xs
xsm
sm
md
lg

ตอบโจทก์...อัยการจำเลยสังคม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

สำนักงานอัยการสูงสุด ที่มี"นายชัยเกษม นิติสิริ"นั่งอัยการสูงสุดในยุคนี้ กำลังถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ อย่างหนัก พร้อมกับถูกตั้งคำถามว่า องค์กรนี้ ทำหน้าที่สมบทบาททนายแผ่นดิน ตามที่ควรจะเป็นหรือไม่...

ประเด็นร้อนความขัดแย้งในมุมมองทางกฎหมาย ระหว่าง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส.ที่บุคคลากรแต่ละบุคคล เป็นผู้ที่มากด้วย ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในการพิจารณาอรรถคดีความ มามากต่อมาก กับ สำนักงานอัยการสูงสุด ที่มีหน้าที่หลักคือ ทนายแผ่นดิน รับพิจารณาสั่งคดีขึ้นสู่ศาล และว่าความเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง กำลังเป็นปมร้อน ถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้...

เมื่อไปถอดรหัส...หลักฐานทางคดี ที่ คตส.ส่งผ่าน สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อทำหน้าที่ เป็นโจทก์ฟ้องคดีเข้าสู่ศาล พบว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ...อัยการต้องตกเป็นจำเลยของสังคม ไปโดยปริยาย...

เริ่มจาก **คดีหลีกเลี่ยงภาษีชินฯ**ตามหมายเลขคดีดำ อ.1149/2550 ที่มี "นายพชร ยุติธรรมดำรง" อัยการสูงสุด(ขณะนั้น) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ อดีตประธานกรรมการบริหาร บ.ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พี่ชายต่างมารดาคุณหญิงพจมาน, คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐาน ร่วมกันจงใจหลีก
เลี่ยงการชำระภาษีอากรหุ้นบริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์แอนด์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)มูลค่าหุ้น 738 ล้านบาท และภาษีที่หลีกเลี่ยงจำนวน 546 ล้านบาท โดยความเท็จ โดยฉ้อโกง โดยใช้กลอุบาย อันเป็นความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37(1) (2) และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และ 91 คดีนี้ เข้าสู่กระบวนการสืบพยานโจทก์ จำเลย และตามกำหนดเดิมจะมีคำพิพากษาในวันที่ 4 ก.ค.นี้(หากศาลไม่เลื่อน)

**คดีที่ดินรัชดาภิเษก**หมายเลขคดีดำที่ อม.1/2550 "นายพชร ยุติธรรมดำรง"อัยการสูงสุด(ขณะนั้น)เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกันเป็นคู่สัญญา หรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐ ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้น ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี และเป็นเจ้าพนักงานและผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้าไปมีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตัวเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น เป็นเจ้าพนักงานและผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4, 100 และ 122 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 86, 91, 152 และ 157 ในการทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก จำนวน 33 ไร่มูลค่า 772 ล้านบาท จากกองทุนฟื้นฟูกิจการและสถาบันการเงินอันเป็นการซื้อขายที่ดินต่ำกว่าราคาประเมิน 4,200 ล้านบาท โดยท้ายฟ้องอัยการขอให้ศาลริบทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิดและได้มาจากการกระทำความผิด คือที่ดินรัชดาภิเษกจำนวน 33 ไร่ให้ตกเป็นของแผ่นดิน

คดีนี้ฝ่ายจำเลยยื่นพยาน 22 ปาก อัยการโจทก์ยื่นบัญชีพยาน 42 ปาก โดยศาลนัดไต่สวนพยานโจทก์วันที่ 8 ,15 ,22 ,25 และ 29 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น. และนัดไต่สวนพยานจำเลยทั้งสอง วันที่ 1,5,15 ,19 และ 22 ส.ค.นี้ เวลา 09.30 น.โดยให้นัดไต่สวนพยานหลักฐานเพิ่มเติมไว้ในวันที่ 26 , 29 ส.ค. และ 2 ก.ย. เวลา 09.30 น.

