ตำรวจ 191 ขับรถไล่ล่ารถคนร้ายตระเวนฉกฝาท่อเหล็กของทีโอที สุดท้ายคนร้ายจนมมุม จับได้ 2 คน พร้อมของกลาง 14 ฝา ส่วนหัวหน้าแก๊ง วิ่งลงจากรถหลบหนีไปได้ ตำรวจขยายผลจับเจ้าของร้านรับซื้อของเก่าที่รับซื้อท่า พบรถเข็นซูเปอร์มาเก็ตของห้างบิ๊กซีอีก 27 คัน และรถเข็นที่ถูกถอดแล้วอีก 15 คัน
วันนี้ (14 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.ท.ภาสกร สถิตยุทธการ รองผกก.1 บก.ตปพ. ร.ต.อ.ฉัตรชัย ไหมวันทา รอง สว.งานสายตรวจ 3 กก.1 บก.ตปพ.พร้อมตำรวจในสังกัด แถลงการจับกุม นายสุภาพ กรเจริญ อายุ 36 ปี นายปัญญา ทิพย์สงวน อายุ 37 ปี และนางนันทิมา เหรียญเจริญ อายุ 55 ปี เจ้าของร้านรับซื้อของเก่าฮงเส็ง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี พร้อมของกลาง ฝาท่อเหล็กของท่อร้อยสายของ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) จำนวน 14 ฝา อุปกรณ์งัดแงะไขควง กรรไก คีม และตะขอเกี่ยวฝาท่ออีก 2 อัน หนังสติ๊ก 1 อัน เงินสด 5,500 บาท รถกระบะมาสด้าสีบรอนซ์เเทา ทะเบียน บม 537 ราชบุรี 1 คัน
พ.ต.ท.ภาสกร เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 03.00 น.วันนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่งานสายตรวจ 3 ออกปฏิบัติหน้าที่ พบรถกระบะคันดังกล่าว ลักษณะมีพิรุธ จึงแสดงตัวเข้าขอตรวจค้น แต่คนขับรถกระบะคันดังกล่าว กลับเร่งเครื่องขรับหลบหนี ตำรวจจึงขับรถไล่ติดตาม พร้อมวิทยุประสานการสกัดจับ จนกระทั่งสามารถสกัดจับรถกระบะคันดังกล่าวไว้ได้ที่บริเวณสะพานยกระดับ ถนนกัลปพฤกษ์ตัดถนนกาญจนาภิเษก และสามารถุจับกุม นายสุภาพ กับ นายปัญญา ไว้ได้ โดยมีผู้ต้องหาอีกคน ทราบภายหลังชื่อ นายสมชาย กรเจริญ อายุ 40 ปี เป็นพี่ชายของ นายสุภาพ วิ่งหลบหนีลงจากรถรอดพ้นการจับกุมไปได้ และเมื่อตรวจสอบภายในกระบะรถพบฝาท่อจำนวนดังกล่าว จึงยึดไว้เป็นของกลาง จากนั้นควบคุมตัวมาสอบปากคำ
พ.ต.ท.ภาสกร กล่าวว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่า ปกติมีอาชีพเป็นคนงานปอกมะพร้าวอยู่ใน จ.เพชรบุรี โดยเพิ่งซื้อรถกระบะคันดังกล่าวมา แต่ไม่มีเงินส่งค่างวดรถ ทางนายสมชาย จึงได้มาชวนให้ขับรถตระเวณลักฝาท่อ ซึ่งทำมาแล้ว 2-3 ครั้ง แต่ละครั้ง นายสมชาย จะเป็นผู้นำฝาท่อไปขายให้กับนางนันทิมา จากนั้นจึงนำเงินมาแบ่งกัน
ต่อมา ตำรวจติดตามไปจับกุมตัวนางนันทิมาได้ที่ร้านรับซื้อของเก่าใน อ.เขาย้อย โดยจากการตรวจค้นภายในร้านดังกล่าว ยังพบ พบรถเข็นสำหรับบริการลูกค้าในซูเปอร์มาเก็ต ห้างบิ๊กซี สาขาคลอง 6 ในสภาพพร้อมใช้งานจำนวน 27 คัน และพบรถเข็นที่ถูกชำแหละเป็นเศษเหล็กรวม 15 คัน ซึ่งจากการสอบปากคำ นางนันทิมา ในเบื้องต้นอ้างว่า มีผู้นำมาขายให้ โดยบอกว่า เป็นรถเข็นที่ชำรุดแล้วใช้งานไม่ได้ จึงได้รับซื้อไว้
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา นายสุภาพ และ นายปัญญา ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ลักสิ่งของสาธารณะหรือของหลวง ทรัพย์สินของราชการในเวลากลางคืน และหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วน นางนันทิมา แจ้งข้อหารับซื้อของโจร จากนั้นควบคุมตัวไว้สอบสวนและดำเนินคดีต่อไป สำหรับ นายสมชาย ตำรวจจะได้ดำเนินการขอนุมัติศาลออกหมายจับ และติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้ต่อไป
