สันติบาลรวบแก๊งค้ามนุษย์ชาวพม่า คาห้างดังย่านประตูน้ำ หลังชาวพม่าเข้าร้องเรียนลูกชายถูกล่อลวงเข้ามาทำงานในไทย แถมถูกกักขังเรียกค่าไถ่ ก่อนวางแผนจับกุมรวบผู้ต้องหาได้ทั้งหมด ขยายผลตรวจค้นทาวน์เฮาส์ย่านพระโขนงพบชาวพม่าอีก 5 คน ถูกล่อลวงมาเป็นคนงาน ตร. เชื่อมีคนไทยเอี่ยวด้วย
วันนี้ (23 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจสันติบาล 2 พล.ต.ต.สุรวุฒิ กลัดศิริ ผบก.ส.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภชัย ฟื้นพานิช ผกก.3 บก.ส.2 แถลงผลการจับกุมนายวิรัตน์ อายุ 29 ปี สัญชาติพม่า นายลาจิต อายุ 29 ปี สัญชาติพม่า และนายโกบิน อายุ 29 ปี สัญชาติพม่า ผู้ต้องหากระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551, กักขังหน่วงเหนี่ยวและพยายามกรรโชกทรัพย์
พล.ต.ต.สุรวุฒิ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก บก.ส.2 ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ กองบัญชาการทหารสูงสุด ว่าได้รับแจ้งจากนางดอนลี อายุ 53 ปี สัญชาติพม่า ว่านายลามู อายุ 23 ปีลูกชายถูกคนร้ายนำตัวมาจากประเทศพม่า และนำมากักขังไว้ที่บ้านในกทม. หากจะให้ปล่อยตัวจะต้องนำเงินสดจำนวน 23,000 บาทไปไถ่ตัว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.อ.ศุภชัย ฟื้นพานิช ผกก.3 บก.ส.2 พ.ต.ท.สถิตพร บุณยรัตนพันธ์ รองผกก.3 บก.ส.2 พ.ต.ท.เอกภพ ธรรมาธิกุล สว.กก.3 บก.ส.2 พร้อมพวกจึงได้วางแผนการจับกุมโดยนำเงินสดมอบให้นางดอนลีนำไปให้คนร้ายที่ศูนย์การค้าประตูน้ำเซ็นเตอร์ โดยนัดส่งมอบเงิน เวลา 16.00 น.วันที่ 22 กรกฎาคม 2551
พล.ต.ต.สุรวุฒิ กล่าต่อว่า เมื่อถึงเวลานัดเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม นายวิรัตน์ และนายลาจิต ที่มารับเงิน ก่อนขยายผลไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 84/1 ถ.สุขุมวิท 62 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เปิดเป็นโรงงานทำขนมเค้ก พบนายลามูถูกกักขังอยู่ร่วมกับ นายกันชา อายุ 30 ปี และนายโซ อายุ 24 ปี ซึ่งถูกกักขังเพื่อรอเรียกค่าไถ่ด้วย นอกจากนี้ยังพบชาวพม่าอีก 5 คน ซึ่งถูกล่อลวงมาเป็นคนงานทำขนมเค้กและถูกกักขังไม่ให้ออกไปไหนได้ โดยเหยื่อทั้งหมดถูกควบคุมโดยนายโกบิน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาดำเนินคดี พร้อมกับช่วยเหลือเหยื่อทั้งหมด
พล.ต.ต.สุรวุฒิ กล่าวด้วยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 พูดไทยได้และมีหนังสือเดินทางถูกต้อง เพราะอยู่ประเทศไทยมานาน 15 ปี ส่วนผู้เสียหายบางส่วนถูกนำมากักขังเพื่อเรียกค่าไถ่ โดยลักลอบเข้ามาทางรถยนต์จากด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก บางส่วนถูกนำมาเป็นคนงานทำขนมเค้กโดยได้ค่าจ้างไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน และไม่ให้ออกไปข้างนอก เชื่อว่าทำมาแล้วหลายราย และคาดว่าน่าจะมีคนไทยเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งจะสอบสวนขยายผลต่อไป
วันนี้ (23 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจสันติบาล 2 พล.ต.ต.สุรวุฒิ กลัดศิริ ผบก.ส.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภชัย ฟื้นพานิช ผกก.3 บก.ส.2 แถลงผลการจับกุมนายวิรัตน์ อายุ 29 ปี สัญชาติพม่า นายลาจิต อายุ 29 ปี สัญชาติพม่า และนายโกบิน อายุ 29 ปี สัญชาติพม่า ผู้ต้องหากระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551, กักขังหน่วงเหนี่ยวและพยายามกรรโชกทรัพย์
พล.ต.ต.สุรวุฒิ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก บก.ส.2 ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ กองบัญชาการทหารสูงสุด ว่าได้รับแจ้งจากนางดอนลี อายุ 53 ปี สัญชาติพม่า ว่านายลามู อายุ 23 ปีลูกชายถูกคนร้ายนำตัวมาจากประเทศพม่า และนำมากักขังไว้ที่บ้านในกทม. หากจะให้ปล่อยตัวจะต้องนำเงินสดจำนวน 23,000 บาทไปไถ่ตัว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.อ.ศุภชัย ฟื้นพานิช ผกก.3 บก.ส.2 พ.ต.ท.สถิตพร บุณยรัตนพันธ์ รองผกก.3 บก.ส.2 พ.ต.ท.เอกภพ ธรรมาธิกุล สว.กก.3 บก.ส.2 พร้อมพวกจึงได้วางแผนการจับกุมโดยนำเงินสดมอบให้นางดอนลีนำไปให้คนร้ายที่ศูนย์การค้าประตูน้ำเซ็นเตอร์ โดยนัดส่งมอบเงิน เวลา 16.00 น.วันที่ 22 กรกฎาคม 2551
พล.ต.ต.สุรวุฒิ กล่าต่อว่า เมื่อถึงเวลานัดเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม นายวิรัตน์ และนายลาจิต ที่มารับเงิน ก่อนขยายผลไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 84/1 ถ.สุขุมวิท 62 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เปิดเป็นโรงงานทำขนมเค้ก พบนายลามูถูกกักขังอยู่ร่วมกับ นายกันชา อายุ 30 ปี และนายโซ อายุ 24 ปี ซึ่งถูกกักขังเพื่อรอเรียกค่าไถ่ด้วย นอกจากนี้ยังพบชาวพม่าอีก 5 คน ซึ่งถูกล่อลวงมาเป็นคนงานทำขนมเค้กและถูกกักขังไม่ให้ออกไปไหนได้ โดยเหยื่อทั้งหมดถูกควบคุมโดยนายโกบิน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาดำเนินคดี พร้อมกับช่วยเหลือเหยื่อทั้งหมด
พล.ต.ต.สุรวุฒิ กล่าวด้วยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 พูดไทยได้และมีหนังสือเดินทางถูกต้อง เพราะอยู่ประเทศไทยมานาน 15 ปี ส่วนผู้เสียหายบางส่วนถูกนำมากักขังเพื่อเรียกค่าไถ่ โดยลักลอบเข้ามาทางรถยนต์จากด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก บางส่วนถูกนำมาเป็นคนงานทำขนมเค้กโดยได้ค่าจ้างไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน และไม่ให้ออกไปข้างนอก เชื่อว่าทำมาแล้วหลายราย และคาดว่าน่าจะมีคนไทยเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งจะสอบสวนขยายผลต่อไป
