กองปราบฯ ตามรวบแก๊งกรรโชกทรัพย์ปลอมตัวเป็นนายตำรวจ ลวงเหยื่อไปเคลียร์หนี้ 10 ล้านกับเจ้าหนี้ จนทั้งสองฝ่ายตกลงได้กลับวางแผนรีดเงินเหยื่อซ้ำอีก 2.5 แสน อ้างเป็นค่าดำเนินการทวงหนี้ เหยื่อสุดทนแจ้งกองปราบฯ ก่อนตามรวบได้ยกแก๊ง
วันนี้ (26 ก.ค.) เมื่อเวลา 18.00 น. ที่กองปราบ พ.ต.อ.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.พิษณุ อุณหาเสรี รอง ผกก.ฝป.10 บก.ป. ร่วมกันจับกุมนายเอกอมร หรือธนาชัย พิณสกุล อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 800/225 สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. นายวีระพล บุญยัง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/5 หมู่ 10 แขวงและเขตบางบอน กทม.และ นายฮี บุน เลียง (ซังฮี้) อายุ 50 ปี ชาวสิงคโปร์ พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม. และเครื่องกระสุนปืนจำนวน 22 นัด รถยนต์โตโยต้า รุ่นอัลติส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษร 8937 กรุงเทพมหานคร เงินสด 3 หมื่นบาท กล้องวิดีโอ และโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง นอกจากนี้ยังพบบัตรประจำสำนักงานประสานงานชายแดนศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ระบุชื่อ นายวีระพล และบัตรข้าราชการตำรวจสืบสวนนครบาล ฝ่ายประสานงาน กก.สส.บก.น.7 ระบุชื่อชื่อนายวีระพล ซึ่งบัตรทั้งหมดเป็นบัตรปลอม หลังจากได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าถูกแก๊งดังกล่าวข่มขู่กรรโชกทรัพย์
พ.ต.อ.ฐิติราช กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามรับแจ้งจากนายทัน คา บุน อายุ 36 ปี ชาวสิงคโปร์ อยู่บ้านเลขที่ 609/153 ซ.นวมินทร์ 137 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุม กทม. ทำธุรกิจค้าขายของวัตถุโบราณและส่งออกนอกประเทศ ว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 5 คนเดินทางมาที่บ้านพร้อมอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยแต่งกายนอกเครื่องแบบ ซึ่งกลุ่มคนร้ายอ้างว่านายทัน คา บุน มีความผิดเกี่ยวข้องกับหนังสือเดินทางขอให้ไปให้ปากคำที่ สน.บางชัน
จากนั้นผู้เสียหายจึงเดินทางไปที่ สน.บางชัน แต่ชายฉกรรจ์ดังกล่าวไม่ได้พาไปที่ สน. กลับพาไปป้อมยามเก่าๆ ข้าง สน. และพบนายเดเนียล ลิน ชาวสิงค์โปร์ เพื่อนและเจ้าหนี้ของผู้เสียหาย โดยนายเดเนียลทวงถามเงินจากผู้เสียหายที่ติดหนี้ประมาณ 10 ล้าน ทั้งคู่เจรจาขอผ่อนผันใช้เงินเดือนละ 5 หมื่นบาท ทำให้ชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวปล่อยตัวผู้เสียหายและภรรยา
พ.ต.อ.ฐิติราช กล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 26 กรกฎาคม ผู้เสียหายได้รับโทรศัพท์จากชายคนหนึ่งที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศร้อยตำรวจเอกว่าให้นำเงินจำนวน 2.5 แสนบาท มามอบให้เป็นค่าดำเนินการในการทวงเงิน โดยนัดมอบเงินกันที่ตลาดนัดนวมินทร์ ซ.นวมินทร์ 39 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนเข้าจับกุม หลังจากผู้เสียหายมอบเงินให้กลุ่มชายดังกล่าวแล้ว จากนั้นนำมาสอบสวนที่กองปราบปราม พร้อมกับแจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุน
“เชื่อว่ากลุ่มผู้ต้องหาเป็นแก๊งรับจ้างทวงหนี้ ตอนแรกเจ้าหนี้จ้างให้มาทวงเงินกับผู้เสียหายจริง แต่ครั้งหลังที่มาเรียกเก็บเงินจำนวน 2.5 แสนบาทกับผู้เสียหายน่าจะดำเนินการกันเองไม่เกี่ยวกับเจ้าหนี้ เบื้องต้นนายเอกอมรรับสารภาพว่าพรรคพวกรับจ้างทวงหนี้โดยเงินส่วนที่เรียกเก็บจากผู้เสียหายเป็นเงินค่าดำเนินการที่นายเดเนียลให้มาทวงหนี้ ไม่ได้ข่มขู่แต่อย่างใด” พ.ต.อ.ฐิติราช กล่าว