ขณะที่จำเลยต่อสู้ประเด็นข้อกฎหมาย ยื่นคำร้องโต้แย้ง ว่า ม.4, ม.100 และ ม.122 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช.ขัดหรือแย้งกับ ม.3 และ ม.38 วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2549 และขัดหรือแย้งกับ ม.29 (โดยเนื้อหาคำร้องขอให้วินิจฉัย ม.26-28, ม.39 และ ม.43) ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 หรือไม่เท่า ศาลฎีกาจึงต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าว

มาถึงยุค"นายชัยเกษม นิติศิริ"อัยการสูงสุดคนปัจุบัน กลับไม่ปรากฎหลักฐานทางคดีว่า ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องแม้แต่สักสำนวนคดีเดียว โดยส่วนใหญ่เมื่อ คตส.ส่งสำนวนมาให้อัยการ ก็จะมีความเห็นให้สอบสวนเพิ่มเติม พร้อมให้แต่งตั้งคณะทำงานร่วม ระหว่างอัยการ และ คตส.

เริ่มจาก **คดีหวยบนดิน** คดีดำหมายเลขที่ อม.1/2551 ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกับพวกรวม 47 คน เป็นจำเลย

คดีนี้ ถือเป็นคดีแรกที่ นายชัยเกษม นิติสิริ นั่งอัยการสูงสุด และเป็นคดีแรกที่เกิดความขัดแย้งกับ คตส.อย่างรุนแรง จึงถึงขั้น คตส.เรียกสำนวนคดีหวยกลับคืนทั้งหมด ขณะที่ นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะทำงานคดีหวย พูดยอมรับว่า “หากสังคมจะคิดว่าเรื่องนี้เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อัยการก็คงไปห้ามไม่ได้ แต่ผมขอเรียนว่า คณะทำงานอัยการเราพิจารณาสำนวนตามพยานหลักฐานไม่เคยนำเรื่องภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องเลย”

คดีนี้แปลกแต่จริง...เมื่ออัยการให้ออกมาเห็นด้วยกับ กรณีที่จำเลยร้องขอให้ศาลรัฐธรรรมนูญตีความคุณสมบัติของ คตส.อีกทั้ง มีข่าวแว่วว่า จำเลยเตรียมขอให้อัยการเป็นทนายแก้ต่างคดีความให้...

**คดีกล้ายาง**อัยการก็มีความเห็นให้ตั้งคณะทำงานร่วมอีกตามเคย แต่ คตส.ไม่เล่นด้วย จึงต้องฟ้องคดีเองโดยสำนวนคดีทุจริตการจัดซื้อกล้ายางพารา 90 ล้านต้น มูลค่า 1,440 ล้านบาท ของกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยื่นฟ้องผู้ถูกกล่าวหารวม 47 ราย ประกอบด้วย กลุ่มคณะรัฐมนตรี ครม.) ,กลุ่มคณะ
กรรมการกลั่นกรองเสนอโครงการต่อ ครม. คณะที่ 2 ,กลุ่มคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.),กลุ่มคณะกรรมการบริหารโครงการ ( กำหนดทีโออาร์) และคณะกรรมการพิจารราผลประกวดราคาซึ่งเป็นกลุ่มข้าราชการ และกลุ่มบริษัทเอกชน ที่มี 3 ราย ประกอบด้วย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ จำกัด ในเครือซีพี,บริษัท รีสอร์ทแลนด์ จำกัด และ บริษัท เอกเจริญการเกษตร จำกัด

**คดีเอ็กซิมแบงก์**ก็เช่นกัน คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ( คตส.)ต้องเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยต่อศาลฯในความผิดฐานใช้อำนาจหน้าที่กระทำผิด กรณีเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น และผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และ 157 ที่เห็นชอบให้เอ็กซิมแบงก์อนุมัติปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับรัฐบาลพม่าวงเงิน 4,000 ล้านบาท ในโครงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมของพม่า เพื่อหวังประโยชน์ในธุรกิจดาวเทียมที่มีการสั่งซื้ออุปกรณ์ จากบริษัทชินแซทเทิลไลท์ บริษัทในเครือชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)ของตระกูลชินวัตร โดย คตส. ขอให้ศาลฯพิพากษาลงโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยให้นับโทษ ต่อจากคดีทุจริตซื้อ-ขายที่ดินรัชดาภิเษก