วันนี้ (14 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.ท.ภาสกร สถิตยุทธการ รองผกก.1 บก.ตปพ. ร.ต.อ.ฉัตรชัย ไหมวันทา รอง สว.งานสายตรวจ 3 กก.1 บก.ตปพ.พร้อมตำรวจในสังกัด แถลงการจับกุม นายสุภาพ กรเจริญ อายุ 36 ปี นายปัญญา ทิพย์สงวน อายุ 37 ปี และนางนันทิมา เหรียญเจริญ อายุ 55 ปี เจ้าของร้านรับซื้อของเก่าฮงเส็ง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี พร้อมของกลาง ฝาท่อเหล็กของท่อร้อยสายของ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) จำนวน 14 ฝา อุปกรณ์งัดแงะไขควง กรรไก คีม และตะขอเกี่ยวฝาท่ออีก 2 อัน หนังสติ๊ก 1 อัน เงินสด 5,500 บาท รถกระบะมาสด้าสีบรอนซ์เเทา ทะเบียน บม 537 ราชบุรี 1 คัน
พ.ต.ท.ภาสกร เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 03.00 น.วันนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่งานสายตรวจ 3 ออกปฏิบัติหน้าที่ พบรถกระบะคันดังกล่าว ลักษณะมีพิรุธ จึงแสดงตัวเข้าขอตรวจค้น แต่คนขับรถกระบะคันดังกล่าว กลับเร่งเครื่องขรับหลบหนี ตำรวจจึงขับรถไล่ติดตาม พร้อมวิทยุประสานการสกัดจับ จนกระทั่งสามารถสกัดจับรถกระบะคันดังกล่าวไว้ได้ที่บริเวณสะพานยกระดับ ถนนกัลปพฤกษ์ตัดถนนกาญจนาภิเษก และสามารถุจับกุม นายสุภาพ กับ นายปัญญา ไว้ได้ โดยมีผู้ต้องหาอีกคน ทราบภายหลังชื่อ นายสมชาย กรเจริญ อายุ 40 ปี เป็นพี่ชายของ นายสุภาพ วิ่งหลบหนีลงจากรถรอดพ้นการจับกุมไปได้ และเมื่อตรวจสอบภายในกระบะรถพบฝาท่อจำนวนดังกล่าว จึงยึดไว้เป็นของกลาง จากนั้นควบคุมตัวมาสอบปากคำ
พ.ต.ท.ภาสกร กล่าวว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่า ปกติมีอาชีพเป็นคนงานปอกมะพร้าวอยู่ใน จ.เพชรบุรี โดยเพิ่งซื้อรถกระบะคันดังกล่าวมา แต่ไม่มีเงินส่งค่างวดรถ ทางนายสมชาย จึงได้มาชวนให้ขับรถตระเวณลักฝาท่อ ซึ่งทำมาแล้ว 2-3 ครั้ง แต่ละครั้ง นายสมชาย จะเป็นผู้นำฝาท่อไปขายให้กับนางนันทิมา จากนั้นจึงนำเงินมาแบ่งกัน
ต่อมา ตำรวจติดตามไปจับกุมตัวนางนันทิมาได้ที่ร้านรับซื้อของเก่าใน อ.เขาย้อย โดยจากการตรวจค้นภายในร้านดังกล่าว ยังพบ พบรถเข็นสำหรับบริการลูกค้าในซูเปอร์มาเก็ต ห้างบิ๊กซี สาขาคลอง 6 ในสภาพพร้อมใช้งานจำนวน 27 คัน และพบรถเข็นที่ถูกชำแหละเป็นเศษเหล็กรวม 15 คัน ซึ่งจากการสอบปากคำ นางนันทิมา ในเบื้องต้นอ้างว่า มีผู้นำมาขายให้ โดยบอกว่า เป็นรถเข็นที่ชำรุดแล้วใช้งานไม่ได้ จึงได้รับซื้อไว้
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา นายสุภาพ และ นายปัญญา ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ลักสิ่งของสาธารณะหรือของหลวง ทรัพย์สินของราชการในเวลากลางคืน และหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วน นางนันทิมา แจ้งข้อหารับซื้อของโจร จากนั้นควบคุมตัวไว้สอบสวนและดำเนินคดีต่อไป สำหรับ นายสมชาย ตำรวจจะได้ดำเนินการขอนุมัติศาลออกหมายจับ และติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้ต่อไป
