นครศรีธรรมราช – หลังจากจับกุมหนุ่มโรคจิตก่อเหตุป่วนในโรงเรียนไดแล้ว สารวัตรนักเรียนและเจ้าหน้าที่ตำรวจยังหวั่น คาดว่ามีโรคจิตมีมากกว่า 1 คน เร่งสืบสวน หลังพบเบาะแสเผยผู้ต้องหาอาจมีปัญหาด้านจิต
กรณีเหตุการณ์คนร้ายบุกเข้าไปก่อเหตุกรรโชกทรัพย์และพยายามข่มขืนนักเรียนหญิงในโรงเรียนมัธยมศึกษาและโรงเรียนประถมศึกษาหลายโรงเรียนใน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช อย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความ และได้สร้างความหวาดผวาให้กับนักเรียนผู้ปกครอง ทั้งยังการเผยแพร่ภาพสเกตช์จนนำไปสู่การจับกุม นายอดิศักดิ์ เดชทองคำ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ซ.สวัสดิรักษา ถ.พัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ขณะกำลังอาศัยอยู่กับแฟนสาวที่บ้านพักในซอยหัวหว่อง 1 ต.ในเมือง อ.เมือง และในการสอบปากคำเบื้องต้นนั้นนายอดิศักดิ์ได้ให้การรับสารภาพ
วันนี้ (27 มิ.ย.) นายสมพงศ์ อยู่เถาว์ หน.ศูนย์ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนนักศึกษา (สารวัตรนักเรียน) เขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 เปิดเผยว่า จากข้อมูลหลังจากที่มีการจับตัวผู้ต้องหาได้แล้วนั้น สารวัตรนักเรียนยังคงติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบว่าบางโรงเรียนนั้นยังไม่ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่เท่าที่ควร
ขณะเดียวกัน พบข้อมูลที่ค่อนข้างน่าวิตกมีความเป็นไปได้สูงที่มีการก่อเหตุลักษณะเช่นนี้จากคนร้ายมากกว่า 1 ราย นอกเหนือจาก นายอดิศักดิ์ ที่ถูกจับกุมไปแล้ว ในส่วนของการเฝ้าระวังนั้นจะมีเจ้าหน้าที่สารวัตรนักเรียนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยติดตามตรวจสอบดูแลอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะเวลาเช้าก่อนเข้าแถวเคารพธงชาติและหลังเลิกเรียน
ขณะที่ พ.ต.ท.สำเริง ชูกะนันท์ รอง ผกก.สส.เปิดเผยว่า ในส่วนของผู้ต้องหานั้นขณะนี้อยู่ในระหว่างขออำนาจศาลฝากขัง ซึ่งการสอบสวนนั้นดำเนินการคืบหน้าไปมาก พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาหนักคือกระทำอนาจารเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย กรรโชกทรัพย์ ชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย หน่วงเหนี่ยวกักขัง และพรากผู้เยาว์ ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายโดยผู้ปกครองเข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้วหลายราย
“ในการตรวจสอบปัสสาวผู้ต้องหานั้นพบว่ามีสารเสพติดในปัสสาวะด้วย ซึ่งกำลังวิเคราะห์ว่าเป็นสารชนิดใด ในทางการวิเคราะห์ของพนักงานสอบสวนในเบื้องต้นนั้นพบว่ามีความเป็นไปได้ว่าผู้ต้องหามีปัญหาทางด้านจิตใจบางอย่าง จึงมาก่อเหตุ ในการสอบสวนนั้นเขาให้การว่าต้องการชิงทรัพย์เป็นหลัก แต่พนักงานสอบสวนไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากมีพฤติกรรมสอดคล้องและเจตนานั้นเป็นเครื่องชี้การกระทำ ซึ่งการสอบสวนน่าจะเสร็จในเร็วๆ นี้”
รอง ผกก.สส.กล่าวอีกว่า ในส่วนของการสืบสวนนั้นเรายังไม่นิ่งนอนใจว่าเมื่อจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้แล้วจะเบาใจได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าคนร้ายลักษณะเช่นนี้ยังมีรายอื่นอีก เนื่องจากพบข้อมูลบางอย่างในบางโรงเรียนที่มีความพยายามเข้าไปก่อเหตุ ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนอย่างใกล้ชิด