**คดีซีทีเอ็กซ์**ยังเป็นคดีเจ้าปัญหา เมื่อ นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ตกเป็น 1 ในผู้ถูกกล่าวหา และวันนี้คดีความก็ยังค้างเพื่อรอส่งต่อให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.รับไปดำเนินการต่อ โดยอัยการมีความเห็นให้ ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่าง อัยการ กัน ป.ป.ช.

โดยคดีทุจริตจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ 9000 ความเดิม คตส.ชี้มูลความผิด กลุ่มผู้ถุกกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ,นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคม และกลุ่มคณะกรรมการ - พนักงานบริษัทการท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ (บทม.),คณะกรรมการ - พนักงานบริษัทการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) และกลุ่มกิจการร่วมค้า ITO ซึ่งเป็นนิติบุคคลภาคเอกชน รวมทั้งสิ้น 25 ราย ให้นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด พิจารณาสั่งคดี

ส่วนนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด คตส.มีมติที่จะแยกสำนวนส่งฟ้องเองตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมาตรา 56 (2) ประกอบมาตรา 97

**คดียึดทรัพย์ทักษิณ 7.6 หมื่นล้าน**อัยการสูงสุด ถูก คตส.กล่าวหาอย่างรุนแรงว่า "ตัดสะพานคดีขึ้นสู่ศาล"โดยหลอกให้ คตส.เร่งส่งสำนวนฟ้องจนทำให้เจ้าหน้าที่ คตส.ต้องเป็นลมคาเครื่องถ่ายเอกสารถึง 2 คน แม้ต่อมาอัยการจะออกมาปฎิเสธว่า ไม่ได้หลอกว่าจะส่งฟ้องยึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เหตุที่ยังไม่ส่งฟ้องเนื่องจาก ยังมีข้อไม่สมบูรณ์เรื่องจำนวนเงินให้ยึด 76,000 ล้าน แต่อายัดไว้ 69,000 ล้าน ส่วนที่เหลือไม่ปรากฏแล้วอัยการจะร่างฟ้องอย่างไร

**คดีบ้านเอื้ออาทร** ในส่วนของการชี้มูลความผิด นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับพวก ทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างเอกชนโดยการเคหะแห่งชาติ ในโครงการบ้านเอื้ออาทร ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 คตส.ส่งให้อัยการพิจารณาแล้ว

ส่วนคดีแอมเพิลริช คดีท่อร้อยสายไฟ คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้เครือกฤษฎามหานคร และคดีบ้านเอื้ออาทร โครงการอื่นๆก็ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา คตส.

จากหลักฐานทางคดีข้างต้น แปลกแต่จริง!!!เมื่อพบว่า สำนวนคดีที่อัยการฟ้องเข้าสู่ศาล ทั้ง 2 คดี เกิดในยุค"นายพชร ยุติธรรมดำรง" อดีตอัยการสูงสุด ส่วนยุค "นายชัยเกษม นิติสิริ" อัยการสูงสุด คนปัจจุบัน อสส.ที่ติดร่างแหคดีความซีทีเอ็กซ์ กลับไม่มีการยื่นฟ้องแม้แต่สักคดีเดียว....

การพิจารณาคดีของอัยการสูงสุดท่านนี้ จะเกิดจากปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่สมบูรณ์ครบถ้วนในประเด็นแห่งการต่อสู้หรือไม่ หรือ ท่านมีความรู้สึกส่วนตัวที่มีอคติต่อการทำหน้าที่ของ คตส.เป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว ทำให้ การทำหน้าที่ของอัยการสูงสุด ถูกวิพากษ์วิจารณ์ และเปรียบเป็น "จำเลยของสังคม"
นายชัยเกษม นิติสิริ
นายพชร ยุติธรรมดำรง
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิง พจมาน
กำลังโหลดความคิดเห็น