วันนี้ (26 ก.ค.) เมื่อเวลา 18.00 น. ที่กองปราบ พ.ต.อ.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.พิษณุ อุณหาเสรี รอง ผกก.ฝป.10 บก.ป. ร่วมกันจับกุมนายเอกอมร หรือธนาชัย พิณสกุล อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 800/225 สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. นายวีระพล บุญยัง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/5 หมู่ 10 แขวงและเขตบางบอน กทม.และ นายฮี บุน เลียง (ซังฮี้) อายุ 50 ปี ชาวสิงคโปร์ พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม. และเครื่องกระสุนปืนจำนวน 22 นัด รถยนต์โตโยต้า รุ่นอัลติส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษร 8937 กรุงเทพมหานคร เงินสด 3 หมื่นบาท กล้องวิดีโอ และโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง นอกจากนี้ยังพบบัตรประจำสำนักงานประสานงานชายแดนศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ระบุชื่อ นายวีระพล และบัตรข้าราชการตำรวจสืบสวนนครบาล ฝ่ายประสานงาน กก.สส.บก.น.7 ระบุชื่อชื่อนายวีระพล ซึ่งบัตรทั้งหมดเป็นบัตรปลอม หลังจากได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าถูกแก๊งดังกล่าวข่มขู่กรรโชกทรัพย์
พ.ต.อ.ฐิติราช กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามรับแจ้งจากนายทัน คา บุน อายุ 36 ปี ชาวสิงคโปร์ อยู่บ้านเลขที่ 609/153 ซ.นวมินทร์ 137 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุม กทม. ทำธุรกิจค้าขายของวัตถุโบราณและส่งออกนอกประเทศ ว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 5 คนเดินทางมาที่บ้านพร้อมอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยแต่งกายนอกเครื่องแบบ ซึ่งกลุ่มคนร้ายอ้างว่านายทัน คา บุน มีความผิดเกี่ยวข้องกับหนังสือเดินทางขอให้ไปให้ปากคำที่ สน.บางชัน
จากนั้นผู้เสียหายจึงเดินทางไปที่ สน.บางชัน แต่ชายฉกรรจ์ดังกล่าวไม่ได้พาไปที่ สน. กลับพาไปป้อมยามเก่าๆ ข้าง สน. และพบนายเดเนียล ลิน ชาวสิงค์โปร์ เพื่อนและเจ้าหนี้ของผู้เสียหาย โดยนายเดเนียลทวงถามเงินจากผู้เสียหายที่ติดหนี้ประมาณ 10 ล้าน ทั้งคู่เจรจาขอผ่อนผันใช้เงินเดือนละ 5 หมื่นบาท ทำให้ชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวปล่อยตัวผู้เสียหายและภรรยา
พ.ต.อ.ฐิติราช กล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 26 กรกฎาคม ผู้เสียหายได้รับโทรศัพท์จากชายคนหนึ่งที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศร้อยตำรวจเอกว่าให้นำเงินจำนวน 2.5 แสนบาท มามอบให้เป็นค่าดำเนินการในการทวงเงิน โดยนัดมอบเงินกันที่ตลาดนัดนวมินทร์ ซ.นวมินทร์ 39 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนเข้าจับกุม หลังจากผู้เสียหายมอบเงินให้กลุ่มชายดังกล่าวแล้ว จากนั้นนำมาสอบสวนที่กองปราบปราม พร้อมกับแจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุน
“เชื่อว่ากลุ่มผู้ต้องหาเป็นแก๊งรับจ้างทวงหนี้ ตอนแรกเจ้าหนี้จ้างให้มาทวงเงินกับผู้เสียหายจริง แต่ครั้งหลังที่มาเรียกเก็บเงินจำนวน 2.5 แสนบาทกับผู้เสียหายน่าจะดำเนินการกันเองไม่เกี่ยวกับเจ้าหนี้ เบื้องต้นนายเอกอมรรับสารภาพว่าพรรคพวกรับจ้างทวงหนี้โดยเงินส่วนที่เรียกเก็บจากผู้เสียหายเป็นเงินค่าดำเนินการที่นายเดเนียลให้มาทวงหนี้ ไม่ได้ข่มขู่แต่อย่างใด” พ.ต.อ.ฐิติราช กล่าว