กรณีเหตุการณ์คนร้ายบุกเข้าไปก่อเหตุกรรโชกทรัพย์และพยายามข่มขืนนักเรียนหญิงในโรงเรียนมัธยมศึกษาและโรงเรียนประถมศึกษาหลายโรงเรียนใน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช อย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความ และได้สร้างความหวาดผวาให้กับนักเรียนผู้ปกครอง ทั้งยังการเผยแพร่ภาพสเกตช์จนนำไปสู่การจับกุม นายอดิศักดิ์ เดชทองคำ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ซ.สวัสดิรักษา ถ.พัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ขณะกำลังอาศัยอยู่กับแฟนสาวที่บ้านพักในซอยหัวหว่อง 1 ต.ในเมือง อ.เมือง และในการสอบปากคำเบื้องต้นนั้นนายอดิศักดิ์ได้ให้การรับสารภาพ
วันนี้ (27 มิ.ย.) นายสมพงศ์ อยู่เถาว์ หน.ศูนย์ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนนักศึกษา (สารวัตรนักเรียน) เขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 เปิดเผยว่า จากข้อมูลหลังจากที่มีการจับตัวผู้ต้องหาได้แล้วนั้น สารวัตรนักเรียนยังคงติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบว่าบางโรงเรียนนั้นยังไม่ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่เท่าที่ควร
ขณะเดียวกัน พบข้อมูลที่ค่อนข้างน่าวิตกมีความเป็นไปได้สูงที่มีการก่อเหตุลักษณะเช่นนี้จากคนร้ายมากกว่า 1 ราย นอกเหนือจาก นายอดิศักดิ์ ที่ถูกจับกุมไปแล้ว ในส่วนของการเฝ้าระวังนั้นจะมีเจ้าหน้าที่สารวัตรนักเรียนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยติดตามตรวจสอบดูแลอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะเวลาเช้าก่อนเข้าแถวเคารพธงชาติและหลังเลิกเรียน
ขณะที่ พ.ต.ท.สำเริง ชูกะนันท์ รอง ผกก.สส.เปิดเผยว่า ในส่วนของผู้ต้องหานั้นขณะนี้อยู่ในระหว่างขออำนาจศาลฝากขัง ซึ่งการสอบสวนนั้นดำเนินการคืบหน้าไปมาก พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาหนักคือกระทำอนาจารเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย กรรโชกทรัพย์ ชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย หน่วงเหนี่ยวกักขัง และพรากผู้เยาว์ ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายโดยผู้ปกครองเข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้วหลายราย
“ในการตรวจสอบปัสสาวผู้ต้องหานั้นพบว่ามีสารเสพติดในปัสสาวะด้วย ซึ่งกำลังวิเคราะห์ว่าเป็นสารชนิดใด ในทางการวิเคราะห์ของพนักงานสอบสวนในเบื้องต้นนั้นพบว่ามีความเป็นไปได้ว่าผู้ต้องหามีปัญหาทางด้านจิตใจบางอย่าง จึงมาก่อเหตุ ในการสอบสวนนั้นเขาให้การว่าต้องการชิงทรัพย์เป็นหลัก แต่พนักงานสอบสวนไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากมีพฤติกรรมสอดคล้องและเจตนานั้นเป็นเครื่องชี้การกระทำ ซึ่งการสอบสวนน่าจะเสร็จในเร็วๆ นี้”
รอง ผกก.สส.กล่าวอีกว่า ในส่วนของการสืบสวนนั้นเรายังไม่นิ่งนอนใจว่าเมื่อจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้แล้วจะเบาใจได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าคนร้ายลักษณะเช่นนี้ยังมีรายอื่นอีก เนื่องจากพบข้อมูลบางอย่างในบางโรงเรียนที่มีความพยายามเข้าไปก่อเหตุ ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนอย่างใกล้ชิด