอบสวน นายจรูญ พัฒนะ อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่ อปพร.ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 00.30 น.ของวันเดียวกัน ตนได้รับแจ้งว่า มีคราบน้ำมันตกหล่นอยู่บนพื้นถนนตรงจุดที่เกิดเหตุ ทำให้มีรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านประสบอุบัติเหตุลื่นล้มจำนวนหลายคัน ตนพร้อมเพื่อนอาสาสมัครรวม 8 คน จึงได้นำรถบรรทุกน้ำขนขี้เลื่อยหลายกระสอบออกไปช่วยกลบคราบน้ำมันดังกล่าว โดยระหว่างที่ช่วยกันทำหน้าที่อยู่นั้นคนขับรถก็ได้นำรถไปจอดเฉียงในลักษณะขวางถนนบริเวณช่องทางด้านซ้ายสุด และเปิดสัญญาณไซเรนสีแดงเอาไว้ เพื่อส่งสัญญาณให้รถที่จะแล่นขึ้นสะพานทำการชะลอความเร็ว ป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับเจ้าหน้าที่ที่กำลังทำงาน
นายจรูญ กล่าวอีกว่า พวกตนใช้เวลากลบคราบน้ำมันประมาณ 20 นาที ระหว่างที่กำลังช่วยกันนำไม้กวาด พร้อมกระสอบบรรจุขี้เลื่อยขึ้นไปเก็บบนรถ เพื่อเดินทางกลับฐานที่ตั้งก็เหลือบไปเห็นรถคู่กรณีซึ่งขับมาจากถนนวุฒากาศ เร่งเครื่องขึ้นสะพานมาด้วยความเร็วสูง จนพุ่งเข้าชนที่ตัวถังด้านขวารถของพวกตนที่กำลังจอดปฏิบัติหน้าที่อยู่ ทำให้ทุกคนที่เก็บของอยู่บนรถกระเด็นหล่นไปกันคนละทิศคนละทาง จากนั้นนายคงศักดิ์ซึ่งเป็นคนขับรถคู่กรณี ก็ลงจากรถมาด้วยอาการมึนเมาพร้อมต่อว่า หาเรื่องพวกตนที่จอดรถขวางถนน และพยายามแจ้งเท็จกับตำรวจว่าถูกพวกตนรุมทำร้ายร่างกาย ทั้งๆ ที่นายคงศักดิ์ศีรษะแตกเพราะอุบัติเหตุ และเมื่อตำรวจทำการตรวจสอบที่กระโปรงท้ายรถของนายคงศักดิ์ก็ยังพบแผ่นป้ายทะเบียน ศฉ 2785 กทม. ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นทะเบียนปลอมซุกอยู่ที่ช่องเก็บยางอะไหล่อีกด้วย
ด้าน ร.ต.ท.กรวิท กล่าวว่า เบื้องต้นตนได้อายัดตัวนายคงศักดิ์เอาไว้แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อหาแต่อย่างใด เนื่องจากต้องรอผลตรวจเลือดจากแพทย์ก่อนว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์สูงมากแค่ไหน และรูปคดีก็ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า ฝ่ายใดเป็นผู้ประมาทกันแน่เพราะทางอาสาสมัครก็จอดรถขวางถนนอยู่เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุทางญาติๆ ของนายคงศักดิ์ได้แจ้งความประสงค์ที่จะเข้ามาช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลของผู้บาดเจ็บทุกราย และช่วยค่าทำศพสำหรับผู้เสียชีวิต ซึ่งก็ถือเป็นเหตุบรรเทาโทษได้ สำหรับป้ายทะเบียน ศฉ 2785 กทม.ที่พบในกระโปรงหลังรถตนได้ทำการตรวจสอบแล้ว เป็นป้ายทะเบียนของเจ้าของรถคนเก่า ซึ่งพอนายคงศักดิ์ซื้อรถมือสองมาก็ได้ไปขอประมูลเลขทะเบียน ชห 5222 กทม.จากขนส่งฯ มาใช้เป็นป้ายใหม่ เพราะเห็นว่าเป็นตัวเลขที่สวยกว่าก็เท่านั้นเอง